ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดเพื่อบ่น หรือระบายความเหนื่อยล้า จากการกระทำบางอย่าง โดย แทบไม่มีเวลาหยุดพัก เหนือยจน สายตัวแทบขาด เพราะต้องทำสิ่งนั้น อยู่ตลอดเวลา ไม่มีเวลาพัก ไม่มีใครช่วยเหลือ ซึ่งมักจะ เป็นเรื่องงาน หรือภาระกิจที่ได้รับมอบหมายให้ทำ

ตัวอย่าง :

การทำงานส่วนตัว ทำกิจการอาชีพอิสระ หากวางแผนไม่ดี จะสร้างปัญหาในการทำงาน บางคนเปิดร้านกาแฟ จนลูกค้าติด ใจในรสชาติ ช่วงพักเที่ยงจะมีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนไม่ขาดสาย แม้จะเหนื่อยจน สายตัวแทบขาด แต่บางคนก็ต้องยอม เพราะ สร้างรายได้ดี แต่ทั้งนี้ก็ควรวางแผนหาคนมาช่วยผ่อนแรง ไม่เช่นนั้น ก็จะสร้างปัญหาในอนาคต เพราะหากลูกค้ามาแล้วไม่เจอ แม่ค้า หรือเจ้าของร้าน ก็อาจจะเริ่มหายไป ไม่มาอุดหนุน

การทำงานหรือทำอะไรก็ตาม ควรฝึกการวางแผนก่อนลงมือทำงาน เพื่อหาวิธีลดขั้นตอนการทำงาน โดยเฉพาะงานที่จะ ต้องทำคนเดียว ไม่เช่นนั้น อาจจะเหนื่อย สายตัวแทบขาด เพราะไม่มีคนช่วย ซึ่งก็มีหลายวิธีที่สามารถทำได้ อย่างการใช้ เครื่องมือช่วยทุนแรง การคิดค้นประดิษฐ์เครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยลดการทำงาน เป็นต้น

การทุ่มเททำงานที่ตัวเองรักต้องมีการวางแผน ไม่เช่นนั้นจะเหนือยมาก บางคนทำงานคนเดียว ทำแบบเดิมซ้ำๆ แม้จะ เหนื่อย จนสายตัวแทบขาด แต่ก็ต้องทำ งานบางอย่างที่สามารถจ้างคนอื่นได้ ก็จำเป็นจะต้องทำ อย่าไปเสียดายเงิน อย่างการ ขายของผ่านเน็ตบางคนขายดีมาก จนต้องจ้างพนักงานไว้ตอบรับลูกค้า ติดต่อลูกค้า 4-5 คน เลยทีเดียว เพราะหากทำคน เดียวก็คงจะไม่ไหวอย่างแน่นอน