การบริหารเงินเดือน เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนทำงานมีรายได้ประจำ มีเงินเดือนประจำ หากบริการเงินได้ดี ชีวิตบั้นปลายก็จะไม่ ลำบาก หรืออาจจะเกษียณก่อนอายุ 60 ปี ใช้ชีวิตที่เหลือท่องเที่ยวทำให้สิ่งที่วาดฝัน อย่างมีความสุข แต่เรื่องนี้ไม่ง่ายนัก ผู้ที่สามารถ จัดการการเงินของตัวอย่างดี และสามารถสร้างฐานะให้ร่ำรวยได้นั้น มีไม่มาก

 

หัวข้อทั้งหมดในบทความนี้

ตัวอย่างเรื่องที่จะกล่าวถึงในบทความนี้ เพื่อความสะดวกในการเลือกอ่านเฉพาะหัวข้อที่ต้องการ

  1. ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการบริหารเงินเดือนทุกรูปแบบ
  2. ตั้งจุดมุ่งหมายเกี่ยวกับการเงินของตัวเอง
  3. บริหารเงินเดือนในเรื่องอาหารการกิน
  4. บริหารเงินกับภาระทางบ้าน ครอบครัว
  5. การซื้อรถยนต์หรือจักรยานยนต์
  6. การซื้อบ้าน ที่ดิน
  7. การซื้อข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว
  8. คู่ครอง คู่ชีวิต การแต่งงาน
  9. การศึกษาเพิ่มเติม
  10. ศึกษาการบริหารเงินกับผู้มีประสบการณ์
  11. บริหารเงินเดือนโดยการนำเงินไปลงทุนหรือทำธุรกิจอื่น

 

ตัวอย่างเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการ บริหารเงินเดือน

ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการบริหารเงินเดือน

ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการบริหารเงินเดือน ของแต่ละคนที่มีการแชร์ข้อมูลผ่านเน็ต ทุกวันนี้หาได้ไม่ยาก ในเน็ตมีการแชร์ข้อมูลมาก มาย ซึ่งจำเป็นจะต้องศึกษเพื่อให้มีความรู้ในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเงินในทุกเรื่อง เช่น
1. ศึกษาหาเกี่ยวกับการเงินมนุษย์เงินเดือนในหลายๆ ด้าน เท่าที่จะสามารถหาข้อมูลได้
2. ศึกษาเกี่ยวกับการออมเงินแบบต่างๆ เช่น เก็บเงินใส่กระปุก ฝากธนาคาร ผลตอบแทนที่ได้
3. ศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนในด้านต่างๆ เช่น เล่นหุ้น ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน
4. ศึกษาเกี่ยวกับความผิดพลาดในการบริหารเงินของมนุษย์เงินเดือน
5. ศึกษาเกี่ยวกับการประหยัดเงินค่าใช้จ่าย
6. ศึกษาการลงทุนที่ใช้เงินทุนน้อย การสร้างกิจการ ที่เริ่มจากทุนแค่หลักพัน ซึ่งมีกรณีศึกษามากมาย
7. ศึกษาวิธีวางแผนการเงินหลังเกษียณของมนุษย์เงินเดือน

 

ตั้งจุดมุ่งหมายเกี่ยวกับการเงินของตัวเอง

เมื่อมีความรู้เกี่ยวกับการเงินพอสมควรแล้ว คราวนี้ก็ตั้งจุดหมายของตัวเอง เกี่ยวกับการบริหารเงินต้องการเดินไปทางใด ตั้งจุดมุ่ง หมายแล้วก็เดินไปตามแผนที่วางไว้ หากมีความรู้เกี่ยวกับการเงินมาก จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากเช่นกัน ตัวอย่างเช่น
1. ตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับการออมเงิน จะเก็บเดือนละกี่บาท
2. ตั้งเป้าหมายในการซื้อข้าวของเครื่องใช้ สมบัติ รถยนต์ บ้าน ที่ดิน
3. การวางแผนการลงทุน นำเงินไปสร้างผลกำไรแบบต่างๆ
4. วางแผนการใช้จ่ายเงินกับครอบครัว
5. วางแผนการเงินหลังเกษียณอายุ ออกจากงานแล้ว จะต้องมีเงินเก็บ มีรายได้จากทางใดบ้าง
ฯลฯ

การตั้งจุดหมายการเงินของตัวเอง เป็นสิ่งที่หลายคนทำกันเป็นปกติ แต่มีน้อยคนที่สามารถเดินไปถึงฝันที่วางไว้ได้ บางคนเริ่มเล่น หุ้นซื้อเก็บไว้ทุกเดือน ตั้งแต่เริ่มทำงาน ผ่านไปสิบกว่าปี จนมีหุ้นมากพอ มีรายได้จากเงินปันผล และราคาหุ้นก็ปรับตัวสูงขึ้น สร้าง ความร่ำรวยหล่ายเท่าตัวก็ลาออกจากงานตั้งแต่ก่อนอายุ 40 ปี การมีวินัยการเงินแบบนี้ค่อนข้างยากมาก น้อยคนจะสามารถทำได้

 

บริหารเงินเดือนในเรื่องอาหารการกิน

การจัดการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและมีเงินเก็บมากขึ้น เช่น
1. ศึกษาต้นทุนค่าอาหารของตัวเองต่อเดือน มีรายจ่ายค่าอาหารมากน้อยเพียงใด
2. ศึกษาการลดรายจ่ายกรณีทำอาหารกินเอง หรือการประหยัดเงินค่าอาหารด้วยวิธีต่างๆ
3. ศึกษาค่าใช้จ่ายกรณีซื้ออาหารทุกมื้อ
4. ศึกษาค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการกินอาหารนอกบ้าน ปาร์ตี้กับเพื่อนๆ

เรื่องอาหารการกินนั้น หากรู้ว่าตัวเองสามารถลดรายจ่ายเรื่องอาหารได้มากที่สุดมากน้อยเพียงใด การบริหารเงินก็จะทำได้ดีเช่นกัน ซึ่งจำเป็นจะต้องรู้วิธีและลงมือทำอาหารกินเอง ก็จะรู้วิธีบริการเงินในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี บางคนอยู่ได้สบายๆ อาทิตย์ละ 300-500 ในขณะที่บางคน 300 ต่อวัน ยังทำไม่ได้เลย

 

บริหารเงินกับภาระทางบ้าน ครอบครัว

หากมีภาระต้องรับผิดชอบกับทางครอบครัว ก็จำเป็นต้องวางแผนให้ดีเช่นกัน ศึกษาข้อดีข้อเสียของการให้ความช่วยเหลือครอบครัว ในด้านการเงินแบบต่างๆ เช่น
1. การให้ความช่วยเหลือครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง ลูกหลาน ต้องมีขอบเขต มีกำหนดระยะเวลา มีเงื่อนไข อย่าช่วยเหลือแบบให้เปล่า ให้พร่ำเพรื่อ และต้องศึกษาผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย

- บางคนทำงานอยู่กับนายจ้าง เฉพาะเงินเดือนส่งให้ทางบ้านทั้งหมดเลย พ่อแม่ก็ใช้เงินกันสนุกสนาน แทนที่จะใช้ในทางที่เกิดประโยชน์ ในวันที่ตัวเองไม่มีงาน ต้องกลับไปอยู่บ้าน กลับไม่มีอะไรเหลือเลย มีแต่น้ำตา แถมพ่อแม่ยังไปสร้างหนี้ให้ต้องตามจ่ายอีกต่างหาก

- บางคนก็แย่กว่านั้น ส่งเงินให้ทางบ้าน ทุกคนที่บ้านมีฐานะที่ดีขึ้น แต่ในวันหนึ่งที่ตัวเองรู้สึกเหนื่อยล้า งานการไม่ดี อายุมากแล้ว อยากจะกลับไปพักที่บ้าน กลับโดนไล่ให้ไปอยู่ไกลๆ ทุกคนกลัวไปแย่งสมบัติ ไม่มีสมบัติอะไรก็ไม่มีใครต้องการ เป็นภาระ นี่คือความ จริงสุดแสนจะโหดร้ายที่บางคนต้องเจอ การช่วยคนต้องศึกษาข้อดีข้อเสีย การให้อย่างเดียว จะทำให้คนรับส่วนใหญ่กลายเป็นคนเห็น แก่ตัว

2. จำนวนเงินที่จะให้ครอบครัวต้องมีความยืดหยุ่น บางคนเงินเดือน 10,000 แต่ส่งให้ทางบ้านทุกเดือนๆ เช่น ละ 5,000 จนตัวเอง แทบจะเอาตัวไม่รอด เป็นต้น ปัญหาใหญ่ที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือ ฝ่ายที่เป็นผู้รับ จะรับอย่างเดียว ไม่รู้จักคำว่าให้ และมักจะกลายเป็น คนเห็นแก่ตัวอย่างที่สุด หากเดือนใดมีปัญหา ไม่มีเงินส่งให้ ก็อาจจะได้ยินคำด่าว่า เนรคุณ แทนความเห็นใจ หรือคำพูดอื่นที่ทำให้ช้ำใจ ไม่ต่างกัน

ดังนั้นจงเผื่อตัวเองไว้ก่อน โดยเฉพาะครอบครัวในต่างจังหวัด ซึ่งมีที่ทางทำมาหากิน ถ้าขยันปลูกพืชผักให้รอบบ้าน คำว่า อดไม่มีแน่นอน ในขณะที่ตัวเอง เข้ามาทำงานในเมือง มีค่าห้อง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ มากมาย เป็นรายจ่ายตายตัว หลีกเลี่ยงไม่ได้ มีชีวิตที่ยากลำบากกว่า มากนัก

3. เมื่อตัวเองเป็นผู้เจ้าของเงิน เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ ก็ต้องเป็นผู้กำหนดกติกา ที่สมาชิกในครอบครัวจะต้องปฏิบัติตาม การให้เงิน สมาชิกในครอบครัวให้ใช้กันแบบสบายๆ เป็นเรื่องต้องห้าม ควรส่งเสริมให้สร้างรายได้ นำเงินไปลงทุนร่วมกัน มีกฏกติกาที่ต้องปฏิบัติ อย่างเคร่งครัดเช่นกัน

หากผิดไปจากนี้ มีแต่ทุกข์ใจตามมา 100% เพราะชีวิตไม่แน่นอน ไม่มีใครจะเป็นฮีโร่ ดูแลคนอื่นอยู่คนเดียวได้ ตลอดไป ในวันที่แย่ คนรอบตัว คนในครอบครัวก็ต้องรู้วิธีเอาตัวรอดให้ได้เช่นกัน อย่าเอาชีวิตคนอื่นมาดูแลอยู่คนเดียว ให้แต่ละคนได้ เรียนรู้วิธีดูแลตัวเองบ้าง

4. ศึกษารายจ่ายสุทธิของทางบ้าน ในต่างจังหวัดจะมีรายจ่ายน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่จะมีพื้นที่เพาะปลูก สามารถปลูกพืชผักได้สารพัด จึงช่วยประหยัดรายจ่าย การส่งเงินให้ทางบ้านจำนวนมาก เงินจึงมักจะหมดไปกับการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ยิ่งให้มาก ก็ยิ่งฟุ่มเฟือยมากใช้ทิ้ง ขว้างไปเดือนๆ เท่านั้น ปัญหาใหญ่ที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือ วันที่เจ็บป่วย ลูกหลานจะลำบาก มันลำบากจริงๆ นะ

5. อย่าให้คนในครอบครัว พ่อแม่พี่น้องมาวุ่นวายกับเงินเดือนตัวเองอย่างเด็ดขาด และต้องเก็บไว้เป็นความลับ เพราะเมื่อเข้ามาจัดการ นานๆ เข้าก็จะคิดว่าเป็นของตัวเอง ถอนออกมาไม่ได้ ไม่ว่าชีวิตจะลำบาก ยากแค้นเพียงใดก็ตาม บางคนถอนไม่ได้เลย เพราะคนเก็บ เริ่มหวง เริ่มคิดว่าเป็นเงินของตัวเองไปแล้ว

เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ ที่มักจะทะเลาะกันถึงขั้นตัดความสัมพันธ์พ่อแม่พี่น้องกันเลยทีเดียว ธรรมชาติของมนุษย์เป็นแบบนี้ เป็นเรื่องที่ จะต้องเข้าใจและหาทางป้องกันไว้ก่อน เมื่ออายุมากขึ้น เมื่อครอบครองสิ่งใดนานๆ หรือเมื่อแยกครอบครัว เริ่มมีลูกหลานของตัวเองแล้ว ความเห็นแก่ตัวจะเริ่มปรากฏ มากขึ้น เริ่มตัวใครตัวมัน ความเป็นพ่อแม่พี่น้องเริ่มจะเปลี่ยนไปเป็นคนอื่นคนไกล ดังนั้น ต้องเตรียมรับมือ อย่าคิดว่าจะไม่เกิดกับตัวเอง เกิดเร็ว แก้ไขได้เร็ว เกิดช้า อาจจะหมดตัว ไม่มีอะไรเหลือเลย

สิ่งสำคัญในการให้ความช่วยเหลือครอบครัวนอกจากต้องมีสติแล้ว ก็ต้องมีเหตุผล และคิดถึงตัวเองให้มากๆ เอาตัวให้รอดก่อนแล้ว ค่อยช่วยเหลือคนอื่น ควรศึกษาหาความรู้ในการร่วมกันทำธุรกิจร่วมกันเพื่อให้เกิดรายได้ ให้แต่ละคนได้มีส่วนช่วยหาเงิน ไม่เช่นนั้น ก็ จะต้องรับผิดชอบสมาชิกในครอบครัวไปจนกว่าจะต้องตายจากกันไปข้าง ไม่มีโอกาสได้ลืมตาอ้าปาก

 

คำแนะนำสำหรับบุตรหลานที่มีครอบครัวอยู่ต่างจังหวัด

สำหรับผู้ที่มีครอบครอบครัวอยู่ต่างจังหวะ และต้องส่งเงินให้ทางบ้านทุกเดือน หากที่ทางพอจะมีอยู่บ้าง สามารถเพาะปลูกสารพัด ผักได้ ก็แนะนำให้ไปทำระบบน้ำให้ดี ขุดบ่อ ทำระบบรดน้ำ ให้ดี เน้นส่งเสริมให้ปลูกพืชผักไว้กินเอง หากระบบน้ำดีแล้ว การเพาะปลูกจะ เป็นเรื่องง่าย วิธีนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก

การซื้อรถยนต์หรือจักรยานยนต์

การซื้อรถยนต์จะส่งผลต่อการเงินของมนุษย์เงินเดือนอย่างมาก เพราะ รถยนต์จะมีรายจ่ายผูกพันต่อเนื่องจนตลอดอายุการใช้งาน ถ้าคิดจะตั้งตัว ต้องตัดเรื่องรถออกไปก่อน ตัวอย่างผลเสียของการซื้อรถยนต์ที่ส่งผลต่อการออมเงิน บริหารเงิน เช่น 1. การซื้อรถยนต์จะทำให้เงินเก็บหลักแสนหายไป อย่างการซื้อรถยนต์ป้ายแดง 1 คัน หลัง 10 ปีผ่านไป เงินจะเหลือเป็นมูลค่ารถประ าณ 20%-30% ของราคารถ หรือน้อยกว่านั้นในรถยนต์บางรุ่น 2. การมีรถจะมีรายจ่ายอื่นๆ ตามมาตลอดอายุการใช้งาน ในช่วงระยะเวลาที่ผ่อนรถนั้น อาจจะไม่มีเงินเก็บเลย จะเริ่มเก็บเงินได้บ้าง หลังจากผ่อนรถหมดแล้ว

รายจ่ายเกี่ยวกับรถยนต์จะค่อนข้างมาก ควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ สำหรับคนที่เงินเดือนไม่มากนัก ไม่เกิน 25,000 ไม่ควร ซื้อกับรถป้ายแดง หรือถ้าจะซื้อก็ไม่ควรเลือกรถที่แพงไปกว่าอีโคคาร์เท่านั้น

การซื้อรถยนต์สักคันสำหรับมนุษย์เงินเดือน ต้องมีการศึกษาและวางแผน เช่น
- บางคนเลือกซื้อบ้าน ผ่อนบ้านไปสักระยะ แต่อาจจะไม่ถึง 10 ปี เมื่อบ้านปรับราคาสูงขึ้น ตำแหน่งการงานดีขึ้น ก็ทำเรื่องรีไฟแนนซ์ บ้าน ได้เงินก้อนมาซื้อรถ ซื้อเงินสดได้เลยทีเดียว หรือดาวน์มากผ่อนน้อย ไม่นานก็หมด
- บางคนเน้นซื้อหุ้นทุกเดือนไปสิบกว่าปี เมื่อหุ้นราคาปรับตัวสูงขึ้น ก็ขายหุ้นบางส่วน นำเงินมาซื้อรถ แถมยังมีรายได้จากเงินปันผลทุกปี อยู่ได้สบายๆ
- บางคนซื้อที่ดินในต่างจังหวัดไว้ เมื่อราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น ก็แบ่งขายบางส่วน นำเงินมาซื้อรถ เป็นต้น

วิธีการบริหารเงินเดือน มีหลายแบบ หากเลือกแบบแรก เริ่มทำงาน มีเงินเดือนก็ซื้อรถทันที แบบนี้จบกัน อีก 5-10 ปีข้างหน้า อาจ ยังตั้งตัวไม่ได้เลย แต่ถ้าเริ่มต้นด้วยการนำเงินไปลงทุนก่อน เช่น ซื้อที่ เล่นหุ้น หรือทำธุรกิจที่ทำให้เกิดดอกออกผล ในอีก 10 ปีข้างหน้า ก็มักจะมีผลกำไร มีเงินก้อนเข้ามา แม้จะนำเงินบางส่วนไปใช้จ่าย แต่เงินต้นก็ยังอยู่ หรืออาจจะลดน้อยลง แต่ก็ยังเหลืออยู่มากกว่า การนำเงินไปซื้อรถอย่างแน่นอน เพียงแต่ในระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นทำงานนั้น จะสามารถเก็บเงินก้อนได้หรือไม่ เรื่องแบบนี้มีคนส่วน น้อยเท่านั้นที่สามารถทำได้

 

สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่เพิ่งจะเริ่มต้นทำงานหรืออาจจะทำงานมานานแล้ว แต่เงินเดือนไม่มาก ต้องระวังเรื่องการซื้อรถป้ายแดง ถ้าอยากตั้งตัวได้เร็ว หรือมีโอกาสสร้างความมั่งคงทางการเงินได้เร็ว อย่ายุ่งกับรถป้ายแดง เก็บเงินแล้วหาซื้อรถมือสองสภาพดีไว้ใช้งาน จะดีกว่า

 

นอกจากรถยนต์แล้ว จักรยานยนต์ก็เป็นทางเลือกที่ประหยัด ปัจจุยันการใช้มอเตอร์ไซต์โดยเฉพาะรถขนาดเล็กได้รับความนิยมทั้ง การใช้งานทั่วไป และท่องเที่ยวเดินทางไกล ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าการใช้รถยนต์อย่างมาก แม้จะเป็นรถมือสองก็ตาม

 

แต่ถ้าหากอดใจได้ ใครๆ ก็มีรถใช้กันทุกคน กลัวน้อยหน้าเพื่อนฝูง เพื่อนบ้าน การเลือกรถสักคันต้องเน้นประหยัด ยี่ห้อยอดนิยม ทนทาน และต้องใช้งานไปไม่น้อยกว่า 15 ปี รถยนต์หากดูแลให้ดี เลขไมล์เกิน 500,000 กิโลเมตร ยังใช้งานได้สบาย

อยากรู้รายจ่ายเรื่องรถ แนะนำบทความนี้ ลดรายจ่ายเรื่องรถยนต์ ประหยัดเงินเรื่องการซื้อรถ มีหลายวิธีมาแนะนำ

 

การซื้อบ้าน ที่ดิน

การเป็นพนักงานมีรายได้หลักจากเงินเดือน ถ้าต้องการรวยเร็ว การซื้อบ้านเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ หากได้ทำเลดี ในเวลาไม่ถึง 10 ปี ราคาบ้านอาจจะขึ้นไปอีกเท่าตัว ถ้าขายก็ทำกำไร ส่วนที่ดินก็เช่นกัน เพียงแต่ 2 อย่างนี้ ต้องมีเงินเย็นจริงๆ เพราะในการขายไม่ ง่ายเหมือนสินทรัพย์ประเภทอื่น โดยเฉพาะหากมีคนในครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้องหรือเข้ามาใช้ประโยชน์ด้วยแล้ว การขายอาจจะเป็นไป ไม่ได้เลย โดนคัดค้านอาจถึงขั้นตัดขาดความสัมพันธ์กันเลย

 

ผู้เขียนเคยซื้อที่ไว้หนึ่งแปลง จากนั้นทางครอบครัวก็เข้ายึดครอง ยึดที่ไปใช้อยู่ 11 ปี ยึดฉโนดเก็บไว้ ทำอะไรกับที่แปลงนั้นไม่ได้เลย การซื้อที่ดินนั้น หากเป็นเงินของตัวเอง หากซื้อที่เป็นของตัวเองแล้ว อย่าให้ใครเข้ามาวุ่นวาย โดยเฉพาะพ่อแม่พี่น้อง อย่าคิดว่าเรื่อง แบบนี้จะไม่เกิดกับตัวเอง ผู้เขียนก็เคยคิดแบบนี้ แต่สุดท้ายก็เกิดจนได้ และเกิดในช่วงเวลาที่ชีวิตกำลังย่ำแย่เสียด้วย มีเงินเก็บมีเงิน ก้อน ถ้าทางบ้านแนะนำให้ซื้อที่ ต้องศึกษาให้ดีเสียก่อน อ้อยเข้าปากช้างแล้วมีหรือจะปล่อยง่ายๆ

 

การซื้อที่ดินเพื่อทำไร่หรือทำการเกษตร อาจจะมีช่องทางสร้างรายได้ ในกรณีที่มีเพื่อนฝูง หรือครอบครัวอาจจะเพาะปลูกพืชผัก ผล ไม้ต่างๆ บางคนทำงานประจำไปด้วย ทำการเกษตรไปด้วย เมื่อรายรับจากการเกษตรอยู่ตัวแล้ว ก็ออกจากงานมาทำอย่างเต็มตัว แต่ ทั้งนี้อาจไม่ง่ายอย่างที่คิด แม้แต่คนที่จบด้านการเกษตรมาโดยตรงก็ตาม เพราะการทำการเกษตรต้องมีแรงงาน ทำคนเดียวคนข้าง ลำบาก

 

การซื้อที่ดินไว้ทำอพาร์ทเมนหรือที่พักรายวัน ก็เป็นไอเดียที่ดี เมื่อก่อนผู้เขียนมีรายรับมาก บรรดาญาติๆ ทางลาดกระบังก็แนะนำ ให้หาซื้อที่ไว้อย่างน้อย 100 ตารางวา ไว้ทำอพาร์ทเมน แต่ก็ไม่ฟัง ไม่ทำตาม ซึ่งครอบครัวนี้จะมีอพาร์ทเมตคนละหลัง เป็นรายได้ ญาติผู้เขียนบางคนก็เน้นทำที่พักรายวัน ไม่ยุ่งยากเหมือนที่พักรายเดือน มีรายได้ดี เช่นกัน ในกรณีนี้อาจจะทยอยผ่อนที่ดินไปก่อน แล้ว ลงทุนหลังเกษียณ

 

การซื้อข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว

การบริหารเงินเดือนกับการซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ควรเลือกซื้อของที่มีคุณภาพดี อย่างเสื้อผ้า กางเกง รองเท้า คุณภาพดี สามารถใช้งานได้เกิน 10 ปี ช่วยลดรายจ่ายอย่างมาก และหลีกเลี่ยงการใช้ข้าวของเครื่องใช้ที่มีภาระ มีรายจ่ายตามมา ต้องเสียค่าดูแล

 

การเลือกซื้ออุปกรณ์อีเล็คทรอนิค อุปกรณ์ไฟฟ้า มือถือ ต้องเลือกรุ่นที่แบตเตอรี่อึดทนไว้ก่อน เพราะใช้งานได้อีกหลายปี อุปกรณ์ ไฟฟ้าอย่างหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ต้องเน้นยี่ห้อดีๆ ยี่ห้อเกิดใหม่ใช้ได้ไม่นาน ไม่ถึงปีอาจจะต้องเปลี่ยนใบที่สองแล้ว แต่ยี่ห้อดีๆ ใช้งานได้ ร่วมสิบปีก็มี ของใช้ที่มีคุณภาพจะช่วยประหยัดเงิน

 

อุปกรณ์เครื่องครัว จานชามช้อนแบบโลหะ ย่อมจะทนทานกว่า เน้นเป็นชุด พกพาได้ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะอยู่ติดตัวไปอีกนาน ทั้งชีวิตอาจจะซื้อแค่ครั้งเดียว สำหรับคนโสด

 

คู่ครอง คู่ชีวิต การแต่งงาน

การมีคู่เป็นเรื่องปกติของคนเรา เป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยง ปัจจุบันมีแนวโน้มที่คนเราจะเปลี่ยนคู่กันบ่อย เปลี่ยนบ่อยรายจ่ายก็ เยอะตามมาด้วยเช่นกัน อย่างการแต่งงานรายจ่ายเยอะมาก บางคนแต่งงานครั้งเดียว แต่สร้างหนี้ขึ้นมาหลักสิบล้าน ซื้อบ้าน ซื้อรถ และความผิดพลาดในเรื่องคู่ชีวิต อาจจะไม่เหลืออะไรเลย เมื่อจะต้องเลิกกัน

 

การมีคู่ครองที่เหมาะสมกับทั้งในเรื่องฐานะ หน้าที่การเงิน นั้นดีที่สุด คู่ครองที่มีฐานะต่างกัน และอีกฝ่ายจะต้องให้ความช่วยเหลือ จุนเจือ จำเป็นต้องวางแผนให้ดี จะช่วยอะไรแค่ไหน ต้องมีขอบเขต ต้องระวังพ่อแม่พี่น้องของอีกฝ่ายเรียกร้องไม่มีลิมิต ชีวิตลำบากแน่ นอน มีหลายคู่ที่เป็นบทเรียน

 

การเปลี่ยนคู่บ่อย มีกิ๊กมาก รายจ่ายก็ตามมามากเช่นกัน รายจ่ายในเรื่องนี้ไม่มีลิมิต เพราะความต้องการของคนมีไม่จำกัด การมีคู่ ครองคนเดียว ช่วยกันทำมาหากินนั้นดีที่สุด และควรมีคู่ครองในช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่เรื่องนี้ก็แล้วแต่บุญพาวาสนาเสริมส่งบางคน แต่งกันกัน พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายให้เงินก้อนเพื่อให้ตั้งตัว แต่บางคนแต่งงานกัน ต้องกู้ยืมมาใช้ในงานแต่ง จบงานแต่งก็มีหนี้ต้องตามจ่าย อีกบานตะไท

 

การพัฒนาตัวเองในด้านการศึกษาเพิ่มเติม

การเป็นพนักงาน เป็นมนุษย์เงินเดือนจำเป็นต้องพัฒนาตัวเองในการเรียน เพื่อเพิ่มวุติให้สูงขึ้น มีค่าใช้จ่ายในเรื่องการเรียนที่จะ ต้องเตรียมเก็บเงินสำรองไว้ วุฒิการเรียนที่สูงขึ้น ก็มีผลต่อเงินเดือนเช่นกัน

 

ในเรื่องเกี่ยวกับการศึกษานั้น ผู้เขียนแนะนำให้พัฒนาตนเองในเรื่องที่เกี่ยวกับการสร้างอาชีพ เพราะเราสามารถนำความรู้ไปสร้าง อาชีพได้ทันที ต่างจากการเรียนด้านวิชาการ อย่างการเรียนต่อปริญญาโท ปริญญาเอก เช่น การลงคอร์สเรียนสร้างเว็บไซต์ขายของออ นไลน์ การขายสินค้าผ่านเฟสบุ๊ค การประดิษฐ์ เรียนวาดภาพทำสติ๊กเกอร์ Line การทำเว็บไซต์หาเงินคลิกโฆษณา Adsense ฯล จุดมุ่ง หมายสำคัญของการทำงานก็คือเงิน ดังนั้นเดินทางตรงเลยจะเร็วกว่า คอร์สสั้นๆ เหล่านี้ใช้เวลาไม่นาน ก็พร้อมทำงานทันที

 

ศึกษาการบริหารเงินกับผู้มีประสบการณ์

การศึกษาเรื่องการบริหารเงินกับผู้มีประสบการณ์เป็นเรื่องดี เป็นการเรียนรู้ทางลัด โดยแนะนำ 2 แนวทาง 1. เรียนรู้กับผู้ที่ประสบความสำเร็จ เพื่อให้รู้วิธีที่จะทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จในการบริหารเงินได้เร็วขึ้น 2. เรียนรู้กับผู้ที่ประสบความล้มเหลวในการบริหารเงิน เพื่อให้รู้วิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิดพลาดหรือสามารถรับมือกับความผิดพลาดในการ บริหารเงินเดือน

 

บริหารเงินเดือนโดยการนำเงินไปลงทุนหรือทำธุรกิจอื่น

ข้อดีของการมีเงินเดือน ก็คือรายรับที่เข้ามาทุกเดือน ต่างจากคนทำอาชีพอิสระ หากสามารถแบ่งเวลาไปทำอาชีพอื่นได้ ก็จะมีช่อง ทางสร้างรายได้เพิ่ม ซึ่งก็มีงานหลายประเภทที่สามารถทำควบคู่ไปกับการทำงานประจำ ตัวอย่างเช่น

 

การขายของผ่าน Facebook ผ่านเว็บไซต์

1. การนำเงินไปลงทุน มีหลายคนที่เริ่มต้นด้วยเงินเพียงเล็กน้อย เช่น การขายกางเกงโดย สมหมายขายกางเกง จากเด็กนักศึกษา เริ่มต้นด้วยการขายกางเกงผ่านเฟสบุ๊ค ไม่กี่ตัว เริ่มต้นจากเงินหลักร้อย จนกลายเป็นรายได้หลักล้าน ไม่ต้องมีทุนมากนัก


2. บางคนมีความสามารถในการทำอาหาร หรือเครื่องดื่ม ก็คิดสูตรในการทำกาแฟ แล้วขายเป็นแฟรนไชส์ เริ่มต้นจากเงินประมาณ 3,000 บาท กลายเป็นหลักล้านในไม่กี่เดือน

การลงทุนผ่านช่องทางอื่น

การลงทุนผ่านช่องทางอื่นมีหลายวิธีให้เลือก มากน้อยต่างกันไป เช่น
1. การซื้อหุ้นทุกเดือนๆ ละ 5,000 บาทขึ้นไป เน้นหุ้นปันผล ซึ่งเงินทุนประมาณ 1,000,000 บาท จะมีผลตอบแทนประมาณ 3-5% หรือ 30,000 - 50,000 บาทต่อปี สำหรับเงินปันผล ดังนั้นก่อนเกษีษณหากสามารถลงทุนกับหุ้นแนวนี้ได้สัก 2-3 ล้านบาท ก็จะมี เงินปันผลต่อปี เพียงพอกับการดำรงชีพอยู่ได้สบายๆ ประมาณ 6000 บาทต่อปีขึ้นไป

2. การทำเว็บไซต์หาเงินจากการคลิกโฆษณา การทำวิดีโอ Youtube เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถทำเงินได้ อย่างเว็บไซต์ siamebook ที่ผู้อ่านกำลังอ่านบทความนี้ก็มีรายรับเดือนประมาณ 5,000 บาทขึ้นไป โดยมีค่าใช้จ่ายต่อปีประมาณพันกว่าบาท หากมีความสามารถ ในการเขียนบทความ หรือทำวิดีโอ แนวนี้ทำเงินได้สบายๆ แต่หากมีเงินทุนการจ้างทำเว็บ จ้างเขียนบทความจะประสบความสำเร็จเร็วขึ้น

 

เงินเดือนน้อย เงินทุนน้อยไม่ใช่ปัญหา

เมื่อพูดถึงการลงทุนแล้ว คนมีเงินเดือนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า ทุนน้อย ทำอะไรไม่ได้ ปัจจุบันเรื่องทุนไม่ใช่เรื่องสำคัญ ทุนมากก็เจ๊งมาก หากขาดความรู้ในเรื่องการหาเงิน บางคนมีบ้าน มีที่ดิน มีอุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี้ เครื่องครัว พร้อม แต่เปิดร้านอาหารแล้วเจ๊ง เพราะตัว เองทำอาหารไม่เป็น ไม่มีความรู้ ลงทุนไปหลายแสนก็เจ๊งหมดตัวไปหลายแสนเช่นกัน แต่สำหรับคนมีความรู้ มีเงินลงทุนหลักร้อยก็ทำ กำไรหลักล้านได้ เหมือน สมหมายขายกางเกง

 

ผู้เขียนมองว่า การมีเงินเดือนนั้นได้เปรียบคนอื่น หากรู้จักบริหารเงินเดือนให้ดี ก็จะมีโอกาสสร้างความมั่นคงทางการเงินได้เร็ว หรือหาเงินได้มากไม่ต่างจากคนทำงานประจำ เพียงแต่ต้องรู้จักแบ่งเวลาและเลือกงานให้เหมาะสม สามารถทำงานไปกันได้กับงานประจำ อย่างการเป็นวิทยากร อาจารย์ เป็นงานหลัก และทำงานเสริมด้วยการทำวิดีโอ Youtube สอนความรู้ต่างๆ แนวนี้ไปกันได้ เป็นต้น

 

การบริหารเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือนนั้นสำคัญ ต้องตั้งจุดหมายปลายทางให้ดี เพื่อให้มีเงินใช้จ่ายหลังเกษียณ บางคนจะมีรายรับ ทั้งจากเงินประกันสังคม เงินช่วยเหลือจากรัฐบาล เงินจากการลงทุน อย่างหุ้น สลากออมสิน หรือช่องทางอื่น ก็ดำรงชีวิตในบั้นปลายได้ สบายๆ เรื่องนี้ต้องวางแผนและทำตามแผนอย่างเคร่งครัด ก็จะมีชีวิตสุขสบายบั้นปลายแน่นอน