การใช้สรรพนามว่า พวกเขา หรือ They/เดย์ ในการสนทนาภาษาอังกฤษจะหมายถึงบุคคลที่สามที่มีจำนวนตั้งแต่สองคนขึ้นไป ซึ่ง จะแทนด้วยสรรพนามว่า พวกเขา หรือ They ในบทความนี้จะพยายามรวบรวมตัวอย่างประโยคแบบต่างๆ ที่ใช้สรรพนาม They สร้าง ประโยค โดยจะมีทั้งคำอ่านและคำแปล เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองได้

 

ประโยคภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วย They หรือ พวกเขา... จะเป็นการกล่าวถึงถึงบุคคลอื่นตั้งแต่สองคนขึ้นไป ตัวอย่างประโยคต่อไปนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน เพราะสามารถนำไปดัดแปลงเพื่อการสนทนากับชาวต่างชาติได้ไม่ยาก

 

การใช้ They/เดย์/พวกเขา เบื้องต้น

การแต่งประโยคขึ้นต้นด้วย They/เดย์ หรือพวกเขา ในการสนทนา คำว่า They เป็นคำสรรพนามแทนกลุ่มบุคคลที่สาม ที่กล่าวถึงใน ระหว่างสนทนากัน เช่น พวกเขาไปดูหนัง พวกเขามีแมว 3 ตัว พวกเขาจะ... โดยที่บุคคลเหล่านั้นไม่ได้อยู่ด้วยกันในขณะนั้น

 

การใช้ They/เดย์/พวกเขา เบื้องต้น

การใช้ They/เดย์/พวกเขา จะมีโครงสร้างประโยคง่ายๆ ก็คือ They + คำกริยา + คำคุณศัพท์หรือกริยาวิเศษณ์

 

วิธีใช้งาน They พื้นฐาน จะใช้ They + กริยาที่ต้องการ เช่น
They walk along this road.
เดย์ วอล์ก อะลอง ดิส โร้ด
พวกเขาเดินไปตามถนนเส้นนี้

They are here now.
เดย์ อาร์ เฮีย นาว
พวกเขาอยู่ที่นี่ในขณะนี้

 

คำกริยามีเยอะมาก เช่น กิน เดิน วิ่ง กระโดด อาบน้ำ นอน คลาน ไป พบ ทิ้ง ตะโกน ฯ,ฯ อยากจะใช้คำว่าอะไร ก็จับมาใส่หลังคำว่า They เพื่อแต่งประโยคได้ตามใจชอบ

 

ทุกวันนี้นิยมใช้มือถือกันเป็นส่วนมาก แนะนำให้ติดตั้งแอป ดิกชันนารี อังกฤษ-ไทย Thai English Dictionary Bravolol - Language Learning แอปนี้ดีมากๆ เราสามารถค้นหาคำที่ต้องการ เช่น เรียนหรือ learn/เลิน ก็จะมีทั้งตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษและการออก เสียง ซึ่งสามารถแต่งประโยคได้ง่ายๆ ด้วยการนำมาต่อหลัง They อย่าง
They learn cooking.
เดย์ เลิน คุ๊กกิ้ง
พวกเขา เรียน ทำอาหาร เป็นต้น

 

การใช้ They ตาม Tense /เท้นสฺ

การแต่งประโยคขึ้นต้นด้วย They หรือ พวกเขา ตามกาลหรือ Tense/เท้นสฺ ซึ่งจะแยกเป็น อดีต ปัจจุบัน และอนาคต การพูดถึง เรื่องราวในอดีต ก็ต้องแต่งโปรโยคโดยใช้คำกริยาให้ถูกต้อง ซึ่งคำกริยาจะมี 3 แบบ หรือเรียกว่า 3 ช่องที่จะต้องใช้ให้ถูกต้อง เช่น

 

อดีต They learned coooking
They เลินดฺ คุ้กกิ้ง
พูดถึงเรื่องในอดีต ว่าพวกเขาเคยเรียนทำอาหาร แต่ปัจจุบันไม่ได้เรียนแล้ว จบคอร์สแล้ว

 

ปัจจุบัน They learn cooking.
เดย์ เลิน คุ๊กกิ้ง
พวกเขา เรียน ทำอาหาร พูดถึงเรื่องในปัจจุบัน อาจจะวันนี้ เวลานี้ ยังทำอยู่

 

อนาคต They will learn cooking.
เดย์ วิล เลิน คุ๊กกิ้ง
พวกเขา จะ เรียน ทำอาหาร พูดถึงสิ่งที่จะทำในอนาคต อาจจะพรุ่งนี้ อาทิตย์หน้า ปีหน้า

 

การใช้ They ตาม Tense / เท้นสฺ ไม่ยาก แต่ต้องศึกษาการเปลี่ยนคำกริยาให้เป็นอดีตซึ่งจะใช้การเดิม ed และคำกริยา 3 ช่อง แต่ หากไม่มีพื้นฐานมาก่อน การใช้คำกริยาที่มีความหมายว่าปัจจุบัน ชาวต่างชาติก็พอจะเข้าใจ เพราะคนไทยเราไม่มีประโยคในลักษณะนี้ การพูดว่า พวกเขาเรียนทำอาหาร เราก็พูดเหมือนๆ กัน

 

ตัวอย่างการเติม ed สำหรับคำกริยา กรณีเป็นการเล่าเรื่องในอดีต เช่น
learn /เลิน/เรียนรู้ เป็นคำกริยาที่หมายถึงปัจจุบัน หรือเรียกว่า V1 คำกริยาช่องที่ 1
learned /เลินดฺ/เรียนรู้ เป็นคำกริยาที่หมายถึงอดีต หรือเรียกว่า V2 หรือ V3 เป็นคำกริยาช่องที่ 2 หรือช่องที่ 3

 

ศึกษา การใช้ Tense ภาษาอังกฤษ ตัวอย่างประโยค คำอ่าน คำแปล คลิกที่นี่

 

การใช้ They กับ Verb to Be พวกเขาเป็น.. พวกเขาอยู่.. พวกเขาคือ...

Verb to be จะมีหลายแบบ เช่น is, am, are, was, were และ been สำหรับ พวกเขา/ They จะใช้กับ are/อาร์ และ were/เวอ
การใช้พวกเขาหรือ They กับ Verb to Be /เวิร์บทูบี จะใช้ในความหมายดังนี้

การพูดถึงสิ่งที่เป็นปัจจุบันเรื่องในเวลานี้ ทุกวันนี้ ขณะนี้

พวกเขาเป็น.. เช่น They are the winner.
เดย์ อาร์ เดอะ วินเนอร์
พวกเขา เป็น แชมป์เปี้ยน

 

พวกเขาอยู่.. เช่น They are here. เดย์ อาร์ เฮีย
พวกเขา อยู่ ตรงนี้

 

พวกเขาคือ...เช่น They are the new staff of this company.

 

เดย์ อาร์ เดอะ นิว สต๊าฟ ออฟ ดิส คัมพานี
พวกเขาคือกลุ่มพนักงานใหม่ของบริษัทนี้ (ขณะนี้ก็ยังทำงานอยู่ เพิ่งเข้ามาทำงานไม่นาน)

 

การพูดถึงเรื่องที่เป็นอดีตผ่านมาแล้ว ไม่ได้ทำอีกแล้ว

พวกเขาเป็น.. เช่น They were the teacher.
เดย์ เวอ เดอะ ทีเช่อะ
พวกเขา เคย เป็น ครู เป็นเรื่องในอดีต ปัจจุบันนี้ไม่ได้เป็นแล้ว ลาออกแล้ว

 

พวกเขาอยู่.. เช่น They were at home.
เดย์ เวอ แอท โฮม
พวกเขา ได้ อยู่ ที่ บ้าน เป็นเรื่องในอดีต อาจจะสนทนา เกี่ยวกับสิ่งที่ได้กระทำเมื่อวาน ใครทำอะไรอยู่ที่ไหน

พวกเขาคือ...เช่น They were the new staff of the company.
เดย์ เวอ เดอะ นิว สต๊าฟ ออฟ เดอะ คัมพานี
พวกเขาคือกลุ่มพนักงานใหม่ของบริษัทในขณะนั้น เคยเป็น เคยทำงานที่บริษัทนี้ แต่ปัจจุบันลาออกไปทำงานที่บริษัทอื่นแล้วหรือ เกษียณแล้ว

 

การใช้ They กับ Been/บีน จะใช้ในความหมายว่าเคย...

They have been there for 3 hours.
เดย์ แฮฟ บีน แดร์ ฟอร์ ทรี อาวเออะสฺ
พวกเขาได้อยู่ที่นั่นเป็นเวลา 3 ชั่วโมง
แต่ขณะที่พูดนั้น ไม่ได้อยู่แล้ว หากเทียบกับภาษาไทยเราแล้ว อาจจะเป็นการสนทนากันเกี่ยวกับการเดินทางไปสถานที่ใดๆ อาจจะเป็น การจัดงาน นิทรรศการ เป็นการเล่าให้ฟัง ว่ามีเพื่อนที่ได้ไปงาน พวกเขาได้อยู่ที่นั่นเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ก็จะพูดด้วยประโยคในลักษณะนี้ แต่ขณะที่พูด ไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว อาจจะไปกันเมื่อช่วงเช้า

 

การใช้ They กับ Verb to Have พวกเขามี.. พวกเขาได้..แล้ว

ประโยคขึ้นด้วยด้วย พวกเขา /They กับคำกริยา Have/แฮฟ หมายถึง พวกเขามี หรือพวกเขาได้ .. เช่น

 

การใช้ They กับ have ในเรื่องที่เป็นปัจจุบัน

การใช้ในความหมายว่า พวกเขามี..
They have two kids.
เดย์ แฮพ ทู คิดสฺ
พวกเขามีลูกสองคน อยากบอกใครว่า พวกเขามีอะไร ก็ใช้ They have + สิ่งที่มี

 

การใช้ในความหมายว่า พวกเขาได้กระทำ กรณีนี้จะใช้ have เป็นกริยาช่วย จะไม่แปลว่า ได้มี
They have gone to that resort.
เดย์ แฮฟ กอน ทู แดด รีสอร์ท
พวกเขาได้ไปหรือเคยไปรีสอร์ทนั้น
ในกรณีที่ต้องการแต่งประโยคว่า พวกเขาเคยไป หรือ ได้ไป หรือได้ทำ ... แล้ว จะใช้ have + กริยาช่องที่ 3 + คำนาม + already

 

They have drunk coffee.
เดย์ แฮฟ ดรัง คอฟฟี่
พวกเขาได้ดื่มกาแฟแล้ว
แต่ขณะที่พูดไม่ได้ดื่มแล้ว อาจจะดื่มไปเมื่อเช้า drunk เป็นคำกริยาช่อง 3 ของ drink แปลว่า ดื่ม

 

การใช้ They have + กริยาช่องที่ 3 จะใช้ในความหมายว่า ได้ทำสิ่งนั้นๆ ไปแล้ว ภายในวันนั้น และขณะที่พูดก็ไม่ได้ทำอีกแล้ว ประโยคที่เราจะใช้บ่อยๆ เช่น การพูดว่า พวกเขาได้ทำสิ่งนั้นไปแล้ว แต่ฉันยังไม่ได้ทำ พวกเขาเคยไปที่นั่นแล้ว แต่ฉันยังไม่เคย แต่เป็น เรื่องของปัจจุบัน วันนั้น เวลานั้น

 

อาจจะเติม already มีความหมายว่า แล้ว เพื่อให้ประโยคสมบูรณ์ขึ้น
They have eaten breakfast already. But he has eaten only fruit.
เดย์ แอฟ อีทเท่น เบรกฟัสทฺ ออลเรดดิ. / บัท ฮี แฮฟ อีทเท่น โอนลิ ฟรุต
พวกเขาได้ทานอาหารเช้าแล้ว แต่เขากินแต่ผลไม้เท่านั้น (เลยไม่อยู่ท้อง ตอนนี้เริ่มหิวแล้ว)

 

การใช้ They กับ have ในเรื่องที่เป็นอดีต ผ่านไปแล้ว

กรณีนี้จะใช้ในความหมายว่า พวกเขาเคยมี เช่น
They had two dogs.
เดย์ แฮด ทู ด้อกสฺ
พวกเขาเคยมีสุนัขสองตัว แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ไม่ได้เลี้ยงอีกแล้ว ยกให้คนอื่นไปแล้ว

 

การใช้ในความหมายว่า พวกเขาได้กระทำ หรือเคยกระทำ เรื่องใดๆ ในอดีต เช่น
They had gone to that resort last year.
เดย์ แฮด กอน ทู แดด รีสอร์ท ลาสทฺ เยียร์
พวกเขาเคยไป หรือได้ไป รีสอร์ทนั้น เมื่อปีที่แล้ว
กรณีเป็นเหตุการณ์ที่เกิดในอดีต ต่างจาก They have gone to that resort ซึ่งจะหมายถึงเพิ่งจะไปไม่นาน และเกิดในวันนั้น ปัจจุบันนั้น อาจจะเพิ่งกลับมาจากรีสอร์ทนั้นๆ ไม่ใช่เหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว ซึ่งจะใช้ had gone

 

การใช้ They กับ Verb to Do พวกเขาทำ...

ประโยคขึ้นด้วยด้วย พวกเขา /Theyกับคำกริยา Do /ดู หมายถึง พวกเขาทำ หรือพวกเขาเคยทำ.
การใช้Theyและ Do พูดถึงสิ่งที่เป็นปัจจุบัน วันนี้ เวลานี้ ขณะนี้
They do the housework together.
เดย์ ดู เดอะ เฮ้าสะเวิร์ค ทูเก็ดเดอ
พวกเขาทำงานบ้านด้วยกัน หรือพวกเขาช่วยกันทำงานบ้าน พวกเขากำลังทำอะไร แต่งประโยคง่ายๆ ด้วย They do + สิ่งที่กระทำ.

 

การใช้ They และ Do พูดถึงสิ่งที่เป็นอดีต เรื่องเมื่อวาน หรือวันที่ผ่านมา

They did the homework
เดย์ ดิด เดอะ โฮมเวิร์ค
พวกเขาทำงานบ้าน
อาจจะพูดถึงเรื่องที่เคยทำกันในอดีต พวกเขาเคยทำงานบ้าน เคยช่วยกันทำ เมื่อวันนั้น หรือวันใดๆ ในอดีต เป็นต้น

 

การใช้ Do เพื่อเน้นถึงความรู้สึก เช่น
They love this house.
เดย์ เลิฟ ดิส เฮาสฺ
พวกเขารักบ้านหลังนี้

 

They do love this house.
เดย์ ดู เลิฟ ดิส เฮาสฺ
พวกเขารักบ้านหลังนี้มากจริงๆ
เป็นการเน้นว่า รักมาก อาจจะมีความผูกพันกับสิ่งนั้นมากๆ อย่าง บ้าน เพราะกว่าจะเก็บเงินซื้อบ้านได้นั้นไม่ง่ายเลย จึงรักบ้านหลังนี้ มากจริงๆ

 

อะไรก็ตามที่รู้สึกว่า ชอบมาก หลงไหลมาก อยากจะพูดออกไป ให้ใช้ They do + v1 พวกเขา...มาก

 

การใช้ They กับ Can, Could พวกเขาสามารถ...

การใช้ They กับ Can จะใช้ในความหมายว่า พวกเขาสามารถกระทำอะไรได้บ้าง พวกเขาสามารถ....
การใช้ They can จะใช้ในการพูดเรื่องที่เป็นปัจจุบัน
They can drive a car.
เดย์ แคน ไดรฟฺ อะ คาร์
พวกเขาทั้งคู่หรือทั้งหมดนี่สามารถขับรถได้

 

อยากจะบอกใครๆ ว่า ใครหลายคน สามารถทำอะไรได้ ให้แต่งประโยคง่ายๆ ด้วยการใช้ They can + คำกริยาช่องที่ 1

 

การใช้ They could พวกเขาสามารถ.. ใช้เล่าเรื่องที่เป็นอดีต

They could swim when they were ten.
เดย์ คู้ด สวิม เว้น เดย์ เวอ เทน
พวกเขาสามารถว่ายน้ำได้ตั้งแต่พวกเขามีอายุสิบขวบ
ประโยคแบบนี้ อาจจะเป็นการสนทนากันเรื่องการว่ายน้ำ อาจจะเล่าให้ฟังว่า พวกเขาว่ายน้ำได้ตั้งแต่ 10 ขวบ เพราะพวกเขาไปเรียน หรือบ้านอยู่ติดแม่น้ำ เป็นต้น

 

การใช้ They กับ Will, Would พวกเขาจะ...

การใช้ They will... จะใช้ในความหมายว่า พวกเขาจะ... เป็นการใช้ในความหมายถึง การจะทำอะไรในอนาคต

 

They will get a new car tomorrow.
เดย์ วิล เก็ด อะ นิว คาร์ ทูโมโรว์
พวกเขาจะได้รับรถใหม่ในวันพรุ่งนี้

 

หากต้องการแต่งประโยคที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า พวกเขาจะทำอะไรในอนาคต... ให้ใช้ They will + คำกริยา เช่น พวกเขาจะไป..., พวก เขาจะทำ..., พวกเขาจะ ฯลฯ

 

การใช้ They กับ Shall, Should พวกเขาจะ และพวกเขาควรจะ....

การแต่งประโยคที่ขึ้นต้นด้วย They shall จะใช้ในความหมายว่า พวกเขาจะ... คล้าย They will
They shall be there tomorrow.
เดย์ ชอล บี แดร์ ทูโมโร
วันพรุ่งนี้พวกเขาจะอยู่ที่นั่น
อาจจะเป็นการสนทนาในเรื่องการเดินทาง พรุ่งนี้พวกเขาจะไปถึงตรงนั้น จะไปอยู่ตรงนั้น สถานที่นั้นๆ

 

การใช้ They should have + กริยาช่องที่ 3 ในพูดในสิ่งที่ควรจะทำ แต่ไม่ได้ทำ หากเปรียบเทียบกับภาษาไทยเราแล้ว จะเป็นการ พูดในลํกษณะการโทษตัวเองมากกว่า ว่าควรจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุอย่างนั้นอย่างนี้ตามมา แต่ก็ไม่ได้ทำ
They should have told her the truth before she left.
เดย์ ชู้ด แฮฟ โทล เฮอ เดอะ ทรูธ บีฟอร์ ชี เลฟทฺ
พวกเขาควรบอกความจริงกับเธอก่อนที่เธอจะจากไป พวกเขาควรจะทำแต่ก็ไม่ได้ทำ จะใช้ประโยคในลักษณะนี้

 

การใช้ They กับ May, Might พวกเขาอาจจะ...

การใช้ They may/เดย์ เมย์ หรือ They might /เดย์ ไม๊ธฺ ในความหมายว่า พวกเขาอาจจะ

 

การใช้ They may /เดย์ เมย์
They may arrive at noon.
เดย์ เมย์ อะไรฟฺ แอท นูน
พวกเขาอาจจะมาถึงตอนเที่ยง อาจจะนัดปาร์ตี้กัน แล้วแจ้งกับเจ้าของงานว่า พวกเขาหรือเพื่อนๆ อาจจะไปถึงประมาณเที่ยว แต่ไปแน่ นอน

 

หากต้องการแต่งประโยคที่ขึ้นต้นด้วย พวกเขาอาจจะ ก็ใช้ They may + คำกริยาช่อง 1 ได้เลย การใช้ may เป็นการคาดคะเนในสิ่ง ที่มีโอกาสเกิดขึ้น และแน่ใจว่าจะเกิดขึ้น

 

They might be wrong.
เดย์ ไมธฺ บี รอง
พวกเขาอาจจะเป็นฝ่ายผิดก็ได้นะ

 

การใช้ might /ไมธฺ ใช้ในกรณีที่เป็นการคาดคะเนในเรื่องนั้นๆ แต่ไม่แน่ใจนักว่าจะเกิดขึ้นขึ้นหรือไม่

 

การใช้ They กับ Must, Have to พวกเขาต้อง...

การใช้ They must จะใช้ในความหมายว่า พวกเขาต้อง... พวกเขาต้องการจะทำอะไร ก็ใช้ They must + คำกริยาช่องที่ 1

 

They must do the housework.
เดย์ มัสทฺ ดู เดอะ เฮาส์เวิร์ค
พวกเขาต้องทำความสะอาดบ้าน
ประโยคในลักษณะนี้ เป็นการเล่าให้ฟัง การแต่งประโยคที่มีเนื้อความคล้ายกันนี้ ก็ใช้ They must + คำกริยาที่ต้องการได้เลย

 

They have to clean the toilet.
เดย์ แฮพ ทู คลีน เดอะ ท้อยเหล็ด
พวกเขาต้องทำความสะอาดห้องน้ำ
การใช้ have to/แฮฟ ทู จะมีความหมายว่า จะต้องทำ เป็นเรื่องสำคัญ เพราะห้องน้ำสกปรกมาก จะต้องทำความสะอาด หากต้องการ พูดว่า จะต้องทำเรื่องใด หลีกเลี่ยงไม่กระทำไม่ได้ ให้ใช้ have to + คำกริยาช่องที่ 1

 

การใช้ They กับ Need พวกเขาจำเป็นต้อง

การใช้ They need ใช้ในความหมายว่า พวกเขาจำเป็นต้อง... หรือพวกเขาต้องการ...

 

They need money to buy food.
เดย์ นี๊ด มันนี่ ทู บาย ฟู่ด
พวกเขาต้องการเงินเพื่อซื้ออาหาร
การพูดประโยคที่แสดงถึงความต้องการ หรือจำเป็นต้องได้รับอะไร ให้ใช้ They need + สิ่งที่ต้องการ (รถ, บ้าน, ที่ดิน, ฯลฯ ) การใช้ need เป็นความหมายว่า จำเป็นต้องมีสิ่งนั้น เพราะสำคัญต่อการดำรงชีวิต

 

They need to eat breakfast.
เดย์ นี้ด ทู อีท เบรคฟัสทฺ
พวกเขาจำเป็นต้องกินข้าวเช้านะ เพราะสายแล้ว หิวแล้ว
การใช้ need /นี้ด พูดถึงสิ่งที่จะต้องทำ จะใช้ They need to + คำกริยาช่องที่ 1 สิ่งที่จำเป็นต้องทำ (อาบน้ำ, แปรงฟัน, เข้านอนเร็ว, พักผ่อน ฯลฯ)

 

การใช้ They กับ Dare พวกเขากล้าที่จะ...

การใช้ They dare จะหมายถึง พวกเขากล้าที่จะทำอะไรบางอย่าง ก็ระบุลงไป ถัดจาก They dare + คำกริยาช่องที่ 1 (เดินคนเดียว, ขับรถคนเดียว,
จับสัตว์ แมลงมีพิษ กล้าบอกความจริง ฯลฯ)
They dare to tell her the truth.
เดย์ แดร์ ทู เทล เฮอ เดอะ ทรูธ
พวกเขากล้าที่จะบอกความจริงกับหล่อน

 

การใช้ They กับ Ought to พวกเขาควรจะ...

การใช้ They ought to .. / เดย์ ออธ ทู ใช้ในความหมายว่า พวกเขาควรจะ โดยมีโครงสร้างประโยค They ought to + คำกริยา ช่องที่ 1
They ought to travel by bus.
เดย์ ออธ ทู ทราเวิล บาย บัส
พวกเขาควรจะเดินทางโดยรถประจำทาง เพราะสะดวกกว่าการเดินทางด้วยวิธีอื่น การแต่งประโยคแบบนี้ไม่ยาก โดยจะเป็นการออก ความเห็น ว่าควรจะทำแบบนั้น แบบนี้

 

การใช้ They กับ Used to พวกเขาเคยทำ... .ในอดีต

การใช้ They used to... จะหมายถึง พวกเขาเคยทำอะไรบางอย่างในอดีต แต่ปัจจุบันไม่ได้ทำแล้ว เป็นประโยคบอกเล่า เล่าให้ ฟัง

 

They used to run in the morning.
เดย์ ยูส ทู รัน อิน เดอะ มอร์นิง
พวกเขาเคยวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า (แต่ปัจจุบันไม่ได้ทำแล้ว เพราะต้องทำงานแต่เช้า ต้องเปลี่ยนมาออกกำลังกายตอนเย็น)

 

การใช้ They กับ Be used to พวกเขาเคยชินกับการ...

การใช้ They กับ be used to จะใช้ในความหมายว่า ฉัยเคยชินกับการกระทำอะไรบางอย่าง โดยจะเปลี่ยนจาก be เป็น are เพื่อ ใช้กับ They

 

They are used to run in the morning.
เดย์ อาร์ ยูส ทู รัน อิน เดอะ มอร์นิ่ง
พวกเขา เคยชินกับการวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า การใช้ประโยคในลักษณะนี้ อาจจะเป็นการสนทนาเรื่องการออกกำลังกาย เมื่อ ก่อนพวกเขาเคยชินกับการออกกำลังกายตอนเช้า แต่ทุกวันนี้ ไม่ได้ทำแล้ว เพราะเข้างานแต่เช้า เลยต้องเปลี่ยนมาออกกำลังกายตอน เย็นแทน ก็เลยต้องปรับตัว ยังเคยชินกับการออกกำลังกายตอนเช้ามากกว่า

 

การใช้ They กับ Get used to พวกเขาเริ่มชินกับ

การใช้ They get used to... จะใช้ในความหมายว่า เริ่มชินกับสิ่งใหม่ที่ได้ทำ หรือหลังจากการเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อจะทำอะไร บางอย่าง

 

They get used to run in the evening.
เดย์ เก็ท ยูส ทู รัน อิน เดอะ อีฟนิ่ง
พวกเขาเริ่มชินกับการวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น จากเมื่อก่อนจะวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า แต่เพราะงานใหม่ต้องตื่นแต่เช้า จึงไม่มีเวลา หลังจากได้เปลี่ยนมาออกกำลังกายตอนเย็นได้สักพักใหญ่ ตอนนี้ก็เริ่มชินแล้ว เริ่มชินกับการทำอะไรใหม่ๆ ก็ใช้ They get used to + คำกริยาได้เลย

 

การใช้ They กับ indent to พวกเขาตั้งใจจะ...

การใช้ They intend to... ในความหมายว่า พวกเขาตั้งใจจะกระทำเรื่องอะไร ทำเรื่องนั้น เรื่องนี้ เป็นประโยคที่เรามักจะพูดอยู่บ่อยๆ ในภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า They intend to อินเทนดฺ ทู + กริยาช่องที่ 1

 

They intend to get up early.
เดย์ อินเทนดฺ ทู เก็ท อัพ เออลิ
พวกเขาตั้งใจจะตื่นนอนแต่เช้า
อาจจะสนทนากันเกี่ยวกับเรื่องการนอน พวกเขาตั้งใจจะตื่นตอนแต่เช้า

 

การใช้ They กับ Almost พวกเขาเกือบจะ

การพูดว่า พวกเขาเกือบ พวกเขาแทบ หรือ They were almost /เดย์ เวอ ออลโมสทฺ... หรือ They almost / เดย์ ออโมสทฺ + กริยาช่องที่ 2 เป็นประโยคที่พูดบ่อยเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องในอดีต ตัวอย่างประโยคเช่น

 

They were almost the winner.
เดย์ เวอ ออลโมสท เดอะ วินเนอร์
พวกเขาเกือบได้เป็นผู้ชนะ
อาจจะเป็นการเล่าเรื่องในอดีต เกี่ยวกับการแข่งขัน ว่าพวกเขามีโอกาสเป็นผู้ชนะ แต่ไม่ชนะ ก็จะใช้ They were almost + คำนามหรือ คุณศัพท์ เช่น อ้วน ผอม รวย ซวย โชคดี

 

They were almost bitten by dogs.
เดย์ เวอ ออลโมสทฺ บิทเท่น บาย ด้อกสฺ
พวกเขาเกือบถูกสุนัขรุมกัด ใช้คำว่า They were almost + คำกริยาช่องที่ 3

 

They almost forgot my party..
เดย์ ออลโมสทฺ ฟอร์ก็อท มาย พาร์ตี้
พวกเขาเกือบลืมงานปาร์ตี้ของฉัน
คำกริยา ลืม/forgot/ฟอร์ก็อท เป็นกริยาช่องที่ 2 ของ forget /ฟอร์เก็ต แปลว่า ลืม หลัง almost ส่วนใหญ่จะเป็นคำกริยาช่อง 2 เพราะมักจะกล่าวถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้ว และเกือบจะพลาด เกือบจะไม่ได้ทำสิ่งนั้น ยกเว้นเรื่องที่เกิดในวันเดียวกัน ใช้คำกริยาช่องที่ 1

 

หากต้องการพูดว่า พวกเขาเกือบทำอะไรลงไป พวกเขาเกือบไม่ได้ทำ พวกเขาเกือบ... ให้ใช้ They almost + กริยาช่องที่ 2 ศึกษาได้ จากคำกริยา 3 ช่อง

 

They almost missed the big match.
เดย์ ออลโมสทฺ มิสเสด เดอะ บิ๊ก แมชเช่อะ
พวกเขาเกือบจะพลาดรายการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่

 

การใช้ They กับ Merely They are merely + คุณศัพท์

การพูดประโยคในความหมายว่า พวกเขาแค่ หรือพวกเขาเพียงแค่ จะใช้ They are merely + คำคุณศัพท์ หรือ They merely + คำกริยา

 

They are merely unlucky.
เดย์ อาร์ เมียหลิ อันลักกี้
พวกเขาแค่ไม่มีโชคเท่านั้น
แต่งประโยคง่ายๆ ด้วย They are merely + คำคุณศัพท์ (lonely) ตัวอย่างคำคุณศัพท์เช่น สี ขนาด ลํกษณะภายนอก อ้วน ผอม สวย หล่อ สถานการณ์ คุณสมบัติ (ดี ชั่ว)

 

They merely feeled surprised
เดย์ เมียหลิ ฟิล เซอร์ไพร้
พวกเขาเพียงแค่รู้สึกแปลกใจเท่านั้น
แต่งประโยคไม่ยาก ใช้ They merely +คำกริยา (feeled) +คำคุณศัพท์(surprised)

 

การใช้ They แต่งประโยค ขอให้ใครทำอะไร

การพูดว่า ขอให้ใคร...ทำอะไร (Have+บุคคล+กริยาช่อง 1) หรือขอให้ใคร...ทำอะไร (Ask+บุคคล+to+กริยาช่อง 1)

 

They have Tom repair my bicycle
เดย์ แฮฟ ทอม รีแพร์ มาย ไบซิเคิ่ล.
พวกเขา ให้ ทอม ซ่อม รถจักรยานของฉัน

 

They ask Tom to do the housework.
เดย์ อาสคฺ ทอม ทู ดู เดอะ เฮาสะเวิร์ค
ฉันขอร้องให้ทอมทำงานบ้านใช่ไหม ขอร้องให้ใครทำอะไร ใช้ They ask + ชื่อคน+to+คำกริยา

 

การใช้ They + Verb to Be + คำกริยาช่องที่ 3 ในความหมายว่าถูกกระทำ

การแต่งประโยคว่า พวกเขาถูกระทำ... หรือ ถูกทำให้เสียหาย จะใช้ They were + คำกริยาช่องที่ 3 เช่น

 

They were bitten by dogs.
เดย์ เวอ บิทเท่น บาย ด้อกซฺ
พวกเขาถูกสุนัขหลายตัวกัด

 

การใช้ They พวกเขา ใช้ในความหมายเป็นกรรม ...them

การใช้พวกเขาหรือ They จะทำหน้าที่ทั้งเป็นประธาน กรณีใช้เป็นกรรมจะใช้ them
Our dog bites them.
อาวเวอร์ด็อกไบเซอะเด็ม
สุนัขของเรากัดพวกเขา (โดนกัดหลายคน)
พวกเขา /them/เด็ม ทำหน้าที่เป็นกรรม bites /ไบเซอะ/กัด พวกเขา/เด็ม/

 

การใช้ their/แดร์ หรือ ...ของพวกเขา their...

การใช้ their จะใช้ในความหมายว่า ของพวกเขา ตามด้วยคำนามที่ต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ เช่น their pen/แดร์ เพ็น/ปากกาของพวกเขา
Their pen is on a table.
แดร์ เพ็น อีส ออน อะ เทเบิ้ล
ปากกาของพวกเขาอยู่บนโต๊ะ
การใช้คำว่า Their pen ในประโยคนี้ จะทำหน้าที่เป็นประธาน

 

He stole their pens.
ฮี สโตล แดร์ เพ็นสึ
เขาขโมยปากกาของพวกเขา
คำว่า their pens/แดร์ เพ็นสึ ในที่นี้จะทำหน้าที่เป็น กรรม

 

การใช้ theirs สิ่งนั้นสิ่งนี้เป็นของพวกเขา

My dog is small. Theirs is big.
มาย เพ็น อีส สมอลล. แดร์สฺ อีส บิ๊ก.
สุนัขของฉันเป็นตัวเล็ก ส่วนสุนัขของพวกเขาเป็นตัวใหญ่
การใช้ Theirs จะแทนความหมายว่า Their dog /แดร์ ด้อก เพื่อไม่ต้องกล่าวถึงซ้ำๆ Theirs จะใช้สั้นๆ แทนความหมายว่า their dog นั่น เอง

 

การใช้ ourselves กระทำบางอย่าง....ด้วยตัวเอง

การใช้ ourselves จะใช้ในลักษณะอธิบายหรือพูดถึงการกระทำที่ได้ลงมือกระทำด้วยตนเอง เช่น
They do the housework by ourselves.
เดย์ ดู เดอะ เฮาส์เวิร์ค บาย ยัวเซลสฺ
พวกเขาทำงานบ้านด้วยตัวเอง เพราะบ้านใหญ่มาก ต้องช่วยกันหลายคน ต้องการบอกใครว่าได้ทำอะไรด้วยตัวเอง ให้แต่งประโยค คล้ายกันแบบนี้ They +คำกริยา+by+ourslves

 

การใช้ สรรพนาม  They จะหมายถึงพวกเขา ซึ่งจะมีวิธีการนำไปแต่งประโยค เพื่อเขียนหรือพูดสื่อสารกับชาวต่างชาติ ดังตัวอย่างที่กล่าวมา หากสามารถท่องจำคำกริยาได้มาก การแต่งประโยคภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วย พวกเขา หรือ They /เดย์ ก็ไม่ยากเลย