สำหรับการทำอาชีพอิสระของคนโสด การเตรียมรับมือกับปัญหาความโดดเดี่ยว ปัญหาที่เกิดจากการอยู่คนเดียว เป็นเรื่องสำคัญ เพราะความเหงาที่เกิดจากความโดดเดี่ยว อาจจะทำให้ชีวิต การงาน การเงินพังได้เลยทีเดียว การเตรียมรับมือในเรื่องนี้ไม่ง่ายนัก แต่รู้เอาไว้ก็เป็นเรื่องดี จะได้หาทางแก้ไข หรือ ป้องกันสิ่งที่จะเกิดตามมาได้

 

ไม่ว่าจะทำงานอิสระ อาชีพส่วนตัว หรือทำงานบริษัทก็ตาม หากยังโสด ความเหงาเป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยง การศึกษาให้เข้าใจ ตั้งแต่อายุยังน้อยเป็นเรื่องสำคัญ เข้าใจเร็ว อยู่กับความเงาได้เร็ว เวลาชีวิตที่เหลือ ก็จะไม่มีความเหงามารบกวน หรืออาจจะมีบ้างก็ แต่ก็ เอาอยู่!! แน่นอน

 

แนวทางเตรียมรับมือกับปัญหาจากความโดดเดี่ยว

สำหรับคนโสดทำงานอาชีพอิสระ จำเป็นต้องเตรียมรับมือกับความโดดเดี่ยว ความเหงา ในหลายรูปแบบ ซึ่งจะนำพาสารพัดปัญหา ตามมา ส่วนคนไม่โสด ก็อย่าชะล่าใจ คนเราทุกวันนี้ คบกันไม่ยืดยาว อะไรก็เกิดขึ้นได้ ชั่วชีวิตของคนเรานั้น อย่างไรเสียก็หนีความเหงาไม่พ้น ตัวอย่าง เช่น

 

1. การเข้าหาธรรมะ ยึดธรรมะเป็นที่พึ่ง

หากเข้าใจหลักธรรม หลักธรรมชาติ เข้าใจชีวิต ก็จะไม่มีปัญหาในการอยู่คนเดียวมากนัก ควรเลือกบทบรรยายธรรมะ หรือ หนังสือ รวมข้อคิดดีๆ ไว้อ่าน ไว้ฟัง เป็นเหมือนยาประจำวัน เพราะความคิดคนเรามีโอกาสเกิดความฟุ้งซ่านได้ตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้จะช่วยดับความเหงาได้ดี อ่านเช้า อ่านเย็น ฟังเช้าเย็น หรือทุก 4 ชั่วโมง หากพบว่าตัวเองฟุ้งซ่านหนักมาก อาจจะต้องใช้เวลาหลายปี แต่เมื่อเข้าใจดีแล้ว ก็จะอยู่กับความโดดเดี่ยวได้อย่างมีความสุข

 

2. ระวังการเข้าไปข้องเกี่ยวกับอบายมุขทุกประเภท

สิ่งไม่ดีควรอยู่ให้ห่าง อย่าเข้าใกล้จนเกิดความเคยชิน จะสร้างปัญหา เพราะอบายมุขทั้งหลายมีรายจ่ายตามมา ซึ่งไม่เป็นผลดีกับคนทำอาชีพอิสระ ควรสร้างความเคยชินในเรื่องที่ดี เช่น ช่วงเย็นต้องออกกำลังกาย ก่อนนอนฟังธรรมะ เป็นต้น ทำให้เกิดเป็นความเคยชินในเรื่องดีๆ เพื่อให้คิดถึงแต่สิ่งดี และอยากทำแต่สิ่งที่ดี เมื่อมีเวลาว่าง เพราะสิ่งดีๆ เหล่านี้ ไม่มีรายจ่ายตามมา มีแต่เรื่องดีเข้ามาในชีวิต สุขภาพจิตดี ร่างกายแข็งแรง เงินทองก็ไม่รั่วไหล ไหลไปเข้ากระเป๋าคนอื่น

 

3. อย่าใช้วัตถุหรือสิ่งมีชีวิตช่วยระงับความเหงา

อย่าเอาวัตถุ หรือสิ่งมีชีวิต ทั้ง คน สัตว์ พืช มาช่วยผ่อนคลายความเหงา เพราะสิ่งเหล่านี้ มักจะมา พร้อมกับปัญหา ค่าใช้จ่าย และไม่สามารถช่วยระงับหรือขจัดความเหงาได้อย่างแท้จริง

 

โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตที่มี 2 แขน 2 ขา หน้าตาน่ารัก น่าชัง พูดได้ ใช้เงินได้ ช่วยผ่อนคลายความเหงาได้ดี แต่ก็มักจะนำปัญหาชีวิต หรือ ค่าใช้จ่ายค่อนข้างมากตามมา ถ้าไม่พร้อมจะให้เป็นคู่ชีวิต ก็อย่าคิดคบเล่นๆ หวังคลายเหงา

 

4. ทำกิจกรรมที่ชอบ

การทำกิจกรรมที่ชอบ ก็จะทำให้เราไม่รู้สึกเหงา อย่างผู้เขียนชอบการอ่าน การเขียนบทความ ว่างเมื่อไร ก็จะเขียนๆ และก็มีเรื่องให้เขียนมากมาย แต่สิ่งสำคัญก็คือ ระวังกิจกรรมที่มีรายจ่ายตามมา เช่น ปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ เพราะอาชีพอิสระ งานส่วนตัวนั้น รายได้ไม่แน่นอน ให้เน้นกิจกรรมที่ไม่มีรายจ่าย ไม่ต้องการการดูแล ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง ก็ไม่มีปัญหาอะไร เหมือนการปลูกต้นไม้ ไม่รดน้ำก็ตาย สัตว์เลี้ยงก็เช่นกัน กิจกรรมแบบนี้ จะสร้างปัญหาให้เรามากขึ้น

 

5.ยึดมั่นในระเบียบวินัยอย่างเคร่งคัด

การจัดการกับความเหงา ความมีระเบียบวินัยสามารถช่วยได้ บางครั้งเหงา เครียด หรือมีปัญหาส่วนตัว แต่การมีระเบียบวินัยในชีวิต และการทำงาน ก็จะยังคงสามารถทำงานต่อไปได้ งานไม่เสีย แบ่งเวลาเหงา แบ่งเวลางาน แยกแยะออกจากกัน อย่าให้ปนกัน ไม่เช่นนั้นก็เละ เหงาเบื่อ เซ็ง ก็ เก็บไว้ก่อน 8:00 - 17:00 เป็นเวลาทำงาน ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานไป อย่าไปคิดอะไรมาก แต่เลิกงานแล้วค่อยว่ากัน หากแบ่งแยกได้ แบบนี้ งานก็จะไม่เสีย ถ้าเหงา ฟุ้งซ่านทั้งวันทั้งคืน เหงาตลอดเวลา ก็ไม่ต้องทำงานกันพอดี

 

สรุป

ในช่วงเวลาที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว คนส่วนใหญ่อาจจะไม่มีเวลามาสนใจในเรื่องความโดดเดี่ยว ความเหงามากนัก เพราะมัวแต่มุ่งมั่นทำงาน แต่เมื่อเริ่มมีรายรับเริ่มดีขึ้น มีเงินเหลือเก็บ ไม่ต้องทำงานทุกวัน หรือไม่ต้องทำงานเลยเป็นเดือน เป็นปี ก็อยู่ได้ และอายุเริ่มมากขึ้น เมื่อนั้นความเหงา ความโดดเดี่ยวก็จะเริ่มเข้ามาสร้างปัญหาให้ชีวิตอย่างรุนแรง ตามรายได้และเวลาว่างที่มากขึ้น

 

นี่คือเรื่องจริง ความรวย การมีชีวิตสุขสบาย ไม่มีปัญหาการเงิน ทำให้มีความสุข แต่ก็จะเป็นความสุขชั่วคราว ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เมื่อได้ใช้เงินทำทุกอย่างที่อยากจะทำแล้ว ได้ไปทุกที่ที่อยากจะไปแล้ว คราวนี้ก็จะเริ่มเกิดความเบื่อหน่าย เบื่อความสุข เบื่อไปหมดทุกเรื่อง ซึ่งเรื่องที่น่าเบื่อเหล่่านี้ เงินหรือวัตถุใดๆ ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาอะไรได้ แค่คั่นเวลาให้ลืมชั่วครู่ ชั่วคราว แค่นั้นเอง

บางคนแม้จะมีครอบครัว มีบุตรหลาน แต่ก็พบว่าตัวเองกลับมีความเหงาอย่างมาก เพราะบางคู่ก็อาจจะคบกันมานาน หมดรักกันแล้ว การอยู่ด้วยกัน ก็เพื่อลูก ความเหงาจึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้เช่นกัน แม้จะอยู่ในบ้านของตัวเอง แวดล้อมไปด้วยคนในครอบครัว


เพื่อจัดการกับความเหงาจึงจำเป็นจะต้องเรียนรู้และแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เพื่อสร้างความสุขในใจอย่างแท้จริง ซึ่งก็จะเห็นว่า คนรวย คนมีอันจะกินไม่น้อยก็จะเริ่มเข้าหาวัด เข้าหาธรรมะ หรือบางคนบวชไม่คิดจะสึกก็มี เพราะรู้แล้วว่า วัตถุนั้น ช่วยขจัดความเหงาหรือความรู้สึกโดดเดี่ยวไม่ได้ ต้องใช้ธรรมะเท่านั้น

 

เพราะความเหงา ผู้เขียนจึงกลายเป็นผู้บันเทิง ชอบเที่ยวราตรี อยู่พักใหญ่ บางครั้งก็ไปเจอบรรดาผู้เฒ่าบันเทิงเหมือนกัน อายุ 70+ พากันไปเที่ยวสวนอาหาร แจกพวงมาลัยสาวๆ นักร้อง คราวลูก จ่ายหนักบางคืน 5,000-6,000 บาท หากเหงา เพราะความโดดเดี่ยว พากันเสียคนตอนอายุมากแบบนี้ก็แย่เหมือนกัน

 

การจัดการกับความเหงาจึงเป็นเรื่องสำคัญ หยุดได้ได้ เข้าใจให้เร็ว ตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะหากเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นเมื่อใด ก็จะส่งผลเสียต่อการงาน การเงิน ด้วยการใช้เงินช่วยคลายความเหงา เช่น รู้สึกเหงาไม่รู้จะทำอะไร ก็หากาแฟสักแก้ว เครื่องดื่มเย็นๆ ช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว ไปใช้บริการสถานบันเทิง หรือ เข้าหาอบายมุข ฯลฯ มีแต่เรื่องเสียเงินเสียเป็นส่วนใหญ่ น้อยคนมากจะเข้าหาธรรมะ หรือ ทำกิจกรรมที่ชอบ เพื่อช่วยขจัดความเหงา .... อย่างถาวร