ความผิดพลาดในการซื้อของ ซื้อสินค้าออนไลน์มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ทำให้เสียเวลา เสียเงิน เสียใจ ซึ่งอาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ผู้ซื้อ เองที่ไม่มีความรู้ ไม่เคยมีประสบการณ์ในการซื้อสินค้าออนไลน์ จึงทำรายการซื้อขายไม่ถูกต้อง หรือตัวระบบการขายเองที่มีความซับซ้อนเกินไป หรือความผิดพลาดจากผู้ขายทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ในบทความนี้จะมาแนะนำเรื่องควรรู้โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ เพื่อป้องกันความผิดพลาด

 

สินค้าที่ขายผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ นอกจากข้อมูลสินค้าแล้ว ก็มักจะมีโฆษณาสารพัดและข้อมูลที่ผู้ขายสินค้าอาจจะใช้ข้อความหรือภาพลง โฆษณาที่ทำให้ผู้ซื้อเข้าใจผิด หรือ ตัวระบบเอง ดังนั้นจึงต้องศึกษาระบบให้เข้าใจ เพื่อป้องกันความผิดพลาด

 

เรื่องควรรู้การซื้อสินค้าออนไลน์

ในบทความนี้ก็จะขอยกตัวอย่าง การซื้อสินค้าที่ลาซาด้า เพราะมีคนใช้บริการมาก จะได้เป็นข้อมูลเพื่อช่วยเหลือมือใหม่ ให้มีความรู้ในการใช้ บริการ

 

สร้างประสบการณ์การเลือกดูสินค้า

หลังจากติดตั้งแอป Lazada ในมือถือแล้ว สำหรับมือใหม่ควรศึกษาการใช้บริการ เปิดใช้งานแป แล้วแตะเลือกสินค้า เพื่อดูรายละเอียด ฝึกค้น หาสินค้าด้วยการพิมพ์ชื่อสินค้าที่สนใจ เรียนรู้วิธีค้นหาสินค้าราคาถูกกว่า ร้านค้าที่น่าเชื่อถือมากกว่า เป็นต้น

 

ข้อมูลสินค้าที่จะต้องทำความเข้าใจ

สิ่งสำคัญที่จะต้องทำความเข้าใจก็คือ ข้อมูลของสินค้าที่กำลังดูอยู่นั้น ต้องแยกแยะให้ออกว่า ส่วนไหนเป็นข้อมูลของสินค้านั้นๆ หรือ ส่วนไหน เป็นสินค้าที่ระบบแนะนำ เผื่อเราอาจจะสนใจ หรือ อาจจะเป็นสินค้าที่มีความเกี่ยวข้องกัน ก็นำมาแนะนำ หรือ เป็นสินค้าอื่นๆ ของทางร้าน ซึ่งมัก จะอยู่ด้านล่างท้ายข้อมูลสินค้านั้นๆ

 

สำหรับข้อมูลสินค้า ก็จะมีชื่อสินค้า คุณสมบัติ รายละเอียด ภาพประกอบ ที่จะต้องทำความเข้าใจ บางครั้งภาพประกอบอาจจะไม่เหมือนข้อ ความรายละเอียดสินค้า ก็ต้องยึดที่ข้อความเป็นหลัก ภาพไม่ตรง มักจะใช้เป็นหลักฐานโต้แย้งไม่ได้ แต่ข้อความชื่อสินค้า รายละเอียดสินค้าจะ เป็นหลักฐานที่ใช้โต้แย้ง เพื่อคืนสินค้าได้ เพราะการใช้ข้อความที่ทำให้ผู้ซื้อสับสนหรือไม่ถูกต้องย่อมมีความผิด

 

ราคาสินค้า

สินค้าแต่ละชนิดจะมีราคาสินค้าที่ชัดเจน แต่จะมีการลดราคาเป็นช่วงๆ สิ่งสำคัญที่จะต้องระวังก็คือ สินค้าราคาถูก ต้องตรวจสอบให้ดี เพราะ ภาพประกอบที่ใช้อาจจะไม่เหมือนกัน เช่น ไมค์ราคาถูก 201.80 บาท แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นสินค้าตัวอื่น ดังนั้นเมื่อใดที่เห็นสินค้าราคาถูก ให้บอก ตัวเองไว้ก่อนเลยว่า จะต้องมีอะไรซ่อนเร้น เช่น ตัวเลือกสินค้า

 

ตัวเลือกสินค้า

สินค้าแต่ละชิ้นอาจจะมีตัวเลือกสินค้าที่ไม่หมือนกัน ตรงนี้เป็นจุดสำคัญที่อาจจะทำให้ผู้ซื้อมือใหม่เกิดการเข้าใจผิด
1. ตัวอย่างภาพสินค้านี้เป็นรูปไมค์ราคา 201.80 บาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ที่ไมค์แบบนี้จะมีราคาถูกขนาดนี้
2. ให้ไปดูที่ตัวเลือกสินค้า แตะ >
3. แตะที่สินค้าที่เป็นการ์ดเสียง
4. จะพบว่า เป็นสินค้าตัวนี้ เป็นการ์ดเสียง ราคา 201.80 บาท ไม่ใช่ไมค์แต่อย่างใด ถ้าสิ่งก็จะผิดพลาด ไม่ได้ไมค์อย่างที่ต้องการ
5. และเมื่อแตะตัวเลือกสินค้าที่เป็นไมค์ จะพบว่าราคาอยู่ที่ เช่น 649 บาท
6. สิ่งสำคัญให้ดูที่ข้อความอธิบายสินค้าอย่าไปดูภาพ อย่าง 201.80 จะบอกว่า Only V8 Sound Card ราคานี้เฉพาะซาวด์การ์ดเท่านั้น ไม่ได้รวม ไมค์ แต่ในรูปมีไมค์ด้วย หากไม่ดูให้ละเอียดรอบคอบก็อาจจะผิดพลาดได้

 

ค่าจัดส่ง

ราคาสินค้าที่แสดงนั้นจะยังไม่รวมค่าจัดส่ง ตัวอย่าง สินค้าราคา 201.8 บาท มีค่าจัดส่งอีก 35 บาท เป็นต้น ค่าจัดส่งอาจจะมากหรือน้อย แล้ว แต่ทางร้านที่ขาย สินค้าบางอย่างที่มีขนาดใหญ่ มักจะมีค่าจัดส่งหลักร้อย หรือ สินค้ามีราคาถูก แต่ค่าส่งแพงก็มี เป็นวิธีขายของทางร้านค้า บวก ราคาเพิ่มด้วยการคิดค่าส่งที่แพงขึ้น เป็นต้น และบางครั้งค่าส่งก็ไม่ตรงกับแจ้งเอาไว้ นอกจากนี้ ค่าส่งสินค้านั้น อาจจะจำกัดจำนวนเช่น สั่งซื้อสินค้า 10 รายการ ทางผู้ขายจะแบ่งสินค้าเป็น 2 กล่องหรือ 2 ห่อ พร้อมกับคิดค่าส่ง 2 เท่าตัว เป็นต้น

 

การซื้อสินค้าจากร้านเดียวกันมากกว่า 1 ชิ้น บางร้านจะคิดค่าส่งอัตราเดียว แต่หากซื้อหลายชิ้นอาจจะแยกเป็นหลายห่อ หรือ หลายกล่อง และ คิดค่าส่งแยก หรือบางร้านจะลดราคา จึงต้องดูให้ดี จะได้ไม่เสียเงินมากเกินไป

 

ภาพประกอบสินค้าไม่ตรงกับชื่อสินค้า

ผู้ขายหรือร้านค้าบางร้านใช้ภาพประกอบสินค้าไม่ตรงกับข้อมูลสินค้า ราคาสินค้า หรือ ภาพประกอบนั้นมีสินค้าอื่นร่วมอยู่ด้วย
1. ตัวอย่างสินค้าตัวนี้ เป็นรูปไมค์และราคา 201.80 บาท แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย หากเลือกตัวนี้ก็จะผิดพลาด ไม่ได้สินค้าที่ต้องการ
2. ต้องไปดูที่ตัวเลือกสินค้า และแตะดูสินค้าแต่ละตัว ว่า เป็นตัวไหนกันแน่ ซึ่งจะเป็นการ์ดเสียงที่เป็นกล่องมีปุ่มปรับอย่างเดียว ไม่รวมไมค์ ดังนั้น เวลาดูสินค้า ในตัวเลือกสินค้า อย่าไปดูภาพ ให้ดูที่ข้อความอธิบายสินค้าเป็นหลัก เช่น Only V8 Sound Card แปลเป็นไทยก็คือ การ์ดเสียง V8 อย่างเดียว ไมค์ไม่เกี่ยว ดังนั้นอย่าไปดูที่ภาพ ต้องดูข้อความเท่านั้น เพราะเวลาเกิดปัญหาขึ้นมา ทางร้านค้า หรือ ผู้ขายจะยึดเอาข้อมูลสินค้าที่เป็น ข้อความเป็นหลักฐาน ไม่ใช่ภาพประกอบสินค้า
3. และเมื่อแตะที่ไมค์ จะพบว่า ราคา 649 บาท ไม่ใช่ 201.80 บาท ตามภาพ

 

ดูข้อมูลการรีวิวสินค้า

รีวิวจะเป็นการแสดงความคิดเห็นของผู้ที่ได้ซื้อสินค้านั้นๆ ให้ดูว่า สินค้านั้นๆ ตรงกับที่เราต้องการหรือไม่ เช่น กำลังมองหาตัวแปลงแจ็ค 3.5 เป็น Type C เพื่อใช้กับมือถือ Samsung ก็มีรีวิวของผู้ซื้อที่ซื้อไปแล้ว และสามารถใช้งานได้ อย่างนี้ก็จะช่วยให้เกิดความมั่นใจ เพราะสินค้า บางอย่างมีความหลากหลายมาก คุณภาพ คุณสมบัติของสินค้าก็ต่างกันไป
1. ในหน้าแสดงข้อมูลสินค้า ให้เลื่อนหน้าลงไปหาหัวข้อ คะแนนและรีวิว
2. ในส่วนคะแนนและรีวิว ให้แตะ ดูทั้งหมด และ อ่านข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าที่ซื้อจริง

 

อ่านรายละเอียดสินค้าให้รอบคอบ

เพื่อป้องกันความผิดพลาด จำเป็นจะต้องฝึกอ่านรายละเอียดของสินค้า และศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสินค้าเหล่านั้น เพื่อป้องกันความผิดพลาด ได้สินค้าไม่ตรงกับความต้องการ
1. แตะค้างเลื่อนหน้าจอลง จนปรากฏแท็บ รายละเอียดสินค้า ให้แตะเลือก
2. อ่านข้อมูล รายละเอียดสินค้า และศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ก่อนตัดสินใจซื้อ
3. นอกจากข้อมูลที่เป็นข้อความแล้ว อาจจะมีภาพประกอบ แต่ต้องให้ความสำคัญกับข้อความมากกว่าภาพประกอบ บางร้านอาจจะใช้ภาพไม่ถูก ต้องก็ได้ ต้องยึดถือข้อความเป็นหลัก

 

การสอบถามเกี่ยวกับสินค้ากับทางร้าน

ก่อนจะตัดสินใจซื้อสินค้า อาจจะสอบถาม หรือ แชทคุยกับผู้ขายหรือทางร้านก่อน เพื่อสอบถามก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า เพื่อป้องกันความผิดพลาด
1. ในหน้าแสดงข้อมูลสินค้านั้นๆ ให้เลื่อนหน้าจอลงไปจนกว่าจะพบชื่อร้านค้า
2. ตัวอย่างชื่อร้านค้า เช่น BASEUS Digital ให้แตะ ไปที่ร้านค้า
3. แตะ แชทเลย เพื่อพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับสินค้า


4. แตะและพิมพ์ข้อความ สอบถามเกี่ยวกับสินค้า แล้วแตะ ส่ง
5. การดูข้อมูลการแชทกับร้านค้า ในหน้าหลักของ Lazad แตะ ข้อความ เพื่อไปดูว่าทางร้านได้ตอบกลับมาหรือยัง

 

การเลือกสินค้าใส่รถเข็น

เมื่อตัดสินใจจะซื้อสินค้าตัวไหน หรือจะเพิ่มใส่ไว้ในรถเข็นไว้ก่อน เพื่อจะไปเปรียบเทียบราคา ข้อมูลสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ หรือ รอเงินเดือน ออก การเพิ่มสินค้าใส่รถเข็นจะทำได้ 2 แบบ
1. สินค้าที่มีตัวเลือกของสินค้า เช่น กระบอกน้ำร้อน ให้แตะ เพิ่มลงรถเข็น
2. จะปรากฏตัวเลือกสินค้า ให้แตะเลือกสี แล้วจึงแตะ เพิ่มลงรถเข็น


3. สินค้าบางอย่าง จะมีตัวเลือกอื่นที่มีราคาสินค้าต่างกัน เช่น ไมค์ ราคา 201.80 บาท ให้แตะเพิ่มลงรถเข็น
4. จะปรากฏตัวเลือกสินค้า ซึ่งจะพบว่า สินค้าราคา 201.80 บาทนั้น ไม่ใช่ไมค์ แต่เป็น การ์ดเสียง หากไม่อ่านรายละเอียดให้ดี แล้วทำการเพิ่ม สินค้าลงรถเข็น แล้วสั่งซื้อ ชำระเงิน ก็จะผิดพลาด ไม่ได้ไมค์ตามต้องการ
5. หากต้องการซื้อไมค์ ก็แตะตัวเลือก ไมค์ แล้วแตะ เพิ่มลงรถเข็น ซึ่งจะพบว่า ราคาจะไม่เท่ากัน 649 บาท


6. สินค้าบางอย่าง มีตัวเลือกมากกว่านี้ อย่างมือถือ iPhone 6sP เมื่อแตะ เพิ่มลงรถเข็น แล้ว จะต้องเลือกตัวเลือกให้ถูกต้อง
7. แตะ ตัวเลือกสี
8. แตะ ตัวเลือกขนาดความจุ เช่น 32GB / 128GB
9. จะพบว่า ราคาต่างกัน 5000 กับ 5729 บาท จากนั้นจึงแตะ เพิ่มลงรถเข็น
10. บางร้านอาจจะมีตัวเลือก ขนาดหน้าจอเพิ่มอีก เป็นจอ 4.7 และ 5.5 ต้องดูให้รอบคอบ ไม่เช่นนั้นผิดพลาดเสียเงิน เสียเวลา

 

การจัดการสินค้าในรถเข็น

เมื่อเลือกสินค้าได้ตามต้องการและต้องการชำระเงิน หรือ ดูข้อมูลสินค้าในรถเข็น ให้ปฏิบัติดังนี้
1. แตะไอคอนรถเข็น ตัวเลขจะเป็นจำนวนสินค้าที่ได้เลือกไว้ เช่น 85 ชิ้น
2. สินค้าที่ได้เลือกในรถเข็น ให้แตะ เลือก วงกลมหน้าชื่อสินค้า จากนั้นจึงจะรู้ราคาสินค้า และค่าจัดส่งที่แท้จริง ดูด้านล่าง ในส่วน ชำระเงิน


3. การยกเลิกสินค้า นำออกจากให้แตะชื่อสินค้าค้างไว้แล้วเลื่อนไปทางซ้ายมือ
4. แตะเลือกไอคอนถังขยะ เพื่อนำสินค้าออกจากรถเข็น
5. สินค้าที่เราได้เลือกไว้ อาจจะยังไม่ซื้อ หรือ ไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร เลือกเอาไว้ก่อน เอาไว้ดู เวลาต้องการหาข้อมูลจะไม่เสียเวลา

 

ทำรายการชำระเงิน

เมื่อตัดสินใจซื้อสิ้นค้าใด ให้เลือก ให้ตรวจสอบสินค้านั้นๆ อย่างรอบคอบเป็นครั้งสุดท้าย ดูข้อมูลชื่อสินค้า รายละเอียดสินค้า ตรงกับที่เราต้อง การหรือไม่ อย่าดูภาพประกอบ แล้วจึงทำการชำระเงิน
1. แตะเลือกสินค้า
2. แตะชำระเงิน และทำตามขั้นตอนต่างๆ ให้ครบ ไม่เช่นนั้น การสั่งซื้อจะไม่สำเร็จ
3. ถ้าสั่งซื้อสำเร็จจะต้องแสดงข้อมูลสุดท้ายคล้ายตัวอย่าง เช่น ได้รับคำสั่งซื้อแล้ว รอการชำระเงิน

 

ดูรายชื่อสินค้าที่ได้สั่งซื้อ

เมื่อได้ทำเรื่องชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าเรียบร้อยแล้ว จะต้องทำการตรวจสอบรายชื่อสินค้าที่ได้สั่งซื้อทันที เพื่อป้องกันความผิดพลาด เพราะบางครั้ง อาจจะทำรายการสั่งซื้อไม่สำเร็จ หรือเลือกสินค้าผิด บางคนก็รอแล้ว รอเล่า ก็ยังไม่ได้สินค้า เพราะตัวเองผิดพลาดเอง ทำรายการซื้อไม่สำเร็จ จึง ไม่ได้รับสินค้า หรือได้สินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ เป็นต้น
1. การตรวจสอบให้ไปที่ บัญชี
2. แตะ ดูรายการสั่งซื้อทั้งหมด
3. ตรวจดูว่ามีรายชื่อสินค้าที่เราได้สั่งซื้อหรือไม่ และเป็นสินค้าที่เราต้องการจริงหรีอไม่ หากพบว่าไม่ใช่สินค้าที่เราต้องการ จะต้องรีบทำเรื่องยก เลิกทันที จากตัวอย่าง ผู้เขียนได้สั่งซื้อไมค์ 2 ตัว ข้อมูลถูกต้อง มีรายชื่อปรากฏอยู่ในส่วนนี้ ก็แสดงว่าการสั่งซื้อสำเร็จ ก็รอรับสินค้าและเตรียมจ่าย เงิน

 

การยกเลิกการซื้อสินค้า

บางครั้งเราอาจจะไม่ได้ดูรายละเอียดสินค้าให้ชัดเจน และได้สั่งซื้อสินค้าที่ไม่ตรงกับความต้องการ ก็สามารถยกเลิกได้ แต่ทั้งนี้การยกเลิกจะมี ระยะเวลา หากพ้นกำหนดเวลานั้นไปแล้วจะยกเลิกไม่ได้ คำแนะนำจากผู้เขียนให้ทำดังนี้
1. เมื่อได้สั่งซื้อสินค้า ทำรายการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว จะต้องไปดู รายชื่อสินค้าที่เราสั่งซื้อทั้งหมด จากตัวอย่างได้สั่งซื้อไป 2 รายการ
2. จากนั้นก็ตรวจสอบเป็นครั้งสุดท้าย ดูชื่อสินค้า รายละเอียด คุณสมบัติสินค้า อ่านข้อความทั้งหมดอย่างรอบคอบ หากผิดพลาด ไม่ใช่สินค้าที่เรา ต้องการก็ทำเรื่องยกเลิก บางช่วงผู้เขียนก็เคยเป็น เบลอ กดสั่งซื้อๆ ชำระเงิน พอสินค้าส่งมาถึงบ้าน ปรากฏว่ามันเป็นอะไร ก็ไม่รู้ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ ครั้นเมื่อไปตรวจสอบข้อมูลสินค้าก็พบว่า ฉันเป็นคนผิด ฉันมันผิดเองงงง จะโทษร้านก็ไม่ได้
3. กรณีที่จะยังยกเลิกได้ ถัดจากชื่อร้านค้า จะเป็นสถานะสินค้า หากเป็น กำลังดำเนินการ อาจจะยกเลิกได้ แต่ถ้าเป็น อยู่กับบริษัทขนส่ง อย่างนี้ จะยกเลิกไม่ได้แล้ว ให้แตะเข้าไป
4. จะพบว่า ปุ่ม ยกเลิก ยังสามารถยกเลิกได้ ให้คลิกเลย กรณี ยกเลิก ไม่ได้แล้ว ปุ่มนี้จะไม่ทำงาน จึงยกเลิกไม่ได้
5. แตะ ยืนยัน เพื่อยกเลิก ไม่ซื้อสินค้านั้นๆ

 

การรับสินค้า

การรับสินค้าสิ่งที่ควรทำก็คือ ถ่ายรูปเอาไว้ด้วยเช่นกัน เพื่อใช้เป็นหลักฐาน ว่าได้รับสินค้านั้นจริง กรณีสินค้ามีปัญหา หรือไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ ก็ จะสามารถทำเรื่องคืนได้

 

การถ่ายวิดีโอขณะแกะสินค้า

ก่อนจะแก้สินค้า ให้เตรียมกล้องมือถือให้พร้อมเพื่อถ่ายวิดีโอเป็นหลักฐานเก็บไว้ และการแกะกล่องต้องระมัดระวัง อย่าทำให้กล่องหรือพัสดุที่ หุ้มห่อสินค้าเสียหาย เพราะหากสินค้าไม่ตรงตามที่สั่งก็จะได้แพ็คกลับได้เหมือนเดิม เพื่อนำไปคืนผู้ขาย
1. แกะด้วยการฉีกแบบนี้ หากไม่ใช่สินค้าที่เราต้องการ ก็จะสร้างปัญหาในการแพคเพื่อส่งคืนทางร้าน สำคัญมากถ่ายวิดีโอเอาไว้ด้วย ทำได้ง่ายๆ ด้วยการวางมือถือไว้บนขอบโต๊ะ พร้อมกับถ่ายวิดีโอ แล้วแกะสินค้าที่พื้น ไม่จำเป็นต้องมีคนช่วยถ่าย


2. การแกะห่อ ซอง กล่อง จะวางแผนก่อนว่าจะแกะ ตัด จุดไหน ที่สามารถแพ็คกลับคืนได้ง่าย หากสินค้าไม่ตรงตามที่สั่ง

การคืนสินค้า

เมื่อแน่ใจว่า สินค้าที่ได้รับนั้น ไม่ตรงกับที่ต้องการ หรือที่ลงประกาศขาย ก็จัดการแพ็คกลับคืนให้เรียบร้อย แล้วทำรายการคืนสินค้า โดยระบบ การขายจะมีตัวช่วยเหลือในการทำรายการคืนสินค้า ให้แชทคุยกับทางร้าน เพื่อหาทางออก ซึ่งอาจจะเดินทางไปยังศูนย์กระจายสินค้าเอง หรือ ทาง เจ้าหน้าที่จะมารับสินค้าที่บ้าน

 

ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

การจัดส่งและรับสินค้า

สินค้าบางอย่างผู้ขายอยู่ต่างประเทศ เป็นสินค้าจากจีน หรือ บางทีผู้ขายก็อยู่ที่ไทย แต่สั่งสินค้าจากต่างประเทศให้ส่งมาให้ผู้ซื้อในประเทศไทย อีกที จึงต้องใช้ระยะเวลาในการจัดส่ง สินค้าบางอย่างอาจจะใช้เวลาเกิน 2 อาทิตย์ก็มี และต้องทำใจว่าไม่สามารถคืนสินค้าได้ การรับสินค้า อาจ จะแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะไปรับสินค้าเอง กรณีไม่อยู่บ้าน หรือให้ส่งที่ทำงาน

 

สรุป

ความผิดพลาดในการซื้อสินค้าออนไลน์ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะมือใหม่ กำลังหัดช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งความผิดพลาดบางอย่างนั้น เราไม่ สามารถป้องกันได้ ที่ทำได้ ก็เฉพาะในส่วนที่เป็นหน้าที่ของเราในฐานะผู้ซื้อ เช่น การเลือกสินค้า ไม่ผิดพลาด และการแกะสินค้า ต้องมีการถ่าย วิดีโอเป็นหลักฐาน หากทางร้านส่งสินค้ามาไม่ตรง หรือ ตั้งใจโกง ก็จะได้ทำเรื่องคืนสินค้าและรับเงินคืนได้ แต่หากความผิดพลาดเกิดจากตัวเรา ก็ จะเป็นเรื่องยากที่จะได้เงินคืน

 

การซื้อสินค้าออนไลน์ มีขั้นตอนที่สร้างความมึนงงให้มือใหม่ไม่น้อย แต่ก็ต้องเรียนรู้ เพื่อจะได้ซื้อสินค้าที่เราต้องการ ซึ่งอาจจะไม่สามารถหาซื้ ได้ตามร้านทั่วไป หรือ อาจจะส่งสินค้าของเราเองไปขายกับทางลาซาด้าด้วยก็ได้ เป็นการทำมาหากินแนวรูปแบบใหม่ที่เราเองก็ต้องพัฒนาตัว เองอยู่ตลอดเวลา ตามให้ทัน