อาการเจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดาที่อาจจะเกิดกับเราได้ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องจบแพทย์ ขอเพียงเป็นคนช่างสังเกตุความผิดปกติที่เกิดกับร่างกายก็อาจจะช่วยป้องกันอันตรายจากความเจ็บป่วยร้ายแรงได้ หรือไม่ส่งผลทำให้เกิดอันตรายกับร่างกายของเรามากเกินไป โดยใช้การสังเกตุและรีบดูแลตัวเองเท่านั้นเอง อาการเจ็บป่วยหนักหนาสาหัส ก็ยากจะมารบกวน

 

อาการเจ็บป่วยส่วนใหญ่เมื่อเริ่มเกิดนั้นก็จะส่งสัญญาณเตือนก่อน แต่ทั้งนี้ก็ต้องใช้การคาดเดาล่วงหน้าด้วย การสังเกตุอย่างเดียวอาจจะไม่พอ ตัวอย่างสถานการณ์หรือสัญญาณต่างๆ ที่บ่งบอกว่าร่างกายของเรากำลังจะเจ็บป่วยแล้วนะ

 

อากาศแปรปรวนต้องระวังและเตรียมพร้อม

อากาศแปรปรวน เช่น ช่วงนี้ปกติในเมืองไทยของเราจะต้องเข้าหน้าหนาวแล้ว แต่ยังมีฝนตก บางวันอากาศก็หนาว อันตรายก็คือ อุณหภูมิยามดึก บางครั้งจะลงต่ำมาก ทำให้เจ็บป่วยได้ ก่อนนอนอากาศร้อน บางคนก็เปิดพัดลม พอตกดึกอุณหภูมิลดลงอย่างมาก ตอนเช้าจะป่วยเป็นหวัดได้

การหมั่นสังเกตุก็พอจะช่วยได้ เช่น การตื่นมากลางดึก อาจจะรู้สึกเจ็บคอ เพราะอากาศเย็น สิ่งที่ต้องทำก็คือรีบหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ให้ความอบอุ่น หาผ้ามาพันคอ แล้วก็นอนตามปกติ ตื่นเช้ามาจะมีโอกาสหายเป็นปกติเร็วกว่า เพราะร่างกายได้รักษาตัวเอง หลังจากนอนต่อ แต่หากฝืนนอนทั้งที่อากาศเย็นอยู่อย่างนั้น ตอนเช้ามีโอกาสป่วยแน่นอน

 

นอกจากนี้อาจจะป้องกันด้วยการนอนห่มผ้า ให้ร่างกายอบอุ่น ก็จะช่วยป้องกันได้อย่างดี การไปเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงหน้าหนาวต้องระวัง เพราะมีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่ายกว่า

 

การดูแลตัวเองเมื่อเจ็บป่วย

หากร่างกายเริ่มเจ็บป่วย หรือมีอาการผิดปกติ การรีบรักษาตัวเอง ดูแลตัวเองให้เร็วที่สุด ก็จะช่วยให้หายเจ็บป่วยได้เร็วกว่าการปล่อยให้เรื้อรัง เช่น มีน้ำมูก ถ้าใส แสดงว่า ยังไม่ติดเชื้อ การรีบรักษาตัวเองให้เร็วจะดีกว่า ปล่อยให้ติดเชื้อน้ำมูกออกเหลืองหรือเขียว เสมหะก็เช่นกัน การรักษานั้น ไม่ใช่แค่กินยา แต่ต้องออกกำลังกายด้วย บางครั้งใช้การออกกำลังกายแล้วเข้านอนแต่หัวค่ำ ก็หายได้โดยไม่ต้องกินยา เพราะเมื่อร่างกายแข็งแรง ก็จะรักษาตัวเองได้อัตโนมัติ

 

ความผิดปกติใดๆ ที่เกิดกับร่างกายต้องรีบหาสาเหตุ

ทุกวันนี้เราสามารถหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตได้ทุกเรื่อง ดังนั้นอาการเจ็บป่วยใดๆ ก็ตาม ถาม Google ได้หมด หาคำตอบได้ทั้งหมด เมื่อมีความเจ็บป่วยเกิดขึ้น ก็ต้องรีบหาสาเหตุทันที ว่าเป็นอะไร จะได้รู้ว่า อาการเจ็บป่วยนั้น เป็นอาการเจ็บป่วยธรรมดาหรืออาการของโรคที่ร้ายแรง จะได้หาทางป้องกันได้ทั้น

มือถือ Android เป็นมือถือที่นิยมใช้กันมาก ทันทีที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ก็จะสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของเราได้ทันที

 

ตัวอย่างการค้น หาข้อมูลผ่าน Google
1. เชื่อมต่อเน็ต แล้วแตะแอพ Chrome

2. พิมพ์ อาการเจ็บป่วยของเรา เจ็บคอ เสมหะออกเป็นเลือด แล้วแตะ ไป หรือ ค้นหา

3. ในผลการค้นหาก็สามารถหาสาเหตุจากบทความที่มีคนทำบทความ หรือถามตอบปัญหา สามารถหาข้อมูลได้ง่ายๆ

4. การค้นหามีหลายแบบ อาจจะแตะคำสั่ง ค้นรูป ด้านบนเพื่อแสดงภาพอาการเจ็บป่วย หากมีแผลหรือสิ่งผิดปกติเกิดกับร่างกาย ผื่น แผล ฯลฯ ก็จะดู ภาพเปรียบเทียบกันว่าเป็นอะไร

5. หรือแตะ วิดีโอ เพื่อดูวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับอาการป่วยนั้นๆ ซึ่งอาจจะมีแพทย์ พยาบาลหรือผู้มีประสบการณ์จริงนำข้อมูลมาเผยแพร่ในรูปแบบ วิดีโอ

อาการเจ็บป่วยต่างๆ สามารถหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตได้ทั้งหมด ซึ่งเราควรหาข้อมูลก่อนจะไปหาแพทย์ เพราะโรงพยาบาลเอกชนนั้น การพบแพทย์จะมีค่าใช้จ่ายแพงมาก แค่ไปฟังหมอวินิจฉัยว่าเป็นอะไร แล้วเสียเงินเสียค่ายาอีกหลายร้อยบาท มันไม่คุ้มเลย เพราะบางโรคนั้น หาคำตอบได้ไม่ยากเลย

 

เจ็บป่วยไข้ กินยาต่อเนื่องแล้วไม่หายต้องหยุด

ร่างกายของคนเราจะสามารถรักษาตัวเองได้ บางครั้งก็เจ็บป่วยนอนซมหลายวัน หากกินยาอย่างต่อเนื่องเกิดอาทิตย์แล้วไม่หาย ต้องฝืนหยุดกินยา ออกกำลังกาย ก็จะหาย เพราะร่างกายจะรักษาตัวเองให้กลับมาแข็งแรงได้ ซึ่งบางครั้งไม่ต้องใช้ยา ผู้เขียนแทบจะไม่ใช้ยาเพื่อรักษา แต่ช่วงไหนที่เจ็บป่วยจะออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ เข้านอนแต่หัวค่ำ อาการเจ็บป่วยก็จะหายเร็วมาก

 

ฝึกสมาธิ แทนการรักษาด้วยยา

ร่างกายของคนเราจะสามารถรักษาตัวเองได้ เมื่อพักผ่อนอย่างเพียงพอ หรือใช้การฝึกสมาธิ ก็จะสามารถช่วยได้เช่นกัน ในช่วงที่เจ็บป่วย ไม่สบาย ผู้เขียนจะมีวิธีรักษาตัวเองที่ไม่เหมือนชาวบ้าน เช่น นั่งสมาธิ เดินจงกรม ออกกำลังกาย ในแต่ละปีกินยาน้อยมาก แต่ก็คงไม่ช่วยอะไร เพราะกินเบียร์เหมือนอาบ

 

การนั่งสมาธิ หรือฝึกสมาธิ เมื่อจิตใจสงบ เข้าสู่สมาธิแล้ว ร่างกายหลายส่วนก็จะหยุดทำงาน ส่วนใดของร่างกายที่สึกหรอหรือเจ็บป่วย อวัยวะส่วนนั้นก็จะได้รับการรํกษาได้เร็วกว่า เพราะส่วนอื่นหยุดทำงาน ความต้องการใช้พลังงานลดน้อยลง ความสึกหรอก็ลดน้อยลง อาการเจ็บป่วยบางอย่างก็หายเป็นปกติได้ โดยไม่ต้องกินยา

 

การฝึกสมาธินั้นไม่ได้หมายถึงการต้องนั่งหลับตาแบบพระ การอยู่เฉยๆ ทำงานหรือทำกิจกรรมอะไรอยู่ก็สามารถทำสมาธิได้ โดยการทำเรื่องนั้นๆ เรื่องเดียว คิด อย่างเดียว ให้จิตมีสมาธิ หรือหากนั่งเฉยๆ ก็ฝึกภาวนาพุทโธ ไม่ต้องหลับตาจะนั่ง เดิน ยืน ก็ฝึกสมาธิได้ทุกที่ พยายามทำจิตใจให้สงบ เพราะจิตที่พยายามคิดนั่นนู่นนี่ จะทำให้ร่างกายต้องใช้พลังงาน ไม่ได้พักผ่อน

 

อาการเจ็บป่วยหายได้เร็ว หากเรารู้จักสังเกตุ และต้องพยายามเป็นที่พึ่งแห่งตน รีบหาทางรักษาแต่เนิ่นๆ อย่าไปคาดหวังความช่วยเหลือจากหมอหรือคนในครอบครัว ต้องรียบช่วยตัวเองก่อน เพราะเมื่อเจ็บป่วยแล้ว หากเป็นเรื้อรัง ไม่หายสักที เราเองนั่นแหละที่จะรำคาญตัวเอง หรือต้องทุกข์ทรมานจากอาการเจ็บป่วย

 

บางคนมีลูกหลานก็จะเรียกร้องความสนใจจากลูกหลาน แม่ผู้เขียนเคยแกล้งป่วยบ่อยๆ เรียกร้องความสนใจ อยากให้มาดูแล แต่ไม่ดูแลตัวเอง พอป่วยจริงๆ น้องสาวก็คิดว่าแกล้ง จึงไม่สนใจ เกือบได้ตายจริงๆ ตั้งแต่นั้นมาก็เข็ด และเริ่มดูแลตัวเอง เพราะรู้ว่าร่างกายของใครก็ของคนนั้น ทำแทนกันไม่ได้ การออกกำลังกายก็เช่นกัน อยากแข็งแรงไม่เจ็บป่วยต้องออกกำลังกายเอง การกินยาไม่ช่วยอะไรเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ