บทความแนะนำเรื่องควรรู้ในการซื้อยานพาหนะแบบต่างๆ จักรยาน มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ สำหรับผู้ที่ทำงานส่วนตัว ทำอาชีพอิสระ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องรถมาก่อน ก็อาจจะเกิดความผิดพลาดในการเลือกรถ ถ้าเป็นการซื้อรถยนต์ ก็จะทำให้เสียเงินมากหลักแสนบาท จนอาจจะเกิดผลกระทบต่อการเงิน และเสียโอกาสในการทำธุรกิจให้เจริญก้าวหน้า เพราะรถเอาเงินไปใช้หมด ดังนั้นจึงต้องศึกษาหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ

 

 

ยานพาหนะทั้ง รถยนต์ มอเตอร์ไซต์ หรือจักรยาน จะมีค่าใช้จ่ายตามมา มากน้อยต่างกันไป ที่น่ากลัวก็คือ รายจ่ายต่อเนื่องที่จะเกิดขึ้นตามมา ก่อนตัดสินใจซื้อ จึงต้องศึกษาให้รอบด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ชีวิตต้องเจอกับความยุ่งยากลำบาก โดยเฉพาะเรื่องเงิน เรื่องรายได้ที่ไม่แน่นอน

 

ข้อควรพิจารณาก่อนซื้อรถยนต์

การตัดสินใจซื้อรถ โดยเฉพาะรถยนต์ใหม่ป้ายแดง จะเป็นเรื่องใหญ่ที่คนทำอาชีพส่วนตัว ทำอาชีพอิสระ จำเป็นจะต้องศึกษาให้รอบด้าน ต้องศึกษาถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา เช่น
1. เงินถูกใช้ไปกับรถยนต์มากเกินไป ทำให้ไม่มีเงินไปลงทุน เพื่อขยายกิจการ เพราะรถยนต์มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก และเป็นรายจ่ายที่ต่อเนื่อง การมีรถยนต์ 1 คัน จะมีรายจ่ายหลายหมื่นบาทต่อปี แม้จะไม่ค่อยได้ขับ จอดไว้เฉยๆ ก็ยังมีค่าประกันภัย ภาษี พรบ. การดูแล

2. การซื้อรถยนต์เงินผ่อน เป็นการสร้างหนี้ที่อันตราย การต้องเป็นหนี้ในระยะยาว หากงานที่ทำอยู่มีปัญหา ไม่มีรายได้ ก็จะทำให้เกิดความยุ่งยากตามมาทันที เพราะรถที่ยังติดไฟแนนซ์อยู่นั้น การขายไม่สามารถทำได้ง่ายๆ เหมือนการซื้อรถด้วยเงินสด หรือแม้ว่าการเงินจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็อาจจะต้องสำรองเงินเอาไว้มากกว่าปกติ ไว้รับมือกับรายจ่ายที่ไม่คาดคิด

3. รายได้จากอาชีพอิสระ งานส่วนตัว ไม่แน่นอน เมื่อมีหนี้ หรือ มีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้เกิดความเครียด ส่งผลเสียต่อการทำงาน ทำได้ไม่เต็มที่

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์สักคันสำหรับคนทำอาชีพส่วนตัวนั้น จึงต้องพิจารณาให้รอบด้าน ตัวอย่างเช่น
1. สิ่งแรกที่สำคัญที่สุด ถามตัวเองก่อน มีความจำเป็นต้องใช้รถหรือไม่ หากไม่จำเป็นจะต้องใช้รถ ก็ไม่ควรซื้ออย่างเด็ดขาด อย่าซื้อเพื่อให้มีเหมือนคนอื่นเขา เว้นแต่จะมีความมั่นคงในการงาน การเงินมากพอแล้ว

2. หากมีความจำเป็นจะต้องใช้รถ และการเงินยังไม่แน่นอน ให้เน้นรถยนต์มือสอง คันเล็กๆ เครื่องยนต์เล็ก ยี่ห้อยอดนิยม ประหยัดน้ำมัน ใช้ขับรถติดต่องาน ช่วยทำมาหากินได้ ขายต่อง่าย เช่น อีโคคาร์ และเน้นซื้อเงินสดเท่านั้น

3. ศึกษาให้ดี เกี่ยวกับอาชีพของตัวเอง รายได้สม่ำเสมอหรือไม่ บางคนเปิดร้านอาหารใกล้สถานศึกษา เปิดได้ไม่นาน ทำท่าจะไปได้ดี ก็รีบไปผ่อนรถป้ายแดง พอปิดเทอมยาว ไม่มีลูกค้า ทำให้ขาดรายได้ ก็เกิดปัญหาการเงินทันที ถ้าซื้อเงินผ่อน ก็ลำบากแน่นอน

4. หากจำเป็นจะต้องใช้รถยนต์ และต้องเป็นรถยนต์ใหม่ป้ายแดง ก็ต้องเลือกรถตลาดเท่านั้น Honda Toyota Nissan เน้นรถเล็ก ประหยัดน้ำมัน ประหยัดค่าใช้จ่าย และพยายามดาวน์ให้มากที่สุด เพราะหากมีปัญหาการเงิน จะแก้ปัญหาเรื่องรถได้ง่ายกว่า การขายต่อจะง่ายกว่า การดาวน์น้อยๆ ห้ามทำอย่างเด็ดขาด

6. รถยนต์คันแรกจะต้องเป็นรถขนาดเล็กประหยัดน้ำมัน และต้องเป็นรถที่มีส่วนเสริมการทำงานก่อนเป็นลำดับแรก เน้นรถช่วยทำมาหากินก่อน อย่าซื้อรถใหญ่ ตามคำแนะนำของบางคน เช่น ต้องรถใหญ่ Accord, Camry, CRV, BMW, Benz ฯลฯ เพื่อเสริมภาพลักษณ์ให้ดูดี เรื่องนี้ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะรถเหล่านี้ เครื่องยนต์ใหญ่ กินน้ำมัน ค่าบำรุงรักษาแพง

7. เน้นรถที่มีความทนทาน และ วางแผนใช้งานในระยะยาวเกิน 10 ปี บางคนเปลี่ยนรถยนต์ทุก 5 ปี เพราะคิดเอาเองว่า เกินกว่านั้น รถยนต์จะไม่อยู่ในสภาพที่ดีแล้ว ซึ่งคิดเอง เออเอง ทั้งๆ ที่ตัวเอง ก็ดูแลรถอย่างดี เข้าศูนย์ ตรวจสภาพรถตามระยะทาง แต่เปลี่ยนรถเพราะกิเลส อยากได้รถใหม่ตลอดเวลา การเปลี่ยนรถยนต์บ่อยๆ ทำให้เสียเงิน จำนวนมาก หลายแสนบาท รถยนต์นั้น เพียงแค่เปลี่ยนอะไหล่ตามระยะทาง และใช้อะไหล่แท้ รถก็จะกลับมาสมบูรณ์ใกล้เคียงรถป้ายแดง รถตกรุ่นแต่ก็ยังใช้งานได้ ไม่มีปัญหาอะไร

8. รถยนต์ไฟฟ้า ทางอีกเลือกที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เอาค่าน้ำมันมาเป็นค่าผ่อนรถ บางคนมีค่าน้ำมันเดือนละหมื่นกว่าบาท ก็ดาวน์รถไฟฟ้ามาใช้ มีค่าไฟฟ้า ชาร์จไฟบ้าน เดือนละ 2-3000 บาท เอาเงินส่วนต่างค่าน้ำมัน ไปผ่อนรถ หากการงานไปได้ด้วยดี ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ใช้รถเพื่อช่วยทำงาน หาเงิน ระยะยาวถือว่าคุ้ม ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก แต่หากการงานยังไม่มั่นคง ก็ต้องยับยั้งชั่งใจไว้ก่อน เพราะรถไฟฟ้าราคาแพง และการขายต่อ อาจจะไม่ง่ายเหมือนรถน้ำมัน เพราะเมืองไทยเรา ยังไม่นิยมรถไฟฟ้ามากเหมือนน้ำมัน

 

 

ในเรื่องของรถยนต์นั้น ในความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแล้ว อยากแนะนำมือใหม่ที่กำลังเริ่มทำธุรกิจส่วนตัว ให้หักห้ามใจ อย่าเพิ่งยุ่งเกี่ยวกับรถยนต์ใหม่ แต่หาทางนำเงินที่ได้ ไปลงทุนทำธุรกิจเพิ่มเติม เพื่อสร้างรายได้หลายๆ ทาง หรือสร้างทรัพย์สินอื่นๆ เสียก่อน จากนั้นจึงค่อยตัดสินใจซื้อรถยนต์

เพราะเมื่อมีรถยนต์แล้ว รายจ่ายสารพัดจะเกิดขึ้นตามมาทันที และเกินไปจากที่คาดคิดไว้อย่างมาก ซึ่งคนที่ไม่เคยมีรถยนต์มาก่อน อาจจะคิดว่า มีแค่ค่า น้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ประกันภัย ภาษี เท่านั้นไม่รู้ว่ายังมีรายจ่ายอื่นอีกมาก

 

 

ในเรื่องของการใช้รถยนต์เพื่อส่งสินค้านั้น ทุกวันนี้ระบบการซื้อขาย และจัดส่งสินค้าเปลี่ยนไป เน้นขายผ่านเน็ต มีโกดังที่รับบริหารจัดการสินค้าให้เรา รับออร์เดอร์ และส่ง สินค้า ดังนั้นอย่าซื้อรถเพราะความอยากได้ แต่ดูความจำเป็น และควรหาวิธีแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นก่อนตัดสินใจซื้อรถเป็นของตนเอง เช่น ใช้บริการรถรับจ้างเป็นครั้งคราวไป เป็นต้น

 

ข้อควรพิจารณาก่อนซื้อรถจักรยานยนต์

สำหรับคนทำอาชีพอิสระ นอกจากรถยนต์แล้ว รถเล็กๆ อย่างจักรยานยนต์ ก็เป็นอีกพาหนะที่สำค้ญ เพื่อเอาไว้ใช้งานให้เหมาะสม เพราะรถเล็กประหยัดกว่ารถยนต์อย่างมาก
1. การซื้อรถจักรยานยนต์มือสอง ราคาไม่ถึง 20,000 บาท ก็มีรถดีๆ ให้เลือกใช้มากมาย ไม่จำเป็นต้องเป็นรถใหม่ ขอเพียงแค่ ให้เลือกรถสภาพเดิมๆ เจ้าของเป็นผู้สูงวัย ยี่ห้อยอดนิยม Honda, Suzuki, Yamaha ก็ได้รถดีไว้ใช้งานอีกนาน ข้อดีของรถมือสอง เวลาขายต่อราคาก็ไม่ตกมาก และด้วยราคาที่ไม่แพงมาก เงินก็ไม่หายมากนัก แต่ประโยชน์ใช้สอย ถือว่าคุ้มมากๆ ในขณะที่รายจ่าย ค่าภาษี พรบ. ค่าน้ำมันต่อปีถือว่าน้อยมาก
2. การซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ป้ายแดง ต้องระวังเรื่องการผ่อน ต้องดาวน์ให้มาก อย่าเลือกแบบฟรีดาวน์ ค่าผ่อนจะแพงมาก รวมๆ แล้วประมาณเดือนละ 2,500-3,000 บาท แต่หากการงานไม่แน่นอน ไม่อยากเครียดการกับการผ่อนรถ ก็อย่าเสี่ยง จะได้ใช้ชีวิตอย่างสบายๆ

 

 

ในเรื่องความทนทาน แนะนำให้ใช้รถเกียร์ธรรมดา รถใช้โซ่ จะมีความทนทานมากกว่ารถสกูตเตอร์ ดูแลง่าย เน้นรถครอบครัว ประหยัดน้ำมัน เอาไว้ใช้เดินทางในระยะใกล้ๆ ไม่ต้องใช้รถยนต์ 

 

 

ข้อควรพิจารณาก่อนซื้อรถจักรยาน

รถจักรยานจะช่วยลดรายจ่าย เมื่อต้องเดินทางไปทำธุระ ไม่ไกลจากที่พักมากนัก ไปทำธุระใกล้ๆ เดินทางไม่เกิน 1-2 กิโลเมตร หากไกลว่านั้น ก็ใช้มอเตอร์ไซค์ หรือรถยนต์ เป็นต้น การใช้รถพับได้ ก็มีข้อดี สามารถพับและพกพาติดรถยนต์ได้ หรือ นำขึ้นไปไว้บนห้องพักได้

 

 

สำหรับรถจักรยานนั้นแนะนำของมือสองจากญี่ปุ่น เนื่องจากมีคุณภาพการผลิตที่ดี มีความทนทาน แต่รถประเภทนี้จะมีรายจ่ายที่มากและอาจจะแพงกว่าตัวรถก็คือ ยางนอก ยางใน รถเล็กขนาด 20 นิ้ว ทั้งยางนอกยางใน ล้อหน้า ล้อหลัง ก็ประมาณ 500 บาท กรณีนำรถไปปั่นบนถนน ก็จะเสี่ยงกับปัญหายางรั่ว แบน เพราะเศษแก้ว ลวด ตามไหล่ทาง ดังนั้นหากไม่เดินทางไกลมากนัก เน้นไว้ใช้ปั่นระยะใกล้ๆ ก็แนะนำให้ใช้ยางตัน ไม่ต้องกังวลกับปัญหาการเติมลมยาง ปัญหายางแบน

 

สรุป

การใช้พาหนะที่หลากหลาย และใช้ให้เหมาะสมกับหน้าที่ของมัน จะช่วยประหยัดเงินในประเป๋าได้อย่างมาก
1. รถยนต์จะมีค่าใช้จ่ายหลักหมื่นบาทต่อปี จึงควรเอาไว้ใช้ในการเดินทางทีจำเป็นจริงๆ
2. รถจักรยานยนต์มีค่าใช้จ่ายหลักพันบาทต่อปี การเดินทางระยะทางไม่ไกล ทำธุระไม่ไกล เดินทาง 1-2 คน ให้ความความคล่องตัว
3. รถจักรยานมีค่าใช้จ่ายหลักร้อยบาทต่อปี ค่าเปลี่ยนยางใน ยางนอก การอัดจาระบีตามจุดหมุนต่างๆ เอาไว้เดินทางระยะใกล้ๆ

สำหรับคนที่เพิ่งจะเริ่มทำอาชีพส่วนตัว รายได้ยังไม่มั่นคง และไม่ได้ใช้ยานพาหนะเหล่านี้ เพื่อช่วยเสริมธุรกิจ หรือช่วยทำมาหากิน แต่มีไว้เพื่อความสะดวกสบาย จำเป็นจะต้องคิดและวางแผนให้รอบคอบ รอบด้าน เพราะแม้จะเป็นรถเล็กๆ อย่างจักรยานยนต์ ก็มีรายจ่ายตามมาไม่น้อยเหมือนกัน อย่างการซื้อเงินผ่อน แบบฟรีดาวน์ แพงกว่ารถยนต์มือสองเสียอีก

 

" หากมีเงิน มีรายได้ เข้ามามากขึ้น ควรหาทางนำเงินไปลงทุนให้เกิดรายได้หลายๆ ทาง ก่อนเสมอ ยอมลำบาก ไม่สะดวก ไม่สะบายในการเดินทาง แต่มีรายได้เพิ่ม หลายทางย่อมจะดีกว่า เมื่อรายได้มั่นคง แล้วจึงค่อยตัดสินใจซื้อรถยนต์ อย่าเพิ่งรีบสร้างความสุขระยะสั้นๆ ที่อาจจะทำลายความสุขในระยะยาว มีรถแล้วก็พากันเที่ยว เงินก็ไม่เหลือ งานก็ไม่เดิน ชีวิตอาจจะลำบากได้ "