ปัญหาน้ำท่วมรถเป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยง เพราะบางทีก็คาดไม่ถึง แต่เมื่อเกิดเหตุแล้ว การซ่อมในบางคันอาจจะคุ้มค่าและมีค่าใช้จ่ายไม่มาก หรือแม้จะมีค่าใช้จ่ายก็จะต้องซ่อม เพราะยังมีหนี้ค้างไฟแนนซ์ เมื่อจะต้องซ่อมรถน้ำท่วมก็ต้องวางแผนให้ดี เพื่อลดค่าใช้จ่าย

ตรวจสอบการประกันภัย มีเงื่อนไขรองรับหรือไม่
สำหรับรถใหม่ที่มีประกัน ก็คงต้องเปิดสมุดดูว่า การทำประกันนั้นอยู่ในเงื่อนไขประกันหรือไม่ กับกรณีของการเกิดอุบัติเหตุทางธรรมชาติแบบนี้

การวางแผนการซ่อมรถน้ำท่วม
การซ่อมรถน้ำท่วมหนักหนาสาหัสเอาการเหมือนกัน อาจจะหลักแสนบาทเลยทีเดียว เพราะต้องตรวจสอบทั้งคัน โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ที่มีระบบอีเล็คทรอนิค ระบบไฟฟ้าเยอะมาก รายจ่ายตามมามากอย่างแน่นอน และการซ่อมก็ต้องมีเวลาเพราะต้องทำหลายจุด

รวบรวมหาข้อมูลราคาอะไหล่เสียก่อน
หากนำรถยนต์ไปซ่อมกับอู่หรือศูนย์ต่างๆ การคิดราคาอะไหล่จะบวกเพิ่มประมาณ 1 เท่าตัว เช่น อะไหล่ราคา 500 อาจจะบวกเพิ่มเป็น 1 พันบาท ค่าแรงต่างหาก ดังนั้น ต้องหาข้อมูลราคาอะไหล่เสียก่อน เพราะรายการต้องซ่อมกรณีรถน้ำท่วม รายการอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนอาจมีเยอะมาก อะไหล่อีเล็คทรอนิคหรือระบบไฟฟ้าจะมีราคาสูง แต่ทั้งนี้อะไหล่เครื่องยนต์บางอย่างก็แพงมาก เช่น ระบบเกียร์ใน Honda City บางรุ่น ราคาเกือบ 150,000 บาท กรณีอย่างนี้ หารถมือสองจะดีกว่า ขายซากไปเลย ไม่คุ้มซ่อม

การซ่อมกับอู่ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอู่ประกัน
การซ่อมในลักษณะนี้จะมีแผนกหรือส่วนที่ดูแลรถได้ทั้งคัน เอารถเข้าที่เดียวก็จบได้ แต่ในเรื่องรายจ่ายต้องหาข้อมูลให้ดี ว่าคิดแพงมากน้อยแค่ไหน แต่ไม่ยุ่งยากเหมือนแนวทางอื่น เพียงแต่เรื่องอะไหล่ต้องหาซื้อเอง แต่ละจังหวัดจะมีร้านอะไหล่ใหญ่ๆ ที่สามารถส่งของไปก่อนได้ ถ้าไม่ใช้ก็เอาไปคืนได้ หรือลองติดต่อที่สระบุรีอะไหล่

การรื้อรถทั้งคันนั้น
กรณีต้องการซ่อมเอง การรื้อรถทั้งคัน อาจจะสามารถทำเองได้ เพราะทุกวันนี้ก็มีคู่มือ มีเว็บบอร์ด กลุ่ม Facebook รถแต่ละยี่ห้อ หาข้อมูลได้ไม่ยาก แต่อู่สีจะทำได้ดีที่สุด เพราะมีความชำนาญกว่า การรื้อเพื่อนำชิ้นส่วนภายในมากตากให้แห้ง การรื้อนั้น อาจจะจ้างช่างมาทำที่บ้าน ก็ถูกกว่าแน่นอน แต่ก็ต้องระวังช่างที่ขาดความรับผิดชอบ ควรไปติดต่อที่อู่สีโดยตรงจะดีกว่า

การรื้อคอนโซลและระบบไฟฟ้านั้น ร้านดูแลระบบไฟ สามารถทำได้ ควรติดต่อร้านเฉพาะทางจะประหยัดกว่า เพราะบางอู่เก่งเครื่องยนต์ ก็จะจ้างข่างไฟมาช่วยดูระบบไฟ กลายเป็นว่า เสียเงิน 2 เด้ง จ่ายให้ทั้งอู่เครื่องยนต์และช่างไฟ

ระบบไฟฟ้า
ส่วนนี้เป็นด่านแรกที่จะต้องจัดการ เริ่มจากแบตเตอรี่ต้องถอดออก เริ่มจากการถอดขั้วลบก่อน แล้วถอดขั้วบวก จากนั้นก็ถอดฟิวส์ต่างๆ ทั้งหมด แล้วค่อยๆ ไล่เช็คไปทีละจุด ทีละระบบ โดยเริ่มจากฟิวส์ก่อน

ไดชาร์จ ไดสตาร์ท คอยล์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ต้องถอดมาตรวจสอบและทำความสะอาด ฉีดน้ำยาไล่ความชื้นป้องกันการขึ้นสนิมภายใน

ระบบไฟนั้น ให้คงไว้แต่การจ่ายไฟให้กับชิ้นส่วนสำคัญไว้ก่อน แล้วค่อยนำรถไปไล่ซ่อมกับอู่เฉพาะ เช่น ระบบแอร์ ไปร้านแอร์ เป็นต้น