ในบทความนี้จะแนะนำวิธีทำงานหลายอย่างพร้อมกัน หรือ การทำหลายอาชีพในเวลาเดียวกัน ที่คนทำอาชีพอิสระ หรืองานอื่นๆ จำเป็นต้องรู้วิธีการจัดการ ไม่เช่นนั้นสมองอาจจะระเบิด เครียดตายแน่นอน แต่หากรู้วิธีจัดการ ต่อให้งานมากเพียงใด ก็สำเร็จได้ไม่ยาก ไม่ปวดหัว ไม่หลงๆ ลืมๆ ว่าได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว เวลาจะลงมือทำต่อ ก็ลุยต่อได้ทันที เป็นต้น

เพราะความไม่แน่นอนในเรื่องการประกอบอาชีพ ทำให้จำเป็นต้องมีอาชีพเสริม มีรายได้มากกว่า 1 ช่องทาง เพื่อความมั่นคงทางการเงิน มีรายได้เข้ามาทุกเดือน เมื่อต้องทำงานหลายอย่างพร้อมกัน หลายอาชีพ ก็ต้องคิด วางแผน ลงมือทำ อาจจะมีสิ่งต้องทำมากมาย แต่ก็มีวิธีบริการจัดการที่จะทำให้ไม่ปวดหัว ไม่เครียดจนเกินไป สามารถทำงานหลายอย่างพร้อมๆ กันได้  

 

 

วิธีบริการจัดการเมื่อต้องทำงานหลายอย่างพร้อมกันแบบต่างๆ

การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน หรือ มีเรื่องในหัวให้ต้องคิดหลายเรื่อง ใครที่กำลังเจออยู่ตอนนี้ ก็มีแนวทางให้ลองนำไปใช้ตามนี้

 

1. การใช้อุปกรณ์ช่วยจัดเก็บเอกสาร จัดเก็บข้อมูล

แฟ้ม หรือ ชั้นวางของ หรือ ชั้นโชว์ที่มีหลายช่อง หลายล็อก งานที่ต้องทำมีกี่เรื่อง ก็ขีดๆ เขียนๆ แล้วเก็บไว้ในแต่ละช่อง ข้อดีของการเขียนลงกระดาษก็คือ เมื่อเรากลับมาเปิดอ่านอีกครั้ง ก็จะระลึกถึงสิ่งที่เคยทำได้เร็วมาก ว่าอะไรอยู่ตรงไหน อย่างไร บางทีหนังสือทั้งเล่ม ยังค้นหาเจอเลยว่า เรื่องที่สนใจอยู่หน้าไหน เพราะเรามีแผนที่ในใจ วิธีนี้ ก็จะเป็นการใช้กระดาษช่วยจดจำ ลดภาระสมองลงไปได้ แล้วค่อยใช้กล้องถ่ายหน้าเอกสาร หรือพิมพ์ลงคอมพิวเตอร์ หรือ มือถืออีกที

 

2. จ้างผู้ช่วย จัดการเรื่องเอกสาร ข้อมูลต่างๆ

หากมีผู้ช่วย ก็จะเป็นเรื่องดี กรณีมีงานต้องรับผิดชอบค่อนข้างมาก การช่วยดู ช่วยอ่าน เอกสารที่เราได้จัดทำไว้ ช่วยหาข้อมูลเพิ่มเติม ก็เหมือนมีอีกคนช่วยจำ ช่วยลดภาระกาทำงานของสมองลงไปได้อย่างมาก

 

บางคนก็จ้างพนักงานฟรีแลนซ์ รับงานตามสั่ง ไม่มีสัญญาข้อผูกมัดเหมือนพนักงานบริษัทซึ่งมีให้เลือกมากมายในเน็ต ทำงานจากบ้านตัวเองได้เลย บางคนได้ยินแต่เสียง หรือผ่านวิดีโอคอล แต่ไม่เคยเจอกันตัวเป็นๆ เลยก็มี กรณีนี้หากงานอยู่ตัวแล้ว มีรายได้เข้ามามากพอแล้ว ก็สามารถจ้างคนมาช่วยลดภาระการทำงานได้ เพื่อจะได้มีเวลาไปทำงานอื่น ว่างๆ ก็มาตรวจสอบอีกที

 

3.การใช้เทคโนโลยี่เข้ามาช่วย

การใช้เทคโนโลยี่ เช่น คอมพิวเตอร์ มือถือ เว็บไซต์ แอปที่แชร์ข้อมูล หรือทำงานร่วมกันได้ เข้ามาช่วย ก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกอุปกรณ์ เช่น
-การจัดเก็บข้อมูล เอกสารเหล่านั้นไปไว้ในแอปฝากไฟล์ Google ไดรฟ์ เก็บได้ทั้ง ภาพ วิดีโอ เสียง กรณีของเอกสาร ก็สามารถถ่ายเป็นภาพ แล้วนำไปเก็บไว้ได้ การสร้างโฟลเดอร์แยกเก็บข้อมูล ตั้งชื่อโฟลเดอร์ให้ตรงกันกับชื่อเอกสารในชั้นวางของ เพื่อความสะดวกในการค้นหาข้อมูล แก้ไข เพิ่มเติม
- แอปจัดการกับเอกสาร หรือข้อมูลตัวเลขต่าง เช่น Google Doc, Google ชีต, Word, Excel ก็สามารถทำงานร่วมกันได้ มีมือถือหลายเครื่อง หรือ ผู้ช่วยหลายคนก็แชร์ข้อมูลให้กันได้
- การใช้ AI เข้ามาช่วยเหลือ งานบางอย่าง ที่ทำให้สะดวก เช่น การเขียนบทความ สคริปต์ การสร้างวิดีโอ Ai สามารถทำให้เราได้ ง่ายในการนำมาปรับแต่งแก้ไข ไม่ต้องคิดเอง

 

การจดบันทึกลงสมุด หรือ กระดาษ

การจดบันทึกลงสมุด หรือ กระดาษ ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น แนะนำให้ใช้กระดาษ A4 เป็นรีมไปเลย เย็บเป็นเล่ม ใช้ได้เป็นปี การจดลงสมุดมีข้อดีอย่างหนึ่ง เขียนอะไรไว้ แค่ได้ย้อนกลับไปอ่าน ความจำ ความคิด อารมณ์ ความรู้สึก ณ เวลานั้น ก็ไหลเข้าสมองทันที เป็นการระลึกถึงอดีตในเวลานั้น ที่ดีมาก ทำให้ความคิดกลับมาต่อเนื่องได้เร็วมาก ไม่เสียเวลาทบทวนความทรงจำ ต่างจากการพิมพ์ข้อความเก็บเป็นไฟล์ไว้ในคอมพิวเตอร์ จะไม่เกิดแผนที่ในใจมากนัก ไม่เชื่อลองเปิดอ่านบันทึกเก่าๆ ก็จะเห็นความแตกต่างๆ หนังสือเล่มหนาๆ บางทีก็หาสิ่งที่ต้องการ เจอได้ไม่ยากเลย

 

 

การทำงานในปัจจุบัน มีระบบบริหารจัดการรองรับอย่างดี แม้จะทำงานคนเดียว ก็สามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ หากนำเทคโนโลยี่ เครื่องมือทันสมัยเข้ามาช่วย ก็จะยิ่งดี ช่วยลดภาระการทำงาน ลดคน ลดค่าใช้จ่าย ทำให้ชีวิตมีเวลาว่างมากขึ้น สมองทำงานไม่หนัก ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องแบก ไม่เครียด หรือ เก็บทุกอย่างไว้ในสมองมากนัก แต่อาศัยการจัดเก็บไว้ในระบบที่ได้ออกแบบหรือจัดทำขึ้นมาแทน