บทความแนะนำความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีรับมือและจัดการกับความทุกข์ต่างๆ เช่น ปัญหาส่วนตัว ปัญหาการเงิน ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ ซึ่ง หลายคนกำลังประสบปัญหาการเงินในช่วงนี้ การทำความเข้าใจความทุกข์นั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยให้สามารถรับมือกับความทุกข์ และ สามารถเอาตัวรอดไปได้

 

ความทุกข์ที่มักจะเกิดกับคนเรา อาจจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ความทุกข์ทางกาย และความทุกข์ทางใจ สิ่งที่ต้องระวัง ก็คือ อย่าปล่อยให้ใจ เป็นทุกข์ ชีวิตอาจจะประสบปัญหาที่ทำให้เกิดความทุกข์ โดยเฉพาะในสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ ภัยธรรมชาติ หรือ โรคระบาด ทำให้ไม่มีเงิน ไม่ มีงาน ไม่มีอาหาร ไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะทุกข์สักเพียงใด แต่สิ่งสำคัญ ต้องระวัง อย่าให้ใจเป็นทุกข์ ต้องฝึกแยกความทุกข์ออกจากกันให้ได้ หากใจเป็นทุกข์ เอาปัญหามาคิดตลอดเวลา ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี

 

ความทุกข์จากการเจ็บป่วยทางกาย

การเจ็บป่วย มีโรคภัย ไข้เจ็บ เป็นความเจ็บป่วยทางกาย จงเรียนรู้การปล่อยวาง เดี๋ยวมันก็หาย ไม่ต้องไปทุกข์ เพราะยิ่งทุกข์ ยิ่งเครียด อาการยิ่งแย่ลง แต่หากอารมณ์ดี จะหายเร็ว โรคส่วนใหญ่ กลัวคนอารมณ์ดี กลัวคนคิดบวก เมื่อไม่ทุกข์ ก็จะมีโอกาสค้นเจอคำตอบที่จะช่วยให้ เอาตัวรอดไปได้

 

ความทุกข์ในเรื่องการทำมาหากิน เรื่องรายได้

ในช่วงที่เกิดโรคระบาด คนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ ไม่สามารถทำงานได้ ไม่มีรายได้ ไม่มีเงิน หากเอาแต่เครียด เอาแต่ทุกข์ ก็จะไม่มี ทางออก เพราะในหัวจะเอาแต่คิดๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่มีเงิน เงินจะหมดแล้ว ไม่มีงาน ฯลฯ ซึ่งความคิดเหล่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นความคิดที่ไม่มี ประโยชน์ ไม่ช่วยให้สถานการณ์ของตัวเองดีขึ้นมาได้ แต่หากเรียนรู้ที่จะปล่อยวางความทุกข์ ให้สมองได้พักบ้าง ก็มีโอกาสค้นพบช่องทางแก้ไข ปัญหา

 

บางคนทำร้านเสริมสวย ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเกิดโรคระบาด ต้องปิดร้าน ไม่มีลูกค้า ก็ไม่รีรอ ไม่มัวเสียเวลาเก็บปัญหามาคิด ให้ทุกข์ใจ รีบหางานใหม่ บางคนเย็บหน้ากากผ้า ขายออนไลน์ เพื่อนผู้เขียนจากช่างเสริมสวยก็ไปทำงานเป็นเด็กปั๊ม มีรายได้ทันที ในขณะที่ เพื่อนบางคน ก็เอาแต่เครียด แต่ไม่ทำอะไรเลย ร้านก็ปิด ไม่มีรายได้ แต่ตัวเอง ก็ไม่คิดจะทำงานอื่น เอาแต่นั่งรอให้สถานการณ์ดีขึ้น รายได้ก็ไม่มี แต่ละวันผ่านไป มีแต่ความทุกข์ใจ ถ้ารีบตัดสินใจหาเงินใหม่ ปัญหาทุกข์ใจก็จะหมดไปทันที

 

การทำใจให้สงบจะหยุดความทุกข์ได้เร็ว

ในขณะที่ประสบความทุกข์ การทำใจให้สงบ จะช่วยให้ค้นพบทางออกในการแก้ปัญหาได้เร็วมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย การทำใจให้สงบ สามารถทำได้หลายวิธี เช่น สวดมนต์ นั่งสมาธิ อ่านหรือฟังธรรมะ ข้อคิดต่างๆ เมื่อจิตใจสงบ ก็จะพบหนทางดับทุกข์ หรือ ค้นพบทางแก้ไข ปัญหาได้เร็วกว่า หรืออย่างน้อยก็ทำให้ใจเป็นสุข เพราะไม่ใช่ทุกปัญหาจะสามารถแก้ไขได้ บางปัญหา ก็ต้องปล่อยให้เป็นไป อะไรจะเกิด ก็ต้อง เกิด

 

ปล่อยวางได้เร็ว ความทุกข์ก็หมดเร็ว

ปัญหาใดๆ ก็ตาม หากเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ทำอะไรไม่ได้ คิดให้ตาย ก็ปวดหัวเปล่าๆ ทำใจยอมรับและปล่อยวางได้เร็ว ความ ทุกข์ก็หมดเร็ว ตัวอย่างปัญหาเรื่องหนี้สิน อย่างปัญหาการผ่อนรถ ปัญหาการเงิน

 

การผ่อนรถ มีปัญหาการเงิน ผ่อนต่อไม่ไหว ไม่มีเงิน ไม่มีงาน บางคนเครียด เงินก็จ่ายไปแล้วพอสมควร เสียดายรถ เสียดายเงิน ไม่อยาก โดนยึด ฯลฯ ในขณะที่ตัวเองก็มีปัญหาการเงินอย่างหนัก ไม่สามารถผ่อนต่อได้ หากสามารถปล่อยวางได้เร็ว ปัญหาและความทุกข์จะจบลงอย่าง รวดเร็วมาก เหมือนเมื่อครั้งที่ราคาน้ำมันดีเซลแพงมากถึงลิตรละ 45 บาท หลายคนขับรถไปจอดที่บริษัทไฟแนนซ์ เอารถไปคืนให้เลย เพราะไม่ ไหวแล้ว มีเงินค่อยว่ากันใหม่

 

แต่บางคนปล่อยวางไม่ได้ พยายามยื้อเอาไว้ เพราะเสียดายเงิน จ่ายไปมากแล้ว ไม่อยากให้รถโดนยึด อายเพื่อนฝูง ที่ต้องขายรถ หรือ ปล่อย ให้รถถูกยึด หน้าใหญ่ จนไม่ลง ชีวิตก็จะมีแต่ความทุกข์ใจอย่างมาก ในขณะที่คนที่ตัดสินใจนำรถไปคืนไฟแนนซ์ทันที ก็เหมือนยกภูเขาออก จากอก หมดหนี้สิน มีเงินเหลือไปทำอย่างอื่น หรือใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นได้ ความทุกข์ก็หมดลงทันที ไม่มีความทุกข์ในใจ สมองก็โล่ง สามารถคิด อ่านหาวิธีทำมาหากินต่อไปได้

 

ในชีวิตของคนเรา ล้วนมีปัญหาสารพัน ที่ทำให้เป็นทุกข์ จึงต้องพิจารณาให้รอบด้าน เพราะปัญหาส่วนใหญ่ หากสามารถปล่อยวางได้ ความ ทุกข์จะหมดไปเร็วมาก

 

ข้อเสียการปล่อยให้ความทุกข์ครอบงำ

ลองนึกถึงช่วงเวลาดีๆ ที่ชีวิตของเราไม่มีปัญหารบกวน จะทำอะไร คิดอะไร ก็เห็นช่องทางเยอะไปหมด แต่ในวันที่เรามีปัญหา ก็เหมือนมีแต่ ทางตันรอบด้านไปหมด ขณะที่กำลังประสบปัญหา คนเรามักจะมองไม่เห็นทางออก

 

แต่หากเรียนรู้วิธีแยกจิตใจ แยกความทุกข์ ออกจากกัน ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น หากเราไม่สามารถควบคุมได้ ก็พยายามหยุดคิด ปล่อยวาง อย่าพยายามเอามาคิด หากสามารถแบ่งแยกจิตใจไม่ให้ทุกข์ได้อย่างนี้ ไม่เพียงทำให้จิตใจสงบ แต่อาจจะพบช่องทางแก้ปัญหา เหมือนเวลาที่คน อื่นมีปัญหา เรากลับมองเห็นช่องทางแก้ไข แต่ในยามที่เราประสบปัญหา เรากลับมองไม่เห็นทางแก้ไข ในขณะที่คนรอบข้างต่างเห็นช่องทางแก้ไข เยอะไปหมด วิธีที่จะช่วยให้มองเห็นปัญหาตัวเอง และสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง ก็ต้องทำใจให้สงบ และ ปล่อยวาง

 

เมื่อทำจิตใจให้สงบและปล่อยวางได้แล้ว คราวนี้ก็ลงมือทำในสิ่งที่ควรทำ ตัวอย่างเช่น เวลา 8:00-17:00 ก็ทำงานตามปกติ หรือ ศึกษา พัฒนาตนเอง เพื่อทำงานใหม่ อาชีพใหม่ อย่าเก็บความทุกข์มาคิดในระหว่างทำงาน จะทำให้เสียงาน ส่วนหลัง 5 โมงเย็นเป็นต้นไป ก็ปล่อยให้ เป็นช่วงเวลาที่จะพาตัวเองให้อยู่กับความทุกข์กาย ทุกข์ใจให้เต็มที่ อยากจะร้องไห้ ก็ระบายให้เต็มที่ แต่อย่าทำร้ายตัวเอง อย่าให้ร่างกายบาดเจ็บ ถ้าทำได้อย่างนี้ ก็จะไม่เสียการ เสียงาน

 

หากมีปัญหาในเรื่องการเงิน เมื่อได้ลงมือทำอาชีพใหม่ และเริ่มมีรายได้ ปัญหาความทุกข์ใจ ก็จะเริ่มลดน้อยลง หรือหายไปทันที หากเอาแต่ คิดถึงปัญหา จนไม่เป็นอันทำการทำงาน ชีวิตก็ไม่ดีขึ้น อย่างในสถานการณ์เกิดโรคระบาด บางคนขายของไม่ได้ แต่ไม่คิดหาวิธีปรับเปลี่ยนตัวเอง ปรับเปลี่ยนร้านให้มีความปลอดภัย ก็จะไม่มีรายได้ ชีวิตก็จะมีแต่ความเครียด แล้วหากโรคระบาดยังคงอยู่ต่อไปอีกหลายปี จะทำอย่างไร

 

การมีปัญหาด้านการเงิน มีปัญหาเรื่องรายได้ นั้นแก้ไขไม่ยาก แค่เปลี่ยนวิธีคิด พัฒนาตนเอง ศึกษาอาชีพใหม่ ปรับตัวให้เร็ว แล้วลงมือทำ ทันที อย่างการทำร้านอาหาร ซึ่งเปิดไม่ได้ เพราะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ก็เน้นขายตามสั่งผ่านเฟสบุ๊ค หรือ ไลน์ ส่งถึงบ้าน บางคน ทำงานโรงแรม ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด ก็เปลียนไปเย็บหน้ากากผ้าขายออนไลน์ มีรายได้ทันที แต่สิ่งสำคัญในการทำมาหากินในช่วงนี้ ก็ คือเรื่องราคาสินค้าและค่าบริการต่างๆ อย่าไปคิดแพงมากนัก