การทำงานหรือการทำธุรกิจใดๆ ย่อมมีโอกาสเกิดความผิดพลาดขึ้นเป็นธรรมดา ประสบการณ์ที่น้อยก็มักจะทำให้ผิดพลาดได้ แต่ ความผิดพลาดนั้น จะมากหรือน้อย มีความเสียหายตามมามากหรือน้อย ก็มักจะขึ้นอยู่กับเงินทุนที่ใช้ ลงทุนมาก ก็เสียหายมาก เรื่อง แบบนี้ มักจะเกิดกับคนเราอยู่เสมอ โดยเฉพาะคนที่มีเงินแต่ไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์


 

รวมเรื่องควรรู้เกี่ยวกับความผิดพลาดในการทำธุรรกิจ

การทำธุรกิจ การลงทุนในด้านต่างๆ มีโอกาสผิดพลาด ซึ่งหากยังไม่เกิดกับตัวเอง หลายคนอาจจะไม่ฟังใคร หรือคาดไม่ถึง จึงไม่ได้ เตรียมรับมือ

 

ทุนมากไม่ได้รับรองว่าทำธุรกิจแล้วจะประสบความสำเร็จ

การมีทุนมากมีโอกาสทำธุรกิจแล้วเจ๊งเร็วกว่าคนมีทุนน้อย เพราะประมาทและมีความเข้าใจผิดๆ คิดว่า เงินทุนมากจะทำให้ประสบ ความสำเร็จในการทำธุรกิจ แม้จะเป็นผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาก่อนก็ตาม แต่ก็มีหลายคนที่ผิดพลาดไป การมีเงินทุนมาก ต้องมีความรอบคอบในการบริหารจัดการธุรกิจ เพราะเวลาที่ผิดพลาด ก็จะเสียเงินไปมากเช่นกัน

 

ใช้เงินไปกับสิ่งของที่ไม่สามารถขายได้ h2>

เมื่อมีทุนมาก จะซื้ออะไรก็มักจะไม่คิด อย่างการซื้อข้าวของที่มีมูลค่าสูง ลงทุนสูง อย่างการทำร้านอาหาร ร้านกาแฟ บางคนทุ่มเงิน ไปกับการแต่งร้านมากเกินไป หมดเงินเป็นแสน หรือมากกว่านั้น ตามเงินทุนที่มี มีมากก็มักจะลงทุนในลักษณะนี้มาก ทำให้เงินจม ไม่มี เงินหมุนเวียน แทนที่จะไปเน้นที่รสชาติของอาหารเสียก่อนหรือเน้นสินค้า แต่ไปเน้นสถานที่ การแต่งร้าน ก็ทำให้มีรายจ่ายสูง แต่หาก สินค้าไม่ดี คนก็ไม่เข้าร้าน ไม่ซื้อสินค้า ก็จะมีปัญหาการเงินตามมาทันที

 

ขาดความรู้ในเรื่องที่ทำธุรกิจ

คนที่มีเงินมาก โดยเฉพาะเงินที่ได้มาเร็ว เป็นเงินก้อนหญ่ ถูกรางวัล ถูกล็อตเตอรี่ ได้รับเงินมรดก เมื่อมีเงินมาก ก็ย่อมจะมีคนมา ชักชวนให้ลงทุน ซึ่งหลายเรื่องตัวเองไม่มีความรู้ แต่พลาดไปลงทุน เพราะส่วนใหญ่ผู้ชักชวน ก็มักจะกล่าวอ้างถึงผลกำไรที่ดีที่จะได้ ทำ ให้เกิดความโลภ บางคนจึงมักจะลงเอยด้วยการขาดทุน เพราะเงินส่วนหนึ่งที่ลงทุน ก็ต้องจ่ายให้คนที่ชักขวนลงทุน แต่หากทำเอง ก็จะ ประหยัดเงินในส่วนนี้

การทำธุรกิจในเรือ่งที่ตัวเองไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ ต้องจ้างคนอื่นทุกอย่าง ต้องให้คนอื่นช่วยบริหารจัดการ ต้องยืมจมูกคนอื่นหาย รายจ่ายก็จะเยอะมาก ต่างจากคนที่เน้นการลงทุนโดยจ้างคนน้อยที่สุด แต่อาศัยการบริหารจัดการที่ดี ลดแรงงาน ซึ่งผู้ลงทุนจะต้องมี ความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี หากทำแบบนี้ โอกาสเจ๊งก็ยากกว่า

ธุรกิจบางประเภท ต้องมีความรู้ในเรื่องนั้น บางคนเห็นคนอื่นทำเงินดี มีรายได้มาก ก็อยากทำตามบ้าง สุดท้ายก็เจ็บตัว เพราะไม่มี ความรู้ ต้องจ้างคนอื่น ซึ่งจะทำให้ต้องเสียเงินมาก กรณีเป็นงานที่ต้องการพนักงานพิเศษ อย่าง พ่อครัว แม่ครัว หากลาออกหรือหยุด งานก็จะสร้างปัญหาตามมาทันที

 

ประมาท ขาดสติ ใช้เงินไม่ระวัง

เมื่อมีเงินทุนมากก็มักจะประมาท ขาดสติ ใช้เงินไม่ระวัง เพราะคิดว่ามีเงินมาก จะทำอย่างไรก็ได้ ไม่มีปัญหาแน่นอน เอาอยู่ โดยไม่ เคยมีประสบการณ์มาก่อนว่าการมีเงินและนำเงินไปลงทุนยิ่งมาก ก็ยิ่งมีรายจ่ายตามมามาก กับการต้องดูแล หากไม่ทำบัญชีการใช้จ่าย ให้ดี จะพบว่าเงินจะหมดไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นอย่างมาก ใช้จ่ายแบบสิ้นคิด ผู้เขียนเคยเป็นแบบนั้น ถอนเงินจนโดนเจ้าหน้าที่ธนาคารด่า วาจะถอนอะไรกันหนักกันหนา จนต้องหนีไปธนาคารอื่น บัตร ATM ต้องหักทิ้ง เพราะกดไม่ทัน เงินหมดเร็วมาก

 

ใช้เงินผิดทาง บริการเงินไม่เป็น

เมื่อมีรายได้จากกิจการ งานที่ทำ ก็ต้องศึกษาวิธีใช้งาน การบริหารเงิน ต้องมีการกระจายความเสียง ลงทุนหลายอย่าง เพื่อความ ไม่ประมาท เพราะธุรกิจทุกประเภทมีขึ้นมีลง มีรุ่งและร่วง บางคนเริ่มทำงานได้เงินมายังตั้งตัวไม่ได้ แต่ก็ออกรถใหม่ป้ายแดงแล้ว ใช้เงิน เก่ง ฟุ่มเฟือย แบบนี้ ก็มักจะไปไม่รอด

 

มีภาระต้องรับผิดชอบมากเกินไป

บางคนเมื่อเริ่มทำธุรกิจได้ดี ก็สร้างภาระหรือมีภาระต้องรับผิดชอบมากเกินไป เช่น มีสมาชิกในครอบครัว พ่อแม่พี่น้องต้องดูแลให้ ความช่วยเหลือในเรื่องการเงิน ซึ่งการนำเงินที่เป็นผลกำไรไปใช้ในลักษณะนี้ ถือเป็นการใช้เงินผิดทาง บางคนช่วยเหลือครอบครัวจนตัว เองเดือดร้อน

 

เมื่อกิจการเริ่มไปได้ดี แต่ยังไม่มั่นคงนัก ก็ยังไม่ควรสร้างภาระ สร้างหนี้ให้กับตัวเองมากเกินไปนัก เพราะหากผิดพลาด ก็อาจจะทำ ให้ล้มครืนทั้งระบบ อย่างช่วงน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพนั้น บางคนมีกิจการที่ทำเงินเดือนหลักแสนบาท จึงสร้างหนี้ไว้มาก ครั้นเจอกับน้ำ ท่วมใหญ่ ร้านค้าต้องปิดเป็นเดือน รายได้หดหาย ไม่มีทุนสำรองเพื่อใช้จ่ายกับรายจ่ายในแต่ละเดือนที่สร้างหนี้เอาไว้ ทำให้แทบจะล้ม ละลาย เพราะไม่มีทุนหมุนเวียน ทุกอย่างที่มีล้วนเป็นหนี้ ต้องผ่อน

 

ธุรกิจทุกประเภทมีวันรุ่งและร่วง

เรื่องนี้สำคัญที่จะต้องศึกษาและทำความเข้าใจกับธุรกิจของตัวเองอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อดูว่า ธุรกิจนั้น มีโอกาสเดินไปถึงจุด จบเมื่อใด อย่างธุรกิจร้านหนังสือ สำนักพิมพ์ ซึ่งทุกวันนี้ ไม่เป็นที่นิยมอีกแล้ว คนซื้อหนังสือน้อยลง จนสำนักพิมพ์ใหญ่ๆ ต้องปิดตัว ซึ่งก็ยังมีธุรกิจอีกหลายประเภทที่กำลังจะหายไปจากโลก ดังนั้นต้องทำความเข้าใจกับธุรกิจของตัวเองให้ดี และเตรียมตัวรับมือ บางคน ผิดพลาดเพราะอ่านไม่ขาด ไม่มีประสบการณ์

 

ขาดประสบการณ์

ผู้ที่ประสบความสำเร็จกว่าจะถึงจุดสูงสุดของชีวิต มีฐานะร่ำรวย ขยายกิจการได้ใหญ่โต ล้วนต้องผ่านความลำบากในการทำงาน ความผิดพลาดมาหลายรอบ ซึ่งก็จะทำให้เกิดประสบการณ์มองอะไรได้ทะลุปรุโปร่ง เตรียมรับมือได้ บางคนไม่มีประสบการณ์แต่อาศัย ว่ามีโชคช่วย ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอด หากเจอเหตุไม่คาดคิด ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ก็มีโอกาสทำให้ล่มจมได้

 

สาเหตุที่จะทำให้การทำธุรกิจมีปัญหา จนล้มเหลว ต้องปิดกิจการ ก็ยังมีอีกหลายสาเหตุ เมื่อเริ่มทำธุรกิจ มีรายได้ จึงต้องศึกษาให้ รอบด้าน อย่าหยุดเรียนรู้พัฒนาตนเอง อย่าใช้ชีวิตซับซ้อน จะทำให้มีแต่ปัญหาตามมา และเมื่อมีรายได้ มีเงิน ก็ต้องศึกษาการบริหาร เงิน ศึกษาการใช้เงินช่วยทำงาน อย่าฝากความหวังไว้กับคนมากเกินไป เพราะคนนั้นมีรายจ่ายตามมา และไม่แน่นอนเหมือนฝากเงินไว้ กับระบบ เช่น เมื่อเริ่มมีรายได้มากขึ้น ก็นำไปเล่นหุ้น เน้นปันผล หรือลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์หรือการลงทุนด้านอื่นที่มีโอกาสสร้าง ผลกำไร แทนการลงทุนที่ต้องมีพนักงาน มีการผลิตสินค้า ซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่า