การมีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน รายจ่ายจะค่อนข้างน้อย เป็นผลดี ต่อการใช้ชีวิตในอนาคตสำหรับคนทำอาชีพส่วนตัว อาชีพอิสระ เพราะการมีชีวิตซับซ้อน เช่น มีรถหลายคัน บ้านหลายหลัง สัตว์เลี้ยงหลายตัว คู่หลายคน พาตัวเองไปข้องแวะกับอบายมุข และทรัพย์สินอีกสารพัด ฯลฯ ก็อาจจะสร้างปัญหาปวดหัว เสียสมาธิในการทำงาน หรือมีค่าใช้จ่ายตามมามากกว่า จนอาจส่งผลเสียต่อการงานการเงินในอนาคต เพราะอาชีพส่วนตัว ไม่มีความแน่นอน ชีวิตเรียบง่ายจะมีโอกาสผิดพลาดน้อยกว่า

 

การทำอาชีพอิสระ ทำงานส่วนตัว สไตล์การใช้ชีวิต หากอยู่บนความเรียบง่าย ปัญหาก็จะน้อยกว่า คนที่ใช้ชีวิตหรูหรา ฟุ่มเฟือย มีชีวิตที่ซับซ้อน ซึ่งจะมีรายจ่ายที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเรื่องแบบนี้ หากไม่มีประสบการณ์ ก็ยากจะรู้ว่าจะเกิดอะไรตามมาบ้าง ในอนาคต  

 

การมีชีวิตเรียบง่ายในความหมายของผู้เขียนขอแนะนำดังนี้

1. การมีคู่ครอง

หากยังไม่พร้อม ก็พยายามครองตัวเป็นโสด เอาเวลาไปทุ่มเทกับงานให้เต็มที่ เพราะหากคบกันแล้วมีปัญหาทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน ก็จะส่งผลกระทบต่อการทำงาน แต่หากเข้าใจกัน ช่วยกันทำมาหากินก็อีกเรื่องหนึ่ง

 

เมื่อมีคู่ครอง ก็ต้องแต่งงาน สร้างเนื้อ สร้างตัว สร้างครอบครัว มีบุตรหลานตามมา นั่นหมายถึง รายจ่ายที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคต การใช้ชีวิตเรียบง่าย จึงช่วยลดรายจ่ายได้อย่างมาก อะไรควรใช้ ควรซื้อ ก็ต้องคิดให้รอบด้านถึงรายจ่ายที่จะตามมา บางคนรวยหลักสิบล้าน จะซื้อรถยนต์ป้ายแดงสักคันยังคิดหนัก เพราะมีครอบครัวมีลูกหลานต้องดูแล มีรายจ่ายรออยู่ในอนาคต

 

การแต่งงานในบางคู่ ก็อาจจะทำให้เงินลดลงอย่างมาก หรือ มีรายจ่าย มีหนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะการใช้ชีวิตหรูหราของอีกฝ่าย ทำให้มีรายจ่ายตามมาอย่างมาก บ้านก็ต้องหลักล้าน ข้าวของเครื่องใช้ รถต้องเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ตลอดเวลา มีรายจ่ายตามมาอย่างมาก มีคู่ครองไม่ดี ก็ส่งไม่ดีต่อการงานเช่นกัน ดังนั้นจะคบใคร ก็ต้องดูให้ดี ก่อนตัดสินใจแต่งงานกัน

 

2. สัตว์เลี้ยง

เป็นเรื่องต้องห้ามเช่นกัน เพราะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องการการดูแล และอาจจะต้องอยู่กันเกินสิบปีขึ้นไป มีรายจ่ายในการเลี้ยงดูตามมา กลายเป็นภาระ เสียเวลาดูแล หากกำลังตั้งเนื้อตั้งตัว ก็ยิ่งต้องระวังในเรื่องนี้

 

3. การสะสมวัตถุหรือข้าวของที่สร้างปัญหาในการดูแล

บางคนสะสมของโบราณ ข้าวของเครื่องใช้ ซึ่งสร้างปัญหาในการดูแลและมีรายจ่ายตามมา เว้นเสียแต่ว่า จะเป็นของสะสมที่มีมูลค่าในอนาคต

 

4. ไม่ใช้รถยนต์ หากไม่มีความจำเป็นจริงๆ

ในความคิดเห็นของผู้เขียน สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำอาชีพอิสระ ไม่ควรยุ่งกับรถยนต์ โดยเฉพาะรถใหม่ป้ายแดง เพราะทำให้เงินหายไปเยอะมาก และยังมีรายจ่ายตามมาอย่างต่อเนื่องปีละหลักหมื่นบาทขึ้นไป อย่างการผ่อนรถยนต์ ค่าประกันภัย ภาษี พรบ ค่าซ่อมบำรุง ค่าน้ำมัน ฯลฯ

 

หากการงานยังไม่นิ่งพอ แต่มีความจำเป็นต้องใช้รถ รถยนต์มือสองก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ซื้อมาแล้วก็ศึกษาวิธีซ่อม ซ่อมให้เป็น ก็จะได้รถที่ใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหา

 

ส่วนรถจักรยานยนต์ ก็เป็นตัวเลือกที่ช่วยลดรายจ่ายได้ สลับการใช้งานกับรถยนต์ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นรถใหม่ รถจักรยานยนต์มือสองยี่ห้อยอดนิยม ก็ใช้งานได้อีกนาน มีความทนทาน ช่วยประหยัดเงินได้ไม่น้อย อย่างผู้เขียนซื้อรถมอเตอร์ไซค์มือสอง 9,000 บาท กับเพื่อนซึ่งซื้อรถมอเตอร์ไซต์แบบฟรีดาวน์ รวมค่าผ่อนทั้งหมดแล้ว 120,000 บาท ถ้านำมาซื้อรถมือสอง ก็ได้ถึง 12 คันเลยทีเดียว ใช้รถเก่า ขอเพียงซ่อมบำรุงให้ดี สภาพภายนอกอาจจะไม่สวย แต่ก็ใช้งานแบบสบายใจ สมบุกสมบัน ไม่ต้องคิดอะไรมากนัก

 

ส่วนรถจักรยานนั้นเป็นพาหนะพื้นฐานที่จำเป็นต้องมี ไว้เดินทางระยะใกล้ๆ เป็นพาหนะที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงดูแลมากนัก เน้นจักรยานญี่ปุ่นมือสองเท่านั้น ซ์้อมาแล้ว ก็จัดการเปลี่ยนยางเป็นยางตัน คราวนี้ก็ใช้กันยาวๆ เพราะยางใน ยางนอกจักรยาน จะเป็นส่วนที่สร้างรายจ่ายมากที่สุด ตลอดอายุการใช้งาน

 

5. ฝึกการกินอาหารที่เรียบง่าย อยู่ง่าย

ชีวิตแบบนี้ ซึ่งไม่เพียงประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังดีต่อสุขภาพ หากทำอาหารเองได้จะยิ่งดี แนะนำให้ฝึกทำและกินอาหารง่ายๆ ต้องมีประสบการณ์ในเรื่องนี้ ไว้รองรับ ในเวลาที่ชีวิตลำบาก งานมีปัญหา รายได้หดหาย จะได้รู้วิธีรับมือ เตรียมเครื่องครัว เครื่องมือทำอาหารง่ายๆ ไว้ทำอาหารกินเองบ้าง หม้อหุงข้าวไฟฟ้า กระทะ เตาแก๊ส หรือเตาแก๊สขนาดเล็ก จาน ชามช้อน อุปกรณ์ทำอาหารพื้นฐานต้องพร้อม

 

การทำอาหารกินเอง ดีต่อสุขภาพ ลดโอกาสเจ็บป่วย เพราะสามารถเลือกได้ว่าจะกินอาหารที่มีสารพิษอะไรเข้าไปบ้าง ต่างจากการซื้ออาหารสำเร็จรูป แม่ครัวใส่อะไรลงไปบ้าง ก็ต้องกินตามนั้น ซึ่งจะช่วยลดค่ารักษาในอนาคต

 

หากมีพื้นที่ว่างในบริเวณบ้าน การทำสวน ปลูกผักไว้กินเองก็จะช่วยลดรายจ่ายได้เช่นกัน ซ้ำยังได้พืชผักปลอดสารพิษ ดีต่อสุขภาพ

 

6. ลดการเข้าสังคมให้น้อยลง

การปาร์ตี้ ก็ต้องมีเครื่องดื่ม ของมึนเมา อาหาร ทำให้กระเป๋าตังค์แบน เสียงาน เสียสุขภาพ โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้สมาธิ ใช้ความคิด เจอของมึนเมาเข้าไป ก็คิดอะไรไม่ออกแล้ว ทำอะไรไปถึงไหน ก็จำไม่ได้แล้ว งานไม่คืบหน้า และอาจจะมีปัญหากับรายได้ในอนาคต

 

7. ทำตัวเรียบง่าย ไม่เรื่องมาก

การเป็นคนเรื่องมาก เรื่องเยอะ การแต่งตัวต้องอย่างนั้น อาหารการกินต้องแบบนี้ การใช้ชีวิตต้องแบบนู้น ฯลฯ รายจ่ายที่เกิดขึ้นตามมาก็จะมากตามไปด้วย

 

สรุป

ในช่วงแรกของการทำอาชีพอิสระ ทำงานส่วนตัว การมีชีวิตเรียบง่ายเป็นเรื่องดี ช่วยประหยัดรายจ่าย ลดปัญหารบกวน แม้แต่คนที่ร่ำรวยมากๆ บางคนก็ใช้ชีวิตเรียบง่าย อย่างเจ้าของ amazon.com เคยใช้แค่รถยนต์ธรรมดาอย่าง Honda Accord รุ่นเก่า ซึ่งราคาซื้อขายในเมืองไทยเราอยู่ประมาณ 50,000 บาท เท่านั้นเอง วอเรนต์ บัฟเฟ็ต ก็ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่มีรถสปอร์ตเหมือนคนอื่น เงินจำนวนไม่น้อย ก็นำไปบริจาคเพื่อสังคมอีกต่างหาก

 

การเน้นใช้ชีวิตเรียบง่าย อาจจะเริ่มขยับขยายให้สบายขึ้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องประหยัดมากๆ เหมือนช่วงแรกๆ ที่ต้องควบคุมการใช้จ่าย เพื่อเน้นการนำเงินไปลงทุน บางคนเงินเดือนเกือบแสนบาท แต่เช่าหอพัก ไม่ซื้อรถยนต์ ไม่ซื้อสิ่งของมีค่า แต่เน้นนำเงินไปลงทุน 10 กว่าปีต่อมามีเงินมากพอแล้ว จึงเริ่มขยับขยาย

 

สำหรับคนที่มีครอบครัว มีพ่อแม่ญาติพี่น้องลูกหลานด้วยแล้ว การทำอาชีพอิสระต้องมีชีวิตเรียบง่าย ไม่เพียงมีความสุข แต่รายจ่ายน้อยลง มีเงินเหลือสำหรับใช้จ่ายกับสมาชิกครอบครัวในอนาคต กับค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ เว้นเสียแต่จะเป็นคนตัวคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้อง ก็แค่วางแผนการเงินเผื่อตัวเองให้เพียงพอแล้ว จากนั้นจะใช้ชีวิตแบบใด ไม่ทำให้ใครเดือนร้อน ก็ทำไปเถอะ