การพึ่งพาระบบอื่น Facebook, Tiktok, Youtube ฯลฯ มีความเสี่ยง ไม่รู้ว่าเราอาจจะโดนแบน โดนลบบัญชีเพราะไปทำผิดกฏเมื่อไร ดังนั้นการผลิตสินค้าเป็นของตนเอง เป็นเรื่องสำคัญมาก สำหรับคนทำอาชีพอิสระ งานส่วนตัว ที่จำเป็นต้องมีสินค้าหรือบริการของตัวเองอย่างน้อย 1 ชิ้น ขึ้นไป หรือมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อให้มีรายได้เข้ามาเรื่อยๆ

การมีสินค้าทำหน้าที่ทำงานแทนเรา จะไม่ต้องเสียค่าเช่า ไม่ต้องดูแล จ่ายโบนัส ไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาให้ระบบ ไม่ต้องกลัวว่า วันใดจะทำผิดกฏหรือระบบนั้นๆ มีการปรับเปลี่ยนทำให้การมองเห็นช่อง เพจ หรือ เว็บไซต์ของเราลดลง รายได้ก็จะหายไป

 

ซึ่งบางระบบน่ากลัวมาก ทั้ง Facebook, Tiktok, Youtube ฯลฯ บางทีอยู่ดีๆ ช่องก็ปลิว โดนปิด สาเหตุอาจจะเพราะเราเอง หรือระบบ หรือ การกลั่นแกล้ง ก็ต้องพิสูจน์กันไป แต่ที่แน่ๆ รายได้หายไปทันที หรืออาจจะหลายไปตลอดกาล ทั้งชาติเลย

 

สินค้าและบริการมีหลายแบบ สินค้าสิ้นเปลืองก็จะขายได้บ่อย แต่อาจจะต้องเสียเวลาส่ง แต่สินค้าแนวทรัพย์สินทางปัญญาจะง่ายในการจัดส่ง ตัวอย่างเช่น
1. โปรแกรมสำนักงาน Microsoft Office, Microsoft Windows ของบริษัทไมโครซอฟท์ที่ทำยอดขายดีมาก ทำให้เจ้าของรวยติดอันดับโลกมาหลายปี
2. Line แม้จะเป็นแอปแจกฟรี แต่ก็มีช่องทางสร้างรายได้จากการขายสติ๊กเกอร์หรือเก็บค่าบริการจากการใช้ไลน์เชิงธุรกิจ
3. Google สร้าง Android ขึ้นมาและให้บริษัทมือถือนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ของตนเองได้ฟรี จากนั้น Google ก็มาสร้างรายได้ภายหลังผ่านทางการขายแอป การโฆษณาผ่านแอป สร้างรายได้มหาศาล
4. สินค้าทั่วไป ที่เราอาจจะพบเห็นกัน เช่น ชาเขียว เครื่องดื่ม อาหาร ขนม ของใช้ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นสินค้าที่ช่วยทำงานแทนเราได้ และหากลูกค้าชื่นชอบในสินค้าของเราก็จะช่วยสกัดคู่แข่งแทนเราได้

 

สินค้ามีหลายแบบ แต่ละแบบสามารถสร้างรายได้มากน้อยต่างกัน แต่หากมีสินค้าที่สามารถทำงานแทนเราได้ เราก็อาจจะไม่ต้องทำงานอีกเลย หรือทำแต่น้อยมาก เช่น พัฒนา ปรับปรุง แก้ไข หรือดูแลการขายเท่านั้น ที่สำคัญยังสามารถขายกิจการให้คนอื่นได้

 

แนวทางผลิตสินค้าแบบต่างๆ

การจะสร้างสินค้าแบบใดบ้าง ก็มีข้อคิดเห็นที่อยากจะแชร์ประสบการณ์ดังนี้

 

การผลิตสินค้าสำหรับคนทุนน้อย รายได้น้อย

แต่ในอนาคต ก็จะมีคนทุนน้อยเริ่มเข้าใจและเริ่มทำธุรกิจอย่างแน่นอน เพราะมีตัวอย่างให้เห็นมากมายว่ามีทุนน้อยก็รวยได้ อย่างการทำวิดีโออัพโหลดลง Youtube การขายสินค้าผ่านเน็ต ขายผ่านเฟสบุ๊ค มีมือถือเครื่องเดียวก็ทำได้ ดังนั้นจะทำอะไรก็ต้องรีบทำนะ ความได้เปรียบจะมีอยู่แค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น

 

แต่ในอนาคต ก็จะมีคนทุนน้อยเริ่มเข้าใจและเริ่มทำธุรกิจอย่างแน่นอน เพราะมีตัวอย่างให้เห็นมากมายว่ามีทุนน้อยก็รวยได้ อย่างการทำวิดีโออัพโหลดลง Youtube การขายสินค้าผ่านเน็ต ขายผ่านเฟสบุ๊ค มีมือถือเครื่องเดียวก็ทำได้ ดังนั้นจะทำอะไรก็ต้องรีบทำนะ ความได้เปรียบจะมีอยู่แค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น

 

การมีทุนน้อย ก็สามารถผลิตสินค้าได้หลายแบบ ตัวอย่างเช่น
1. สินค้าเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา มีหลายแบบเช่น eBook วิดีโอ หนังสือเสียง คอร์สต่างๆ ฯลฯ แนวนี้ใช้ทุนน้อยมาก อย่างการเขียนบทความ มีแค่กระดาษ ปากกา และพิมพ์ใส่มือถือ ด้วยแอปแปลงเสียงพูดเป็นข้อความ ไม่ต้องพิมพ์ให้เสียเวลา เขียนบทความตุนไว้เยอะๆ แล้วปล่อยขายทีเดียว หรือจะนำไปทำเว็บไซต์ ทำวิดีโอ หรือแปรรูปเป็นสินค้าชนิดอื่นก็ทำได้หลายอย่าง พยายามสร้างสินค้าที่ขายได้หลายรอบ อย่างการเขียนบทความขายไม่ควรทำ ขายได้ครั้งเดียว รับเงินครั้งเดียว แต่การนำบทความไปทำแอป ไปทำเว็บไซต์ จะสร้างรายได้หลายรอบและทุกวัน

แต่ในปัจจุบัน จะเข้าปี 2567 หรือ 2024 เว็บไซต์หรือบล็อกอาจจะไปไม่รอดแล้ว ต้องเลือกเนื้อหาให้ดี เพราะผู้คนใช้มือถือกันมาก การดูวิดีโอจะง่ายกว่าการอ่านบทความในเว็บไซต์ เพราะเราสามารถฟังแทนได้ บางครั้งก็ฟังไปด้วย ทำงานอื่นไปด้วย แต่การอ่านจะต้องตั้งหน้าตั้งตาอ่านอย่างเดียว ดังนั้น การเขียนบทความ จึงเหมาะสำหรับเรื่องราวด้านวิชาการ

 


2. สินค้าประเภททรัพย์สินทางปัญญายังมีอีกหลายประเภท ที่มีช่องทางทำเงินดีกว่านี้ เช่น ทำ Ebook ขาย ทำแอปขายหรือแจกฟรี เพียงแต่แนวนี้ค่อนข้างยาก ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้อย่างมาก ปัจจุบันไม่แนะนำ แนวนี้ ทำเงินยาก เพราะข้อมูลแทบทุกเรื่องสามารถต้นหาได้ง่ายๆ จากอินเตอร์เน็ต


3. การขายสินค้า บางคนเริ่มจากการหาสินค้ามาขายในเฟสบุ๊ค แล้วก็ขยับขยายเป็นการผลิตสินค้านั้นๆ เป็นของตนเอง ลงทุนเริ่มต้นหลักร้อยบาท กรณีศึกษาเช่น สมหมายขายกางเกง


4. การทำสินค้าแม่แบบ แล้วจัดทำเป็นแฟรนไชส์ ลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแฟรนไชส์ต่างๆ เพื่อหาไอเดีย แนวนี้บางอย่างใช้ทุนไม่มาก เมื่อได้สูตรที่ลงตัวแล้ว ก็จัดทำเป็นแพ็คเกจและหาตัวแทนขาย


5. การทำสินค้าแม่แบบ อาจจะเป็นงานประดิษฐ์ งานฝีมือ แล้วถ่ายรูป จากนั้นก็นำไปลงประกาศขาย รอลูกค้าสั่ง เมื่อมีคำสั่งซื้อก็เริ่มผลิต เพื่อขาย ไม่เสี่ยงมาก ลงทุนก็ไม่มาก

สำคัญมาก 

 การผลิตสินค้าเพื่อขายเอง ต้องเตรียมรับมือกับการเลียนแบบ เพราะหากสินค้านั้นๆ ไปได้ดี การเลียนแบบเกิดขึ้นแน่นอน และจะสร้างปัญหาให้เราทันที หากคนที่เลียนแบบนั้น มีทุนมากกว่าเรา ดังนั้นต้องวางแผนเรื่องนี้ให้ดี เพื่อเตรียมรับมือ เมื่อก่อนผู้เขียนทำหนังสือขาย เรื่องไหนขายดี ขายได้ไม่กี่เดือน ก็จะมีสำนักพิมพ์อื่นเลียนแบบ ก็จบ ขายไม่ออก เขามีทุนมากกว่า มีช่องทางขายมากกว่า ก็ไปได้

 

การผลิตสินค้าสำหรับคนทุนมาก

หากมีเงินทุนมาก การผลิตสินค้าจำนวนมาก ย่อมจะได้เปรียบ หรืออาจจะสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศอย่าง Alibaba มีสินค้าให้เลือกเยอะมาก แต่ก็ต้องระวังคู่แข่ง เพราะไม่ใช่เราคนเดียวที่สั่งเข้ามาขาย

วิธีป้องกันคู่แข่งก็มีหลายวิธี เช่น ใช้ตัวเองเป็นพรีเซนเตอร์เหมือนคุณ ตัน ชาเขียว ให้คนติดที่เจ้าของ และติดแบรนด์หรือติดใจในสินค้า มีกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะสู้คู่แข่งที่มีทุนมากกว่าไม่ได้

 

นอกจากนี้อาจจะหายอดสั่งซื้อก่อนจะสั่งผลิตสินค้า อย่างการรับจองสินค้า หรือสร้างกระแสความสนใจเกี่ยวกับสินค้าใดๆ ให้มีการสั่งของเข้ามาก่อน แล้วจึงผลิต เพียงแต่ต้องติดต่อผู้ผลิตไว้หลายราย หากมียอดสั่งซื้อจำนวนมาก

 

การฝากขายสินค้าใน lazada ก็เป็นที่นิยม ซึ่งมีระบบอัตโนมัติรองรับ อย่างบริษัทรับบริการจัดการสต็อกสินค้า ทั้งรับออร์เดอร์ จัดส่งสินค้าให้ลูกค้า ก็ไม่ต้องไปวุ่นวายกับการสั่งซื้อสินค้ามากนัก อาจจะเข้าไปตอบคำถามบ้าง สินค้าหมด ก็สั่งผลิตเพิ่ม

 

การผลิตสินค้าจำนวนมาก บางคนไม่มีทุนมาก แต่อาศัยการผลิตสินค้าไปเรื่อยๆ ทำตุนไว้ แล้วรอขายส่งทีเดียวปลายปี ได้เงินก้อน ก็เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจ

 

นอกจากนี้การผลิตสินค้าจำนวนมากจำเป็นต้องหาตัวแทนขายเพื่อช่วยกระจายสินค้า และขายสินค้าได้เร็วขึ้น ให้ศึกษาแนวทางการทำแฟรนไชส์ จะอาศัยหลักการคล้ายกัน วิธีนี้ไมเพียงช่วยให้ขายสินค้าได้มาก แต่ช่วยป้องกันคู่แข่งได้ เหราะหากมีสินค้าจำนวนมาก เป็นเจ้าตลาดแล้ว คู่แข่งก็จะเกิดน้อยลง

 

วิธีขายสินสินค้า

ไม่ว่าจะผลิตสินค้าแบบใด ก็ตาม ก็ยังมีเรื่องยุ่งๆ ที่ตามมาอีก นั่นก็คือ การขายสินค้า ซึ่งมีหลายช่องทาง เช่น ขายผ่านเฟสบุ๊ค ขายผ่านเว็บไซต์ฝากขาย ขายผ่านวิดีโอ Youtube ฯลฯ ปัญหาการรับออร์เตอร์ลูกค้า ตอบกลับ ส่งของ ไม่ยุ่งยาก เพราะสามารถจ้างคนที่รับทำงานด้านนี้โดยเฉพาะมาจัดการให้เราได้ ผู้ผลิตสินค้าบางรายจ้างพนักงานที่ไม่เคยเจอตัวจริงกันเลย 4-5 คน เพื่อช่วยดูแลลูกค้า ก็จะมีเวลาไปเรียน ไปทำงานอื่น ไม่ต้องเสียเวลาในเรื่องนี้มากนัก

 

การต่อยอดผลิตสินค้าจากอาชีพอิสระที่เราทำอยู่

อาชีพอิสระที่ได้เลือกทำ ก็พยายามหาทางต่อยอด อย่างทำร้านกาแฟ ก็ต้องมีสูตรกาแฟของตนเอง เพื่อทำเป็นแฟรนไชส์ ขายเสื้อผ้าก็ต้องมีแบรนด์หรือสไตล์ของตัวเอง อาชีพช่างก็ต้องมีงานประดิษฐ์ที่เป็นของตนเอง อย่างช่างเชื่อมบางคนก็จะมีสินค้าอย่างพ่วงข้างสำหรับมอเตอร์ไซค์ทำสำเร็จเอาไว้ขาย ตั้งโชว์หน้าร้าน เป็นต้น

 

ประเภทของสินค้า

การผลิตสินค้าของเราเอง อาจจะใช้แนวทาง 2 อย่างต่อไปนี้
+1. สินค้าราคาถูก หรือสินค้าที่ขายได้ทุกวัน เป็นอาหารจะยิ่งดี เพราะคนเราก็ต้องกินต้องใช้ เป็นสินค้าที่ขายแล้วรับเงินวันต่อวันหรือในระยะเวลาสั้นๆ
2. สินค้ามีราคาสูง หรือขายส่งจำนวนมาก รับเงินเป็นก้อน

 

การผลิตสินค้าเป็นของตัวเอง หากนึกไม่ออกว่าจะทำสินค้าแบบไหนอย่างไร ก็ให้ค้นหาข้อมูลคู่แข่ง ว่ามีการทำสินค้าแบบใดบ้าง แต่บางคนก็ผลิตสินค้าที่ต่างออกไป อย่าง มาดามเจฟ แกทำเหมืองเหมืองทองที่กานา แต่การทำยูทูป ก็มีรายได้จากโฆษณา และมีช่องทางต่อยอดในอนาคต ซึ่งมาดามไม่ได้เน้นสร้างรายได้จากทางนี้ เน้นให้ความรู้มากกว่า แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้เราได้ บางคนเปิดร้านอาหาร ก็ถ่ายทำวิดีโอทำอาหาร มานำเสนอ สร้างรายได้จากโฆษณาได้เช่นกัน

 

งานหรืออาชีพอิสระที่ต้องพึ่งพาระบบของคนอื่นนั้นมีความเสี่ยง เช่น
1. ทำเว็บไซต์หาเงินกับการคลิกโฆษณา Google Adsense อย่าง Siamebook.com ที่ผู้อ่านกำลังอ่านบทความอยู่ขณะนี้ หากอันดับเว็บไซต์ตกลง หรือ คนไม่นิยมอ่านกันแล้ว รายได้ก็จะหายไปทันที
2. คนทำช่องวิธีโอ ไม่ว่าจะลง Facebook, Tiktok, Youtube จำเป็นจะต้องทำอย่างต่อเนื่อง หยุดเมื่อไร อันดับจะเริ่มหาย รายได้จะเริ่มลดลงๆๆ และหายไปในที่สุด

ดังนั้นอย่าประมาทต้องเตรียมรับมือ ไม่มีงานใดจะมีความมั่นคง เว้นเสียแต่งานที่เกี่ยวกับ การกิน อยู่อาศัย การตาย ความบันเทิง