ในการทำธุรกิจส่วนตัว อาชีพส่วนตัว หรือพนักงานก็ตาม หากประสบความสำเร็จไปได้ดี รายรับดี ร่ำรวยแล้ว ต้องรีบหาทางต่อยอดให้ไว เพื่อป้องกันความเสี่ยงโดยเฉพาะมือใหม่ประสบการณ์ยังน้อย อาจจะรุ่งได้ไม่นานก็ร่วงยาว ดังนั้นต้องรีบหาทางต่อยอด ระวังการใช้เงินผิดทาง

 

ปัจจุบันนี้เป็นยุคที่การทำธุรกิจส่วนตัว มีโอกาสรุ่งไปได้เร็ว รวยเร็ว เพราะมีหลายปัจจัยที่เอื้ออำนวยอย่างมาก เช่น จำนวนคนที่มากขึ้น การเข้าถึงผู้คน ระบบการชำระเงิน การจัดส่งสินค้า ฯลฯ ทำให้หลายคนแม้จะอายุยังน้อยก็ร่ำรวยได้ไม่ยาก อย่างการหาเงินผ่านเน็ต ขายของผ่านเน็ต ผ่านเฟสบุ๊ค ไลน์ หรือ เว็บไซต์ตัวเอง หากสินค้าขายดี ส่งเข้าตลาดได้เหมาะกับจังหวะเวลาและโอกาส ก็ทำเงินได้หลักแสนหลักล้านในเวลาไม่นาน บางคนใช้เงินเริ่มต้นหลักพัน แต่ทำยอดได้หลักล้านใน 3-4 เดือนก็มี

 

แต่เมื่อรวยแล้ว เริ่มไปได้ดีแล้ว หลายคนไม่พยายามต่อยอด เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ ไม่นานก็จะร่วงเหมือนเดิม รวยและสำเร็จในช่วงสั้นๆ เท่านั้นเอง จากนั้นอาจจะลุกไม่ขึ้นอีกเลย ร่วงยาววว

 

หัวข้อทั้งหมดในบทความนี้

  1. ปัจจัยที่มีโอกาสทำให้ธุรกิจร่วง แม้จะวางแผนอย่างดี
  2. การติดกับดักแห่งความสำเร็จ
  3. คู่แข่งแซงหน้า
  4. เจอการกลั่นแกล้งจากคู่แข่ง
  5. อันตรายจากคนขี้อิจฉา
  6. ระวังการทำธุรกิจที่คนอื่นคุมเกม
  7. ขึันสูงเทียมฟ้า ลงต่ำก็จมดิน
  8. อย่าฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือยจนกว่าจะมันใจว่ามั่นคงแล้ว
  9. อย่าได้หยุด จนกว่าจะแน่ใจว่าได้สร้างรายรับไว้หลายทางแล้ว
  10. ใช้ชีวิตเรียบง่าย
  11. หมดแรงที่จะทำแม้จะมีโอกาสดีๆ ธุรกิจดีๆ ให้ทำ

 

ปัจจัยที่มีโอกาสทำให้ธุรกิจร่วง แม้จะวางแผนอย่างดี

ไม่มีอะไรแน่นอน เป็นคำพูดที่ใช้ได้ดีในทุกธุรกิจ เมื่อใดมีความสำเร็จ มีความรวย ความล้มเหลวและความจนซึ่งเป็นสิ่งคู่กันก็จะอยู่ใกล้ๆ นั่นเอง อยู่อีกด้านหนึ่ง รวยมาก ประสบความสำเร็จมาก โอกาสล้มเหลวก็มากตามไปด้วย เช่นกัน ซึ่งมีหลายปัจจัยหลายสาเหตุที่จะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปตรงกันข้าม เช่น

 

การติดกับดักแห่งความสำเร็จ

กับดักแห่งความสำเร็จมันเป็นความรู้สึกสบายๆ กับสิ่งที่ได้รับในขณะนั้น จนไม่อยากจะทำอะไรต่อ ไม่มีการพัฒนาตนเอง อยู่เฉยๆ สบายๆ หลายคนก็เชื่อว่า ตัวเองไม่มีวันล้ม วางแผนดีแล้ว สำหรับธุรกิจบางประเภท จะทำให้เป็นแบบนั้น เช่น การขายสินค้าของเราเอง หากไปได้ดีแล้ว มียอดขายเข้ามาทุกเดือน ก็ไม่อยากจะทำอะไร มีบ้าน มีรถ มีสิ่งของที่ต้องใช้ครบ ก็จะเริ่มเฉยๆ ชาๆ ไม่ทำอะไร จนกระทั่ง ยอดขายมีปัญหา จากคู่แข่งหรือปัจจัยอื่น ทำให้หลายคนต้องม้วนเสื่อกลับบ้าน ธุรกิจล้มไม่เป็นท่า ทั้งๆ ที่เริ่มจะไปได้ดี แต่หากหาทางต่อยอด ด้วยการนำเงินไปลงทุน สร้างรายรับไว้หลายๆ ทาง กระจายความเสี่ยง ก็จะช่วยได้

 

เพราะไม่มีธุรกิจอะไรที่จะคงอยู่ได้ตลอดไป ยากมาก เนื่องจากมีคู่แข่งเกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา

 

คู่แข่งแซงหน้า

เมื่อสินค้าใดขายดี คู่แข่งก็จะเกิดตามมาด้วยการตัดราคา แย่งลูกค้า ฯลฯ หากกิจการไปได้ดี แล้วก็ต้องพยายามต่อยอด อาจจะสร้างธุรกิจให้โตขึ้นเรื่อยๆ หรือหาทางสร้างความได้เปรียบไม่ให้คู่แข่งสามารถล้มได้ง่ายๆ หรือหาทางลงทุนหลายๆ ทาง ป้องกันความเสี่ยงเช่นเดียวกัน ผมเคยผลิตสินค้า ออกมาขาย ขายดีมาก แต่ไม่กี่เดือน ก็มีสินค้าเลียนแบบ ขณะนั้นกำลังติดกับดักความสุขอยู่ทางเหนือ วันๆ ขับรถขึ้นดอยลงดอย ไม่สนใจ สุดท้ายก็ร่วงไม่เป็นท่า ร่วงยาวเลย

 

เจอการกลั่นแกล้งจากคู่แข่ง

การกลั่นแกล้งจากคู่แข่งนั้นมีทุกประเภทสำหรับการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะทำธุรกิจออนไลน์หาเงินทางเน็ต หรือเปิดร้านค้า เมื่อใดที่สินค้าขายดี ร้านค้าขายดี ก็ต้องระวังตัว มีพี่ๆ น้องๆ ที่รู้จักกัน เปิดร้านอาหารไปได้ดี ทำยอดขายได้วันหลักหมื่น แต่แล้วก็ต้องปิดตัว เพราะเจ้าที่ซึ่งเสียผลประโยชน์มาข่มขู่ บางร้านก็ส่งนักเลงมาป่วน หรือใช้ระบบจัดการทางอ้อมให้ออกไป มีทุกแบบ ดังนั้น เมื่อธุรกิจไปได้ดีแล้ว ต้องหาทางปิดช่องโหว่ให้หมด หาจุดอ่อน จุดแข็งในธุรกิจนั้นให้เจอ หรือหากทำไม่ได้ ก็ต้องหาทางต่อยอดไว้หลายๆ ทาง เพราะบางทีอาจจะขึ้นไม่นาน ก็ถูกสอยร่วง บางครั้งอาจจะเสียค่าใช้จ่ายล่วงหน้าไปแล้ว หลักแสน มันจะช้ำใจ และล้มพับได้ ง่ายๆ

 

อันตรายจากคนขี้อิจฉา

ลองนึกภาพว่าคุณมีร้านของตัวเอง อาจจะในโรงเรียน หน่วยงาน องค์กร ฯลฯ หากร้านไปได้ดี ความอิจฉาต้องเกิด และอาจจะตามมาด้วยรูปแบบการกลั่น แกล้งแบบต่างๆ เพื่อถีบเราออกไป นี่คือเรื่องเป็นเกิดขึ้นได้บ่อยๆ แม้แต่ในครอบครัวของเราเอง พี่น้องคลานตามกันมาก็ตามที

 

ระวังการทำธุรกิจที่คนอื่นคุมเกม

การทำธุรกิจที่บุคคลอื่นเป็นผู้คุมเกมอาจจะบางส่วนก็ตาม แต่ก็มีส่วนทำให้เกิดปัญหากับเราได้ ผมเคยติดต่องานกับหน่วยงานหนึ่ง ฝากขายสินค้า ใน 1 ปี จะ จ่ายเงินให้ 2 ครั้ง แต่ขายของได้ทุกเดือน เอาเงินไปไหน ก็เอาไปหมุนก่อน นั่นคือกฏของหน่วงงานนั้น หากเจอการหมุนเงินก้อนโตๆ ที่เราลงทุนไปมากๆ ปัญหาใหญ่อาจจะตามมาทำให้ธุรกิจเรามีปัญหาได้ ดังนั้นต้องอ่านให้ขาด จะได้หาทางป้องกัน

 

ขึันสูงเทียมฟ้า ลงต่ำก็จมดิน

เมื่อใดที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งหากลองอ่านประวัติคนรวย คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะเจอะเจอประสบการณ์ที่คล้ายกัน ในช่วงแรกๆ จะรุ่งมากแล้วก็ร่วงชนิดจมดิน นี่คือสิ่งที่ต้องระวัง และหาทางต่อยอด อย่าได้ประมาท ว่าข้าเก่งแล้ว เจ๋งแล้ว ร่วงแทบทุกรายที่คิดแบบนี้

 

อย่าฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือยจนกว่าจะมันใจว่ามั่นคงแล้ว

เมื่อธุรกิจเริ่มไปได้ดี อย่าเพิ่งชะล่าใจ ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เอาเงินไปลงกับสิ่งที่ไม่ทำให้เกิดกำไรหรือรายได้ จนกว่าจะแน่ใจว่า ปลอดภัยแน่นอน จึงค่อยสร้างความสุขให้ตัวเองด้วยวัตถุหรือสิ่งฟุ่มเฟือย แต่ต้องอยู่ในความปลอดภัยไม่สร้างหนี้ผูกพันระยะยาว เพราะหากพลาดล้มขึ้นมา จะดึงกันไปทั้งหมด

 

กรณีศึกษาการต่อยอด ระหว่างการนำเงินไปลงทุนเพิ่ม กับนำเงินไปใช้ในทางที่อาจจะเป็นอันตรายต่อการเงินของตัวเอง ติดตามได้จากบทความนี้

 

อย่าได้หยุด จนกว่าจะแน่ใจว่าได้สร้างรายรับไว้หลายทางแล้ว

เพราะอะไรก็ไม่แน่นอน หากยังไม่มีรายรับมาจากหลายๆ ทางให้มั่นใจ ก็จงพยายามหาทางนำเงินไปต่อยอด เพื่อสร้างรายได้ แต่การต่อยอดก็ต้องระวัง อย่าทำเรื่องที่ต้องใช้สมองมากเกินไป เรียนรู้มากเกินไปจนงานหลักพัง

ใช้ชีวิตเรียบง่าย

แม้จะประสบความสำเร็จแค่ไหน การใช้ชีวิตเรียบง่ายจะดีที่สุด เช่น ไม่มีหนี้ ไม่มีข้าวของหรือสมบัติให้ต้องเป็นห่วง ไม่มีกิ๊ก ไม่มีเรื่องที่ทำให้เหนื่อยใจ ทุกข์ใจ ชีวิตเรียบง่ายสบายๆ ปัญหาน้อย สมองปลอดโปร่ง อย่างเจ้าของเฟสบุ๊ค ใส่เสื้อยืด กางเกงยีน สบายๆ เมื่ออยู่บนความเรียบง่าย ชีวิตไม่มีปัญหา ก็จะมีสมาธิคิดและทำอะไรต่อยอด ธุรกิจได้ดีกว่า การใช้ชีวิตซับซ้อน มีกิ๊กหลายคน มีสัตว์เลี้ยง ทรัพย์สมบัติ เป็นภาระ เต็มไปหมด

 

หมดแรงที่จะทำแม้จะมีโอกาสดีๆ ธุรกิจดีๆ ให้ทำ

ธุรกิจทุกอย่างมีวันเกิด ก็มีวันดับ ดวงชะตาคนเราก็เหมือนกัน มีขึ้นก็มีลง หากช่วงขาลงเป็นช่วงที่กำลังแย่ อายุมาก เจ็บป่วย ไม่มีแรงกาย แรงใจ แรงเงิน ไม่มีอะไรเลย แม้จะมีโอกาสดีๆ เข้ามา ก็จะไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นเมื่อมีโอกาสต้องรีบหาทางต่อยอดในธุรกิจที่ทำ ถ้าไม่ต่อยอด ก็อย่าใช้เงินในทางที่สร้างรายจ่าย แต่พยายามใช้ชีวิตให้เรียบง่าย เพื่อลดรายจ่าย

 

การทำธุรกิจส่วนตัวในปัจจุบัน ขึ้นเร็ว ลงเร็ว จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องศึกษาให้รอบด้าน โดยเฉพาะการต่อยอดความสำเร็จ เพื่อป้องกันความเสี่ยง เพราะอะไรก็ไม่แน่นอน ธุรกิจมีเกิด ก็มีดับ สลับกันไป และหลายคนก็มักจะทำให้ดับเองเสมอๆ มีโอกาสดีๆ เข้ามาก็มักจะเปลี่ยนให้เป็นวิกฤตทุกที ผมคนหนึ่งที่เป็นแบบนั้น ล้ม ไม่รู้กี่ครั้ง จนจะคลานไปข้างหน้าแล้ว ขี้เกียจเดินหรือวิ่ง ตอนนี้ก็เลื้อยไปเรื่อยๆ