สำหรับ USB พ็อกเก็ตไวไฟใส่ซิม เอาไว้กระจายสัญญาณเน็ต เมื่อใช้งานไปนานๆ อาจจะเจอกับปัญหา เน็ตตัด เน็ตไม่วิ่ง เน็ตค้าง เน็ตช้า ฯลฯ ให้ลองแก้ปัญหาง่ายตามนี้ดดูก่อน ซึ่งปัญหาอาจจะเกิดจากซิลิโคนที่ช่วยระบายความร้อนของ IC เสื่อมสภาพ ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดี ให้แกฝาออกมา ลอกซิลิโคนออก แล้วใส่เข้าไปใหม่

 

จากการใช้งาน USB พ็อกเก็ตไวไฟใส่ซิมมาหลายปี ช่วงปีแรกๆ นั้น ก็ใช้งานได้ดี ปกติก็เสียบไว้ทั้งวันทั้งคืน บางทีก็เป็นอาทิตย์ไม่เคยถอดออก แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ช่วงหลังๆ เริ่มพบว่า เน็ตหลุดบ่อย ตัดบ่อย จึงตัดสินใจแกะฝาออก ก็พบว่า ซิลิโคนเสื่อมสภาพเต็มทีแล้ว หลังจากได้ทำความสะอาดแล้วใส่ซิลิโคนใหม่ ก็พบว่า ดีขึ้น ใครที่พบปัญหาแบบเดียวกัน ก็ลองนำวิธีนี้ไปใช้

 

วิธีแกะฝาครอบ

วิธีแกะฝาครอบก็ทำได้ง่ายๆ แต่ละยี่ห้อน่าจะคล้ายๆ กัน
1. ถอดสกรูออกก่อน
2. ใช้ปิ๊ก หรือ พลาสติกบางๆ กดไปตามขอบเพื่อปลดล็อกเขี้ยวล็อก ซึ่งจะมี 4 จุดด้วยกัน แล้วก็แกะฝาออกได้เลย
3. ก็จะพบกับชิ้นส่วนข้างใน ไม่มีอะไรมาก ให้จัดการตรวจสอบซิลิโคนช่วยระบายความร้อน หากเสื่อสภาพแล้ว เช่น เปื่อย ยุ่ย ก็จัดการทำความสะอาด แล้วติดเข้าไปใหม่

 


4. ชิพตัวนี้จะร้อนมาก ขณะใช้งาน
5. จัดการทาซิลิโคที่ตัวอลูมิเนียมระบายความร้อน


6. ผู้เขียนเน้นใช้ตัวช่วยระบายความร้อนติดที่ฝาหลังอีกอันหนึ่ง ก็ช่วยได้เหมือนกัน เพราะตัวนี้ก็ร้อน เมื่อใช้งานไปนานๆ
7. เสร็จแล้วก็ประกอบอุปกรณ์ทั้งหมด เข้าด้วยกันเหมือนเดิม

 

แก้ปัญหาเน็ตช้า แม้อุปกรณ์จะทำงานเป็นปกติ

การใช้งาน USB พ็อกเก็ต ไวไฟ ใส่ซิม จำเป็นต้องเสียบกับปลั๊กไฟในบ้าน ซึ่งตำแหน่งเหล่านั้น อาจจะอับสัญญาณ ทำให้เน็ตช้าก็จำเป็นจะต้องเปลี่ยนตำแหน่ง
1. ตัวอย่างการเสียบกับปลั๊กไฟในบ้าน อยู่ในที่อับสัญญาณ ความเร็วเน็ตบางที ทำได้แค่ 45 Kbps หรือประมาณ 0.045 Mbps เท่านั้นเอง น้อยมากกกกก ทำอะไรไม่ได้ เน็ตไม่วิ่งเลย


2. ใครที่ใช้ USB พ็อกเก็ตไวไฟแบบนี้ ก็แนะนำให้ต่อสายออกไปนอกบ้าน ระเบียง หรือหาตำแหน่งที่รับสัญญาณได้ดี หรือไม่ก็ต้องมีพาวเวอร์แบงก์ไว้ใช้งานแบบนี้ เอาไว้ตั้งในตำแหน่งต่างๆ กรณีเน็ตช้า จากตัวอย่าง จาก 44 Kbps ก็เพิ่มมาเป็น 290 Kbps (ใช้เน็ตราคาประหยัด ก็เชื่อมต่อได้แค่นี้ ต้องทำใจ )


3. ส่วนอีกวิธีหนึ่ง ให้ใช้งานอินเตอร์เน็ตในช่วงที่คนใช้งานกันน้อยลง หลังเที่ยงคืน ช่วงเช้าๆ จะเชื่อมต่อได้ที่ความเร็วมากขึ้น (ผู้เขียนใช้เน็ตราคาถูก ความเร็วแค่ 387 Kbps เท่านั้น) จัดการงานสำคัญที่ต้องการการเชื่อมต่อเร็วๆ อย่างเช่น การเช็คอีเมล์ ตอบคำถามลูกค้า อัปโหลด ดาวน์โหลด ฯลฯ

 

สรุป

การใช้อุปกรณ์ตัวนี้ ควรเน้นยี่ห้อที่ใช้ชีพคุณภาพดีสักน่อย ก็จะใช้งานได้นาน ตัวนี้เป็นของ ZTE ใช้มาเกิน 3 ปีแล้ว ถือว่า โอเคร เพิ่งจะมามีปัญหาในช่วงหลัง จนลองแกะดูจึงพบสาเหตุ ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว เน็ตไม่หลุด