แนะนำเทคนิคการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายในการสอบใบขับขี่รถยนต์หรือจักรยานยนต์ หรือต่ออายุบัตร ซึ่งหลายคนไม่รู้ เทคนิคก็จะสอบไม่ผ่านสักที ทำให้เสียเวลา เพราะต้องรอเจ้าหน้าที่เรียกรอบใหม่ หากครั้งเดียวผ่าน ก็จะไปขั้นตอนอื่นทันที

 

การทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายสำหรับผู้สอบใบขับขี่

การทดสอบจะมีหลายแบบด้วยกัน แต่ละแห่งจะทดสอบมากน้อยต่างกัน บางแห่งทดสอบทุกเรื่องบางแห่งจะทดสอบบางอย่างเท่านั้น บทความนี้จะแนะนำเทคนิคที่ควรรู้ เพื่อให้การสอบเป็นไปด้วยดี สอบผ่านเร็วไม่เสียเวลา

การทดสอบปฏิกิริยาการใช้เบรกเท้า

1. ให้ดูผู้สอบก่อนหน้า เพื่อดูว่าเริ่มสอบแบบใดก่อนหลัง บางคนไม่สนใจเลย พอเจ้าหน้าที่ให้ทำอะไร ห็จะงกๆ เงิ่นๆ งงๆ ทำอะไรไม่ถูก เราจะต้องทำตัวเป็นผู้รู้ มีการศึกษามาก่อน โดยเฉพาะเครื่องทำงานแบบใด บางเครื่องจะหน่วงเวลาเหยียบเบรค ก็จะยังไม่หยุดในทันที ยังมีไหลเหมือนรถจริง
2. เจ้าหน้าที่จะแจ้งว่า ถ้าไฟแดงขึ้น จะต้องเหยียบเบรค แต่ความเป็นจริงแล้วจะไม่ทัน เพราะเหยียบแล้วมันก็ยังไหลไปต่อ ทำให้ขึ้นไฟ แดง จะไม่ผ่านการทดสอบ
3. วิธีเหยียบให้ผ่าน ให้ลองวิธีนี้ก่อน เหยียบคันเร่งแล้วทันทีที่ขึ้นไฟเขียว ก็เหยียบเบรคทันที ถ้าไม่ผ่านก็ใช้วิธีถัดไป (จากที่สังเกตุ ทำ แบบนี้เจ้าหน้าที่จะให้ผ่าน)
4. ให้เหยียบคันแร่งแล้วสายตาให้ดูว่า ถ้าไฟเขียวไปใกล้ ตำแหน่งที่จะแสดงไฟแดง ประมาณ 3 ขีด ให้รีบแตะเบรคทันที เพราะเมื่อแตะ เบรค ไฟก็จะยังไม่หยุดวิ่ง ซึ่งก็จะเลยไฟแดงไปเล็กน้อย
5. ขณะที่คนอื่นกำลังทดสอบ ให้ยืนดูแล้วลองเหยียบตาม สร้างภาพในใจว่ากำลังทดสอบเหมือนกัน

 

การทดสอบสายตาทางลึก

การทดสอบสายตาทางลึก จะเป็นการทดสอบว่าสายตาสามารถแยกแยะวัตถุที่อยู่ในระดับเดียวกันได้หรือไม่ ซึ่งในสถานการณ์ขับรถ จริง หากขับรถตามหลังคันอื่น หรือคันที่อยู่ใกล้ๆ กัน การแซง การสวนทาง การจอดรถ ก็จะสามารถกะระยะได้ถูกต้อง ไม่ทำให้เกิด อุบัติเหตุ
1. ลองนำเอาเทียนขาว 2 เล่ม มาถือไว้ตรงหน้า ด้วยมือสองข้าง ยืดมือไปข้างหน้า ให้อยู่ในระดับสายตา แล้วขยับเทียนเข้าหาสายตา เพื่อดูว่าเทียนมีตำแหน่งเปลี่ยนไปอย่างไร ลองดูว่า ถ้าตำแหน่งตรงกันจะเป็นอย่างไร การทดสอบจริงๆ จะคล้ายกัน เพราะใช้แท่งสีขาว เหมือนกัน


2. ขณะทดสอบจริง ให้กดปุ่มขยับแท่งให้อยู่ในระดับเดียวกัน ตรงกัน แต่เวลาขยับนั้น แท่งจะเคลื่อนไปข้างหลังหรือมาข้างหน้า ที่จะ หลอกตา เหมือนแท่งไม่ขยับ บางคนก็ถามเจ้าหน้าที่ หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า แท่งไม่ขยับ ซึ่งไม่ควรถาม เพราะการถามหรือแจ้งเจ้าหน้าที่ก็ แสดงว่าสายตามีปัญหา มีโอกาสไม่ผ่านการทดสอบ
3. การกดให้กดแดงเลื่อนแท่งทางซ้ายมือให้ถอยหลังให้สุด กดเร็วๆ ก็จะเห็นว่าแท่งมีการเคลื่อนที่ ถ้ากดช้าๆ จะดูไม่ออก ว่าแท่งมีการ เคลื่อนที่ ทำให้กะระยะยาก และผิดพลาดได้ จากนั้นกดปุ่มเขียวเพื่อให้แท่งสีขาวเคลื่อนเข้าหาสายตาเรา หรือเคลื่อนมาข้างหน้า จน กว่าแท่งทั้ง 2 จะอยู่ระยะเดียวกัน
4. การดูว่าแท่งตรงกันหรือยัง อาจจะใช้การหลับตา สลับตาซ้ายตาขวา ก็จะช่วยให้แยกแยะได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

 

 

การทดสอบอ่านไฟสัญญาณ

การทดสอบการบอกไฟสัญญาณ แดง เขียว เหลือง ไม่ยาก ตั้งสติ แล้วออกเสียงชัดๆ ไม่ต้องสั่น ตั้งสติ ให้ดี ตอบช้าไม่เป็นไร ไม่ ต้องรีบตอบ ตอบเร็วเจ้าหน้าที่ก็กดเร็ว เราต้องคุมเกม ตอบไม่ช้าเกินไป

 

 

การทดสอบสายตาทางกว้าง

ทดสอบสายตาทางกว้าง จะให้วางหน้าให้จมูกอยู่ตำแหน่งดังภาพ แล้วดูไฟสัญญาณว่า ปรากฏเป็นสี แดง เขียว หรือ เหลือง ให้มอง สายตาไปข้างหน้า มองด้วยหางตา ไม่เช่นนั้นจะมองไม่เห็น ห้ามเหลือบตาไปมองอย่างเด็ดขาด ต้องใช้หางตาเท่านั้น การฝึกง่ายๆ ก็หา ไฟ หรือกระดาษ แดง เขียว และเหลือง มาแสดงในตำแหน่งหางตาของเรา เพื่อฝึกการทดสอบสายตาไม่ยาก

 

การทดสอบตาบอดสี การแยกสี

การทดสอบแบบนี้ เจ้าหน้าที่จะชี้ที่กลุ่มสี เราจะต้องบอกได้ว่า สีอะไร หากสายตาปกติ ก็ไม่มีปัญหา แต่หากสายตาบอดสี ก็จะไม่ ผ่าน

 

คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย

1. ก่อนการทดสอบจะมีการเปิดวิดีโอให้ดู ให้ศึกษาว่าต้องทำอย่างไร และควรดูวิดีโอใน Youtube ประกอบไปด้วยเช่นกัน เพื่อ ศึกษาเทคนิค แนะนำให้ศึกษาจากวิดีโอนี้


2. ขณะที่เจ้าหน้าที่เรียกคนอื่นไปทดสอบ ให้ลุกไปดูว่าเค้าทำแบบไหน ถึงผ่าน แบบไหนไม่ผ่าน บางคนก็จะงง เพราะวิดีโอก็ไม่ดู เวลา เจ้าหน้าที่บอกอะไรก็จะงงๆ ดังนั้น ลุกไปดูการทดสอบของคนอื่น

 

การทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย เป็นเรื่องสำคัญ เพราะแต่ละท่าที่ทดสอบนั้น ก็จะเกี่ยวข้องกับการขับรถ เช่น การเหยียบเบรค ทำได้ดีแค่ไหน เมื่อตกใจ ปฏิกิริยาเป็นอย่างไรบ้าง จะมีโอกาสเกิดอันตรายหรือไม่ แต่ทั้งนี้ในการขับรถจริงๆ แล้ว จะต้องฝึกการขับรถ ปลอดภัย ซึ่งมีวิธีฝึกในชีวิตประจำวัน หากปฏิบัติเป็นประจำ ก็จะช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ เช่น
1. ดูทางข้างหน้า ดูกระจกมองข้าง วิเคราะห์ตำแหน่งรถของเรา มีรถตามหลัง หรือคันหน้าห่างมากเพียงใด สามารถหลบ หรือหยุดรถ ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
2. หมั่นดูสัตว์เลี้ยง ซอย และต้องระวัง หรือกดแตรให้สัญญาณ หากขับผ่านด้วยความเร็ว เพราะอาจจะมีรถออกจากซอย หรือสัตว์เลี้ยง วิ่งข้ามถนนกะทันหัน
3. หมั่นวิเคราะห์สถานการณ์ทุกรูปแบบขณะขับรถ