บทความแนะนำวิธีช่วยประหยัดค่าโทรศัพท์มือถือ ซึ่งสามารถทำได้หลายแบบ ตั้งแต่การเลือกประเภทของการใช้งานรายเดือนหรือ เติมเงิน การเลือกโปรโมชัน การสมัครโปรโมชัน และแนะนำข้อความระวังอื่นๆ ที่จะดูดเงินในกระเป๋าของเราไปจากการใช้บริการมือ ถือ

 

การใช้งานมือถือเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายมากน้อย ต่างกันไป ตามแต่โปรโมชัน และอาจจะมีรายจ่ายไม่คาดคิดหากใช้แบบไม่ ศึกษาหรือไม่รู้เท่าทัน ดังนั้นการศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการมือถือจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องรู้

 

รวมวิธีช่วยประหยัดค่าโทรศัพท์มือถือแบบต่างๆ

1. วิธีประหยัดค่าโทรศัพท์สำหรับมือถือแบบรายเดือน
2. วิธีประหยัดค่าโทรศัพท์สำหรับมือถือแบบเติมเงิน
3. วิธีประหยัดค่าโทรศัพท์มือถือด้วยการเลือกโปรโมชันที่เหมาะสม
4. วิธีประหยัดค่าโทรศัพท์มือถือสำหรับคนชอบโทรชอบคุย
5. วิธีประหยัดค่าโทรศัพท์มือถือสำหรับคนชอบเล่นเน็ต
6. ประหยัดค่าโทรศัพท์ด้วยการเลือกโปรเน็ตขั้นต่ำที่คุ้มค่า
7. ประหยัดค่าโทรศัพท์ด้วยการแชร์ Wi-Fi HotSpot
8. ประหยัดค่าโทรศัพท์ด้วยการใช้ Line, Facebook ใช้แชท โทรฟรี
9. ใช้ *137 ควบคุมการใช้จ่ายกับ SMS ที่เสียเงิน

 

วิธีประหยัดค่าโทรศัพท์สำหรับมือถือแบบรายเดือน

การใช้มือถือแบบรายเดือน ปัญหาใหญ่ก็คือ ควบคุมค่าใช้จ่ายยากมาก และมักจะมีค่าบริการแปลกๆ แอบแฝงเข้ามา ซึ่งจะไม่ สามารถปฏิเสธการจ่ายเงินได้เลย เหมือนถูกมัดมือชก อย่างไรก็ต้องจ่าย ดังนั้น การหลีกเลี่ยงการใช้มือถือแบบรายเดือนจะช่วย ประหยัดค่าบริการได้อย่างมาก ตัวอย่างรายจ่ายที่ต้องจ่าย ไม่สามารถปฏิเสธได้สำหรับผู้ใช้มือถือแบบรายเดือน
1. ค่าบริการรายเดือนรวม Vat 7% ต้องจ่ายทุกเดือนจนกว่าจะยกเลิกบริการ โดยจะมีบริการ 2 แบบคือ ค่าบริการในการใช้โทรศัพท์ ผ่านเสียงด้วยการคุย และการใช้เน็ต เป็นรายจ่าย 2 ทาง

2. ค่าโทรศัพท์ การโทรคุย สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ หากโทรฟรีผ่าน Line สมัครโปรเน็ตแบบไม่จำกัดแล้วใช้การโทรผ่าน Line ประหยัดค่าโทรศัพท์ผ่านเสียฃ

3. ค่าเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ด้วยการเลือกแพ็คเกจที่เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งต้องศึกษา
4. ค่าใช้จ่ายจากความผิดพลาดในการชำระค่าบริการรายเดือน เช่น จ่ายเงินที่เคาเตอร์ในต่างจังหวัด แต่ไม่มีการส่งไปสำนักงานใหญ่ ทำให้ต้องจ่ายเงินซ้ำซ้อน อาจจะไม่เกิดกับทุกคน แต่รายจ่ายนี้อาจจะเกิดขึ้นเมื่อปิดเบอร์

5. การจ่ายเงินค่าโทรศัพท์ผ่าน ATM บางค่ายมือถือจะปฏิเสธการรับเงิน แม้จะมีสลิปยืนยันก็ตาม เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรงกับ Dtac
6. ความยุ่งยากในการปิดเบอร์ ทุกครั้งที่ปิดเบอร์โทรศัพท์มักจะมีรายจ่ายเพิ่มเข้ามาเสมอ และบริษัทมือถือบางค่ายอย่าง dtac จะต้อง ปิดเบอร์ในสถานที่ที่กำหนดเท่านั้น เช่น อยู่ปราจีนบุรี เวลาปิดเบอร์ต้องไปที่ ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต จะมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และ รายจ่ายแฝงที่ตามมา

7. อาจจะมีค่าบริการจากการสมัครบริการต่างๆ เช่น SMS ซึ่งระบบทำเอง โดยผู้ใช้ไม่ได้ยินยอมพร้อมใจ
8. ค่าบริการจากความสะเพร่า ขี้ลืมในการใช้งานเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้สมัครโปรเน็ต แต่ต่อเน็ตชั่วคราวแล้วลืมตัด การเชื่อมต่อ ระบบก็คิดเงินไปเรื่อยๆ เป็นต้น

9. คิดว่าเอาอยู่ กับค่าบริการโทรศัพท์ที่จะตามมา เช่น การโทรคุย การเล่นเน็ตทั้งที่ไม่มีโปรโมชัน การใช้งานมือถือทุกรูปแบบที่มีค่าใช้ จ่าย แต่คิดว่าเอาอยู่ ไม่มีปัญหา ซึ่งมักจะสร้างปัญหาการเงินในภายหลังได้
10. หมั่นตรวจสอบบริการ SMS ที่ระบบสมัครให้เองหรือเผลอสมัครไม่รู้ตัว โดยกด *137 แล้วทำตามคำแนะนำ

สรุป วิธีประหยัดการใช้ค่าโทรศัพท์แบบรายเดือนที่ดีที่สุด คือเลิกใช้เสีย และใช้แบบเติมเงิน เพราะควบคุมง่ายที่สุด และยากจะ สร้างรายจ่ายแฝงตามมา จากเหตุไม่คาดคิด

 

วิธีประหยัดค่าโทรศัพท์สำหรับมือถือแบบเติมเงิน

การใช้มือถือแบบเติมเงินจะช่วยประหยัดเงินได้มากกว่าการใช้บริการมือถือแบบรายเดือน ซึ่งก็สามารถประหยัดเงินได้อีกเล็กน้อย ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น
1. การเติมเงิน ผู้ให้บริการมีหลายราย หลายแบบ คิดค่าบริการมากน้อยต่างกันไป ก็ต้องรู้จักเลือก
2. หมั่นตรวจสอบบริการ SMS ที่ระบบสมัครให้เองหรือเผลอสมัครไม่รู้ตัว โดยกด *137 แล้วทำตามคำแนะนำ
3. ศึกษาคุณสมบัติของซิม ซิมบางแบบอยู่ได้นานไม่ต้องเติมเงิน เหมาะสำหรับไว้รับสาย อาจจะเป็นเบอร์พิเศษ ลูกหลาน พ่อแม่ หรือ แฟนก็ตาม เน้นให้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายโทร ให้มีรายจ่ายแค่ซิมเดียว
4. การใช้ซิมค่ายเดียวกันจะมีโปรโมชันที่ช่วยลดค่าโทรศัพท์ได้ ทั้งบ้านอาจจะใช้ค่ายเดียวกัน
5. หมั่นตรวจสอบ SMS แปลกๆ การเปิดอ่านโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เผลอกดคำสั่งผิดๆ ถูก บางครั้งก็จะกลายเป็นการสมัครใช้บริการ โดยไม่รู้ตัว และทำให้เสียเงิน โดยเฉพาะผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้ คนแก่ พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ซึ่งลูกหลานต้องการให้ใช้เพื่อจะได้ไว้ติดต่อ

 

วิธีประหยัดค่าโทรศัพท์มือถือด้วยการเลือกโปรโมชันที่เหมาะสม

โปรโมชันหรือแพ็คเกจสำหรับมือถือมีหลายแบบมาก เยอะมาก ต้องศึกษาและเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับสไตล์การใช้งานของเรา เช่น
1. หากเน้นโทรศัพท์ การใช้มือถือค่ายเดียวกัน จะช่วยประหยัดค่าโทรศัพท์
2. การโทรศัพท์คุยกับทางบ้าน พ่อแม่ พี่น้องที่บ้าน ซึ่งอยู่บ้านตลอดเวลาอยู่แล้ว สามารถเลือกใช้ซิมแบบคงกระพันอยู่ได้นาน เน้นไว้ รับสาย
3. การเล่นเน็ต ต้องศึกษาโปรโมชันซิมเน็ต และเลือกบริการที่เหมาะสม

 

วิธีประหยัดค่าโทรศัพท์มือถือสำหรับคนชอบโทรชอบคุย

การใช้โทรศัพท์ในทุกวันนี้ การโทร การคุย อาจจะไม่นิยมแล้ว เพราะเสียเงิน หลายคนก็นิยมใช้การโทรฟรีผ่านแอป Line มากกว่า เพราะส่วนใหญ่เราก็ใช้มือถือสมาร์ทโฟนกันอยู่แล้ว แนวทางประหยัดค่าโทรก็ต้องเล่นผ่านเน็ต
1. เปลี่ยนไปใช้มือถือสมาร์ทโฟน ซึ่งก็จะมีมือถือราคาถูกอย่าง Android เน้นแบตเตอรี่อึดทน ใช้งานได้นานๆ
2. สมัครโปรโมชันซิมเน็ตที่เหมาะสมเช่น 199 บาท เล่นเน็ตไม่จำกัด
3. ติดตั้งแอปที่สามารถโทรฟรีได้อย่าง Line และใช้การโทรศัพท์ผ่าน Line แทนการโทรศัพท์ปกติผ่านเสียง ซึ่งมือถือที่ติดตั้งแอป Line นั้นไม่จำเป็นต้องมีซิม แต่หากที่บ้านมีไฮสปีดอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว ก็ใช้การเชื่อมต่อมือถือกับเน็ตบ้านแบบตลอดเวลา วิธีนี้ ก็จะ ประหยัดค่าโทรศัพท์ได้อย่างมาก ในบ้านที่อาจจะมีคนอยู่บ้าน อยู่ร้านตลอดเวลาอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้มือถือที่มีซิม แต่ต้องเป็นมือ ถือหรือแท็บเล็ตระบบ Android

 

วิธีประหยัดค่าโทรศัพท์มือถือสำหรับคนชอบเล่นเน็ต

การใช้มือถือทุกวันนี้ รายจ่ายหลักๆ จะเป็นค่าแพ็คเกจที่เชื่อมต่อเน็ตหรือโปรเน็ตแบบต่างๆ การเลือกแพ็คเกจที่เหมาะสมก็จะช่วย ประหยัดเงินได้ เช่น
1. เลือกผู้ให้บริการมือถือที่รองรับในพื้นที่ที่อยู่อาศัย รองรับ True ก็ต้องเลือกของ True เป็นหลัก
2. ศึกษาจุดให้บริการ Wi-Fi ของแต่ละผู้ให้บริการมือถือหรือให้บริการไฮสปีดอินเตอร์เน็ต เช่น หน้าบ้านมีจุดให้บริการของ True ก็ สมัครแพ็คเกจเน็ตของ True ที่มีบริการพิเศษให้เล่นเน็ตผ่านจุดบริการ Wi-Fi ได้ การค้นหาจุดให้บริการ ให้เปิด Wi-Fi ในมือถือแล้วดูว่า รอบๆ ตัวมีผู้ให้บริการรายใดบ้าง เพื่อจะได้เลือกสมัครใช้บริการ
3. ปัจจุบันแต่ละบ้านจะใช้อินเตอร์เน็ตไฮสปีดหรือมีบริการเน็ตแบบ W-Fi ในพื้นที่ท้องถิ่น เก็บค่าบริการต่อเดือนไม่แพง เช่น เดือนละ 100 บาท การสมัครใช้บริการผู้ให้บริการในท้องพื้นที่เหล่านี้ แล้วเน้นใช้งานเน็ตด้วยมือถือผ่าน Wi-Fi ติดตั้งแอป Line เพื่อแชทหรือใช้ โทรฟรี ผ่าน Line ประหยัดค่าใช้จ่ายในการโทร
4. เลือกแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตที่ให้ความเร็วในการเชื่อมต่อขั้นต่อที่สูงไว้ก่อน เช่น โปรเน็ตทรูมูฟ 599 บาท รายเดือน 3G ฟรี 2GB+ เล่นเน็ตไม่อั้น จะมีความเร็วในการเชื่อมต่อประมาณ 384 kbps ซึ่งจะสามารถแชร์ไวไฟฮอตสปอตให้มือถือเครื่องอื่นใช้งานเน็ตได้ ช่วย ให้พ่อแม่สามารถควบคุมการใช้เน็ตของบุตรหลานได้ เพราะจะแชร์ผ่านมือถือของตนเอง ไม่จำเป็นต้องติดตั้งอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง หรือเน็ตบ้าน
5. ศึกษาโปรโมชันแต่ละแบบให้ดี เช่น โปรเน็ตทรูมูฟ 399 บาท/เดือน 3G ฟรี 1GB+เล่นเน็ตไม่จำกัด กับ โปรเน็ต TRUE 199 บาท รายเดือน 1GB เล่นเน็ตไม่อั้น + ฟรี WIFI แบบ 399 บาท จะใช้เน็ตความเร็วสูงคิดตามปริมาณข้อมูลได้ที่ 3GB ส่วน 199 บาท จะใช้ เน็ตความเร็วสูงคิดตามปริมาณข้อมูลได้ที่ 1GB หลังจากหมดโปรโมชันแล้ว ก็จะใช้เน็ตได้ที่ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 128 Kbps ให้ตรวจ ขสอบการใช้งานอินเตอร์เน็ตของตัวเอง ใช้งานแบบใด ดู Youtube เล่น Line อ่านข่าว หากความเร็ว 128 kbps ใช้งานได้ไม่สะดุด ก็ ไม่จำเป็นต้องไปใช้โปรเน็ต 399 บาท เป็นต้น แม้จะได้เน็ตความเร็วสูงคิดตามปริมาณข้อมูลเพิ่มอีก 2 Gb แต่ต้องจ่ายเพิ่มอีก 100 บาท อาจจะไม่ใช่เรื่องจำเป็น เสียเงินเปล่า

 

ประหยัดค่าโทรศัพท์ด้วยการเลือกโปรเน็ตขั้นต่ำที่คุ้มค่า

โปรเน็ตสำหรับมือถือมีหลายแบบ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ต้องสำรวจตัวเองก่อน ว่าใช้งานแบบไหน การดูวิดีโอ Youtube หรือ เล่น Line หรือเล่น Facebook ใช้ความเร็วเชื่อมต่อมากน้อยแค่ไหนที่รองรับได้สบายๆ ไม่สะดุด เช่น โปรเน็ต 199 บาท จะใช้เน็ตความเร็วสูงคิด ตามปริมาณข้อมูลได้ที่ 1GB หลังจากหมดโปรโมชันแล้ว ก็จะใช้เน็ตได้ที่ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 128 Kbps หากเชื่อมต่อที่ความเร็ว 128 kbps แล้วใช้งานได้ดี ไม่สะดุด ก็ไม่จำเป็นจะต้องไปใช้งานโปรเน็ต 399 บาท หรือแพงกว่านั้น ไม่มีความจำเป็น เสียเงินเปล่า

 

ประหยัดค่าโทรศัพท์ด้วยการแชร์ Wi-Fi HotSpot

สำหรับมือถือสมาร์ทโฟนทั้ง iPhone/iPad หรือ Android จะสามารถแชร์ Wi-Fi ให้เครื่องอื่นสามารถต่อเน็ตได้ สำหรับบ้านใดที่ไม่ ใช้เน็ตบ้าน จึงสามารถแชร์เน็ตให้บุตรหลานใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ แต่การสมัครแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตต้องเลือกความเร็วขั้นต่ำไม่น้อย กว่า 384 kbps

 

ประหยัดค่าโทรศัพท์ด้วยการใช้ Line, Facebook ใช้แชท โทรฟรี

ปัจจุบันผู้คนนิยมใช้มือถือสมาร์ทโฟนกันมาก อย่างมือถือ Android จะสามารถหาซื้อได้ในราคาหลักพันบาทเท่านั้นเอง แต่สามารถ ติดตั้ง Line หรือ Facebook เพื่อใช้ติดต่อกันผ่านทางการแชทหรือโทรฟรีได้ ส่งรูปภาพ วิดีโอ เสียงให้กันได้ ช่วยประหยัดค่าโทรศัพท์

 

ใช้ *137 ควบคุมการใช้จ่ายกับ SMS ที่เสียเงิน

*137 เป็นเบอร์ฟรีไว้สำหรับตรวจสอบว่ามือถือของเรานั้น มีการสมัคร SMS ที่เสียเงินหรือไม่ บางที เราก็สมัครโดยไม่ตั้งใจหรือ ระบบทำการสมัครให้เราเองอัตโนมัต ทำให้เสียเงิน โดยใช่เหตุ จึงต้องตรวจสอบอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะคนที่ชอบอ่าน SMS จากที่สังเกตุ จะเป็นคนที่ยังใช้มือถือแบบธรรมดาทั่วไป ซึ่งบล็อก SMS ไม่ได้ เวลามีคนส่ง SMS เข้าเครื่อง ความอยากรู้ อยากเห็น มักจะทำให้เสีย เงิน เพราะการเปิดอ่าน บาง SMS จะทำการสมัครบริการให้ทันที และหักเงินทันทีเช่นกัน

 

อย่าเปลี่ยนโทรศัพท์บ่อยเกินไป

ก่อนจะซื้อโทรศัพท์มือถือสักเครื่อง ควรศึกษาคุณสมบัติที่สำคัญเช่น ความทนทาน แบตเตอรี่อึดทน ใช้งานได้นาน ปัญหาจุกจิกน้อย เพื่อจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนโทรศัพท์บ่อยๆ อย่างการซื้อโทรศัพท์สมาร์ทโฟน 1 เครื่อง ราคา 20,000 บาท เมื่อเวลาผ่านไปสักครึ่งปี หรือ หนึ่งปี ราคาอาจจะตกลงเหลือประมาณ 10,000 เท่านั้นเอง ผู้เขียนเคยซื้อ iPad ของใหม่ 23,000 กว่าบาท ไปใช้ไม่ถึงปี ขายต่อได้ 10,000 บาท ถ้วน เงินหายไปเลย 12,000 กว่าบาท

 

ปัจจุบันใช้ Asus อยู่รุ่นหนึ่ง ใช้ดีไม่มีปัญหา เป็นแทบเล็ตโทรได้ อีก 2 เดือน ก็จะครบ 3 ปี สำหรับเครื่องนี้ ก็ยังใช้งานได้ดี ซื้อมา 4,190 บาท คุ้มค่ามาก มีรายจ่ายหลักๆ ก็ค่าค่าโทรศัพท์และโปรเน็ตที่ต้องใช้ในแต่ละเดือนเท่านั้นเอง

 

มือถือเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ในการสื่อสารที่ขาดไม่ได้เลย ซึ่งอุปกรณ์นี้ จะมีรายจ่ายต่อเนื่องตลอดอายุขัยของเครื่อง ก็คือค่าบริการ โทรศัพท์นั่นเอง ซึ่งจะแยกเป็น 2 แบบคือ ค่าบริการในการโทรศัพท์ด้วยเสียงตามปกติทั่วไป และค่าบริการในการใช้งานอินเตอร์เน็ต ทั้ง 2 แบบก็มีรายจ่ายในแต่ละเดือน

แต่ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีรายจ่ายยิบย่อยที่แฝงมาด้วยเช่นกัน ซึ่งหากไม่ศึกษาให้ดีก็จะเสียเงินเปล่า เช่น การที่ระบบสมัครรับ SMS เสียเงิน สมัครเองอัตโนมัติ หรือความขี้ลืม ไร้วินัยในการใช้งานโดยเฉพาะผู้ใช้งานแบบรายเดือน โทรบ้าง ต่อ เน็ตบ้าง สมัครนู่นนั่นนี่บ้าง ก็ยากจะควบคุมรายจ่าย การรู้อย่างเท่าทันจะช่วยประหยัดเงินได้ แต่ปีก็ไม่น้อยเลยทีเดียว