ความอิจฉาเป็นเรื่องปกติของคนเรา และมักจะสร้างความทุกข์ให้ตัวเอง โดยเฉพาะในเรื่องเงิน เรื่องรายได้ เงินเดือน บางคนอิจฉา เงียบๆ ในใจ บางคนรุนแรงมาก ก็ระบายออกทันที ก่อนจะอิจฉาคนอื่นที่มีรวยกว่า เงินเดือน มีรายได้มากกว่าตนเองนั้น จำเป็นต้อง ควบคุมสติ และทำความเข้าใจกับความรวยของแต่ละคน เพราะความอิจฉาหากปล่อยให้เกิดขึ้นมาแล้ว มักจะเป็นการสร้างศัตรู ทำให้ ชีวิตอยู่ไม่เป็นสุข

 

บางคนเอาแต่อิจฉาคนอื่น จนกลายเป็นความโกรธแค้นไปเลยก็มี แต่ไม่เคยมองตัวเอง ไม่เคยโทษตัวเองเลยว่า ทำไมถึงไม่รวยหรือ มีรายได้น้อย เพราะสาเหตุจากอะไร แต่ใครเด่นกว่าตัวเอง ก็จะบ่น หรือก่นด่า ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน และหลายรายก็ลงเอย ด้วยการเป็นศัตรูกัน อย่างการเปิดร้านค้าขายของติดกัน ห้องติดกัน มักจะมีปัญหาในเรื่องแบบนี้อยู่เสมอ

 

ความอิจฉานั้นน่ากลัว เมื่อผิดใจกันแล้ว การทะเลาะกันก็จะเกิดขึ้นตามมา เช่น ยกพวกมาทำร้าย ด่าประจานให้เกิดความอับอาย การหาทางกลั่นแกล้วทุกรูปแบบ เท่าที่จะสามารถทำได้


ความอิจฉาสามารถดับได้ ด้วยสติ การปล่อยวาง และยอมรับความจริง

เรื่องความร่ำรวย วาสนา คนเราแข่งกันไมได้ บางคนแม้จะเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน แต่ก็สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจนร่ำรวยได้


คนที่มีรายได้สูง เพราะมีความพยายามสูง

คนที่เรียบจบแพทย์ รายได้เมื่อเริ่มทำงานก็จะสูงมากเช่นกัน หากทำงานพิเศษด้วย รายรับหลักแสนบาท เป็นเรื่องปกติ แต่หากย้อน กลับไปมองตั้งแต่เริ่มวัยเด็กแล้ว แต่ละคนก็จะต้องพยายามอย่างหนักในการเรียน ตั้งแต่ระดับประถม มัธยมจนจบระดับปริญญาตรี ซึ่ง สาขานี้เรียน 6 ปีหรือมากกว่านั้น

 

คนเรียนจบด้านนี้ ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจในการเรียนอย่างมาก ผลตอบแทนก็ย่อมจะมากเป็นธรรมดา เพราะเส้นทางสู่ความ สำเร็จนั้นยากมาก ดังนั้นผลตอบแทนก็ต้องมากกว่าเป็นธรรมดา เมื่อเทียบกับบางคนไม่ได้เรียนสูง ไม่ตั้งใจเรียน หรือเลือกเรียนสาขาที่ เงินเดือนน้อย รายได้ก็ย่อมน้อยเป็นธรรมดา

 

หากมองแบบนี้แล้ว เพราะไม่มีใครบังคับว่าอย่าเรียนเก่ง อย่าเรียนดี ไม่มีกฏหมายบังคับว่า ห้ามเป็นแพทย์ ห้ามรวย ทุกคน สามารถทำได้ หากเรียนรู้ที่จะยอมรับความจริงว่า เรานั้นทำตัวเอง ไม่ขยัน ไม่ตั้งใจ จึงยากจนกว่า ความอิจฉาก็จะลดลง และสามารถ เลิกคิดเรื่องนี้ได้ เลิกใส่ใจ เพราะรู้แล้วว่าสาเหตุก็มาจากตัวเอง แต่ก็ยังไม่สาย เพราะหากยังมีลมหายใจ ยังมีแรง และพร้อมกจะเปลี่ยน ตัวเอง ก็มีงานอื่นรองรับมากมาย

 

หากเงินคือจุดหมายปลายทางที่ต้องการ การหาเงิน การสร้างความร่ำรวยนั้นไม่ยาก ในทุกวันนี้ อยากได้เงินต้องทำมาค้าขาย รับรองว่ารวยกว่าแพทย์แน่นอน แต่....

 

แต่สิ่งที่มากับบางอาชีพนั้น ไม่ใช่เรื่องเงินอย่างเดียว ยังมีเรื่องลาภ ยศ ขื่อเสียง สรรเสริญ และอื่นๆ ซึ่งมาพร้อมกับอาชีพนั้นๆ แม้จะ เป็นพ่อค้าที่ร่ำรวย แต่ความมีเกียรติ์ ก็คงไม่เทียบเท่านายแพทย์ เรื่องแบบนี้ ก็ต้องทำใจยอมรับ เพราะจะโทษใครไม่ได้ ไม่ตั้งใจเรียนเอง ตำแหน่งทางสังคมแบบนี้ เงินซื้อไม่ได้ ต้องใช้ความพยายามสร้างเอาเอง

 

แต่ในข้อดีก็มีข้อเสีย บางคนเคยมีตำแหน่งก่อนเกษียณ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ในความมีหน้ามีตา เป็นที่รู้จักของผู้คนมากมาย ภาษีสังคมอย่างเรื่องซองงานแต่ง งานบวช ฯลฯ มีทุกเดือน ลุงของผู้เขียนเอง ยังมีค่าใช้จ่ายเรื่องนี้ในแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท เจองานใหญ่ๆ บางงานหลักหมื่นบาทแล้ว ในความสำเร็จ ความร่ำรวย ความมีชื่อเสียง มักจะมีรายจ่ายตามมาเสมอ มากน้อยตาม ระดับความสำเร็จ บางคนอาจจะมีอะไรที่สร้างความทุกข์ใจมากกว่านั้น เช่น มีรถ บ้าน ข้าวของเครื่องใช้แพงๆ แต่ต้องผ่อน แต่ละเดือน แทบไม่พอใช้

 

การปล่อยให้ความอิจฉาเกิดกับตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องดี เป็นเรื่องน่าอับอาย หากแสดงออกตรงๆ ให้คนอื่นรู้ และสร้างความทุกข์ใจให้ ตัวเอง ทำร้ายตัวเอง เพราะเมื่อเกิดความอิจฉา ก็จะมีแต่ความคิดไม่ดี ความคิดไม่ดี ก็เหมือนยาพิษ ที่สะสมในตัวเอง ทำให้กลายเป็น คนมองโลกในแง่ร้าย คิดไม่สร้างสรรค์ พูดไม่สร้างสรรค์ ชีวิตไม่มีความสุข

 

ดังนั้นการเรียนรู้ให้ทันและสามารถหยุดความอิจฉาได้จะเป็นประโยชน์กับตัวเอง พยายามมองทั้งด้านดีและไม่ดี แล้วจะเข้าใจและ อาจยุติความอิจฉาลงได้

 

สำหรับทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้ ผู้เขียนขอเดาว่า ท่านต้องเป็นคนขี้อิจฉา จึงเข้ามาก่อน ชิมิ!! 555 ความอิจแาไม่ใช่เรื่องดีเลย เป็นการทำร้ายตัวเองทางอ้อม ทำใจให้มีความสุข ชื่นชมความสวยงามโลกนี้ให้เต็มที่ ก่อนจะเดินทางจากไป