สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญอยู่แล้วสำหรับผู้ทำอาชีพส่วนตัว ถ้าสุขภาพมีปัญหา ทำงานไม่ได้ รายได้จะหายไป โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น จะยิ่งลำบาก เพราะบางครั้งก็จะมีปัญหาอื่นแทรกเข้ามา เช่น งานการอาจจะมีปัญหา งานที่ทำอยู่ไม่ได้รับความนิยมแล้ว ไปต่อไปไม่ได้แล้ว จำเป็นต้องปิดกิจการ ซึ่งในเรื่องนี้ ยากจะรู้ว่า เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามา ก็มักจะส่งผลทำให้บางอาชีพต้องหายไป ต้องหยุดกิจการ เมื่ออายุมากขึ้น หากต้องเจอปัญหาแบบนี้ ซ้ำยังมีปัญหาสุขภาพ ก็คงจะทำให้ชีวิตมีแต่ความทุกข์อย่างมาก

 

ในโลกของผู้สูงวัยก็มีหลายแบบ บางคนไม่มีรายได้ บางคนทั้งป่วย ทั้งไม่มีรายได้ บางคนยังทำงานอยู่ ยังมีรายได้เข้ามา บางคนยังต้องทำงาน เพราะต้องพึ่งตนเอง ฯลฯ ดังนั้นการดูแลสุขภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องเตรียมตัวรับมือ หรือหาทางป้องกันในขณะที่อายุยังไม่ถึงวัยชรา เพื่อป้องกันไม่ให้ชีวิตต้องตกระกำลำบากในอนาคต

 

ตัวอย่างการเตรียมตัวรับมือ

1. ในช่วงที่ยังไม่แก่ชรา อย่าทำอะไรที่เสี่ยงเกินไป หักโหมเกินไป จนอาจทำให้ร่างกายบาดเจ็บ ซึ่งอาจจะส่งผลอย่างมากในอนาคต เพราะความเจ็บป่วยในวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ อาจจะเริ่มปรากฏในวัยชรา หรือหลังอายุหลัง 60 ทำให้ร่างกายมีปัญหา บางคนเดินตัวงอเป็นกุุ้ง เพราะยามหนุ่มสาวทำงานหนักมาก ชอบยกของหนัก แก่ตัวก็จะลำบาก ผู้เขียนเองก็เริ่มจะมีปัญหาเรื่องสายตา ตาพร่ามัว มองอะไรไม่ชัด หากอายุมากกว่านี้คงจะแย่แน่

2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ต้องไม่หักโหมเกินไป โดยออกกำลังกายทั้งร่างกายและสมอง
- การออกกำลังกายทางร่างกาย เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ อาจจะเป็นการเดิน วิ่ง ให้เน้นท่าออกกำลังกายที่ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง เช่น ต้องมีการกระแทก รับน้ำหนักอย่างการวิ่ง กระโดด ขาข้างเดียว อยู่ในบ้านก็ทำได้ ซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ช่วยปกป้องยามหกล้มได้ดีในระดับหนึ่ง


- การออกกำลังกายสมอง หมั่นคิด วิเคราะห์ คำนวณ คิดเพื่อแก้ปัญหา ฝึกความจำ เพื่อให้สมองได้ออกกำลังกาย ไม่เช่นนั้นสมองแย่แน่นอน อาจจะเริ่ม หลงๆ ลืมๆ จำอะไรไม่ค่อยได้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องรอให้แก่ ทุกวันนี้ เราจำเบอร์โทรศัพท์ได้ไม่กี่เบอร์ และมักจะจำเบอร์ใหม่ๆ ได้ยากมาก ทั้งๆ ที่ มีไม่กี่ตัว ไม่เชื่อก็ลองทดสอบตัวเองได้เลย ลองบวก ลบ คูณ หาร แรกๆ อาจจะช้ามาก แต่สักพักจะเริ่มคิดได้เร็วขึ้น แสดงว่า สมองเริ่มดีขึ้นมาแล้ว

3. ความเจ็บป่วยของคนเรามักจะมาจากเรื่องอาหารการกิน และพฤติกรรมการใช้ชีวิต ดังนั้นการควบคุมเรื่องอาหารการกิน จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อป้องกันความเจ็บป่วยในอนาคต จากการสะสมของสารพิษในร่างกายที่มากับอาหาร หรือได้รับอาหารบางอย่างมากเกินไป จนทำให้เจ็บป่วย โดยเฉพาะมักจะไปส่งผลเมื่อมีอายุมากขึ้น หรือเจ็บป่วยตอนแก่ สิ่งที่น่ากลัวก็คือ ความเจ็บป่วยนั้น มักจะมาพร้อมกับปัญหาอื่นๆ ด้วย เช่น ทั้งเจ็บป่วย งานมีปัญหา รายได้มีปัญหา เคราะห์ซ้ำกรรมซัด หนักเข้าไปอีก

4. ดูแลสุขภาพจิต ระวังความคิดในด้านลบ คนสูงวัยบางคนเป็นกันมาก หัวร้อน อารมณ์ร้อน ขี้หงุดหงิด โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุเข้าสู่วัยทอง 50 ปีขึ้นไป จึงต้องตามให้ทันความคิดและพฤติกรรมของตนเอง ชอบคิดในแง่ลบ คิดไม่ดี หรือคิดบวก คิดดี พูดดี ทำดี หากคิดไม่ดี คิดลบ คิดไม่สร้างสรรค์ต้องรีบหยุดตัวเอง เพราะจะกลายเป็นคนแก่ที่ขี้หงุดหงิดในอนาคต โมโหง่าย ก้าวร้าว คนแบบนี้จะไม่มีความสุข

 

สรุป

ร่างกายของคนเรานั้นหากดูแลดี ก็จะใช้งานได้อีกนาน อายุยืน ไม่เจ็บป่วยง่ายๆ หรืออย่างน้อย หากโชคดี ก็จากโลกนี้ไปอย่างสงบ ไม่เจ็บป่วยทรมาน ช่วยเหลือตัวเองได้ก่อนสิ้นลม ไม่เดือดร้อนคนรอบข้าง ก็ถือว่าโชคดีมาก อีกทั้งการเจ็บป่วยหากเกิดขึ้นเมื่อใด ก็อาจจะมีรายจ่ายจำนวนมากเกิดขึ้นตามมา หากเป็นช่วงวัยชรา ก็คงจะไม่ดีแน่ เพราะอาจจะเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่เอาไว้เลี้ยงชีพ

 

ในวันที่เราสูงวัยมากขึ้น เงินทองที่หามาได้อาจจะเป็นเกราะช่วยป้องกันไม่ให้ชีวิตลำบาก ไม่มีปัญหาเรื่องปัจจัยที่จำเป็น เช่น บ้าน ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค อาหาร เครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็น แต่ความแข็งแรงของร่างกายก็มีความสำคัญ เพราะไม่มีสำรอง และเงินก็ไม่สามารถซื้อได้ วิธีเดียวที่ทำได้ ก็คือ การดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพ ซึ่งไม่ต้องใช้เงินมากนัก ทั้ง 2 สิ่งนี้ หากเดินคู่กันไปด้วยดี ชีวิตยามแก่ชรา ก็ไม่ลำบากอย่างแน่นอน