ช่วงนี้ในเว็บไซต์ขายของ จะมีคอมพิวเตอร์มือสองใช้ Windows 7 มาขายหลายยี่ห้อ หลายรุ่น เป็นของมือสองจากญี่ปุ่น แต่เป็นยี่ห้อที่มี คุณภาพการผลิตที่ดี มีความทนทาน ไม่พังง่ายๆ หากเน้นเอาไว้ใช้งานทั่วไป ให้ลูกหลานเรียนออนไลน์ ดูวิดีโอยูทูป พิมพ์งาน ทำสไลน์ ไม่ใช้ งานหนักๆ อย่างตัดต่อวิดีโอ ทำกราฟิก เล่นเกม ก็จะใช้งานได้อีกนาน

 

แรกเริ่มผู้เขียนจะชอบคอมพิวเตอร์แบบประกอบเอง แต่ก็มักจะมีปัญหาตามมา จนเริ่มมาใช้คอมพิวเตอร์มือสองจากญี่ปุ่น ในระยะเวลา ประมาณ 10 ปีมานี้ ยังไม่มีปัญหาคอมพิวเตอร์เสียมารบกวนเลย รุ่นที่ซื้อมานั้นจะเป็น lenovo ThinkCentre ซื้อเมื่อปี 2012 ตอนนี้ปี 2021 ราคาขณะนั้น เกิน 5000 บาท ครบชุด ปัจจุบันผู้เขียนก็ยังใช้งานอยู่ เป็นเครื่องหลักที่ใช้ทำงาน ทำบทความลงเว็บไซต์ แต่งภาพ ตัดต่อวิดีโอบ้าง

 

สำหรับรุ่นนี้ปัจจุบันยังมีขายอยู่ ราคาประมาณ 2500 รวมจอภาพ สเปคเครื่องจะเป็น Intel Core2 Duo ความเร็ว 2.4 GHz แรม 2 GB ฮาร์ดดิสก์ 160 GB บางร้านก็จะถูกกว่านี้ สามารถเพิ่มแรมได้ถึง 8 GB ยังหาซื้อได้ แต่อาจจะเพิ่มไปแค่ 4 GB ก็ใช้งานได้อีกยาว

 

คอมพิวเตอร์มือสองรุ่นนี้ ติดตั้ง Windows 7 แต่ก็สามารถติดตั้ง Windows 10 แบบ 32 บิต ได้ เพียงแต่ควรเปลี่ยนไปใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ซึ่งจะทำให้เครื่องทำงานเร็ว ไหลลื่นมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหาคอมพิวเตอร์มือสองราคาไม่เกิน 3000 บาท ก็ใช้สเปคเครื่องผู้เขียน เป็นแนวทางก็ได้

 

จากประสบการณ์ในการใช้งานมาเกือบ 10 ปี กับเครื่องนี้ ก็พอจะมีคำแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังมองหาคอมพิวเตอร์มือสอง เป็น Windows 7 ในงบประมาณ 3000 บาทมาไว้ใช้ ดังนี้

 

เลือกยี่ห้อที่มีคุณภาพ

คอมพิวเตอร์มือสองเหล่านี้ ให้เลือกยี่ห้อต่างๆ เช่น Fujitsu, Dell, Lenovo, HP คุณภาพการผลิตดี วัสดุดี อย่าง Lenovo จากการใช้งานมาก เกือบ 9 ปีกว่า ยังไม่มีอุปกรณ์ใดภายในตัวเครื่องพัง หรือหมดอายุขัย

 

เครื่องเล็ก เครื่องใหญ่

ตัวเครื่องจะมี 2 แบบ เครื่องตัวใหญ่ เสียงเครื่องจะดัง เสียงพัดลม และความร้อนสูง เปิดเครื่องหน้าหนาว ห้องอุ่นสบาย แต่จะรองรับการติด ตั้งการ์ดจอ การ์ดเสียง หรือการ์ดอื่นๆ ได้อีกหลายช่อง จึงเหมาะสำหรับคนที่จะเน้นการปรับแต่ง เพิ่มการ์ดจอแรงๆ เอาไว้เล่นเกม หรือ ทำ งานกราฟิค

 

เครื่องเล็กบางๆ จะไม่รองรับการอัปเกรดมากนัก บางรุ่นเพิ่มการ์ดจอไม่ได้ แต่จะเป็นเครื่องที่เงียบกว่า เสียงพัดลม เวลาทำงานจะไม่ดัง ไม่ แผ่ความร้อนมากนัก เหมาะสำหรับเอาไว้ใช้งานทั่วไป ไม่เล่นเกมหนักๆ ไม่ตัดต่อวิดีโอ ไม่แต่งภาพ Photoshop หนัก เอาไว้ดูหนัง อ่านข่าว พิมพ์ งาน ทำสไลด์ เครื่องเล็กๆ แบบนี้ ยังประหยัดไฟฟ้าด้วยเช่นกัน

 

สเปคเครื่องที่จะต้องรู้

สำหรับสเปคเครื่องนั้น ผู้เขียนขอแนะนำจากการใช้งานจริงๆ โดยเฉพาะเครื่องที่สามารถติดตั้ง Windows 10 ได้ เพื่อใช้งานแทน Windows 7
1. ซีพียู เลือก Intel Core2 ขึ้นไป
2. เลือก Ram 2 GB ขึ้นไป
3. ยี่ห้อดังเท่านั้น เช่น Dell, Fujitsu, Lenovo, HP
4. ต้องมี DVD ไดรฟ์ เพราะหลายรุ่นบูทเครื่องจากแฟลชไดรว์ไม่ได้ ต้องบูทจากแผ่น DVD เพื่อใช้ในการติดตั้ง Windows ใหม่
5. เลือกผู้ขายที่แถมตัวรับไวไฟ เพราะเครื่องเหล่านี้จะไม่มีอุปกรณ์ตัวนี้ เอาไว้รับไวไฟเพื่อเล่นเน็ต
6. หากมีงบมากพอ แชทกับผู้ขาย เพื่อเพิ่มแรมสัก 4 GB คราวนี้ก็ใช้กันยาวๆ ลง Windows 10 ได้ ใช้งานไหลลื่นมากขึ้น

 

การดูแลเครื่องเบื้องต้น

หากตัดสินใจซื้อคอมพิวเตอร์มือสองเหล่านี้มาใช้งาน ก็มีคำแนะนำดังนี้
1. ดูแลซีดีรอมไดรฟ์ กดให้ถาดได้ขยับเลื่อนเข้าออกบ้าง เพื่อให้สายพานทำงาน และห้ามถอดเก็บอย่างเด็ดขาด เพราะสายพานที่เป็นยางจะ หมดสภาพ ผุกร่อน อุปกรณ์ตัวนี้มีความสำคัญ โดยเฉพาะในเครื่องที่ตั้งค่าให้บูทจากแฟลชไดรฟ์ไม่ได้ ถ้าไม่มีซีดีรอมไดรฟ์ ก็จะติดตั้ง Windows ไม่ได้


2. หากไม่ได้ใช้เครื่อง ก็ปิดบ้าง สักอาทิตย์ละครั้ง เพื่อป้องกันฮาร์ดดิสก์และจอเสียเร็วเกินไป
3.อย่าเปิดฝาเครื่องแบบนี้ ฝุ่นเข้าเครื่อง ก็จะทำให้แรมไม่ทำงาน

 

การอัปเกรดเพิ่มความแรงของเครื่อง

ในอนาคตหากมีงบมากขึ้น ก็สามารถอัพเกรดเครื่องให้แรงขึ้นได้ง่ายๆ ดังนี้
1. เปลี่ยนไปใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD จากตัวอย่างผู้เขียนได้ซื้อฮาร์ดดิสก์ SSD มาใช้ ขนาด 60 GB ราคา 408 บาท โดยติดตั้ง Windows การใช้ งาน Windows ทั้ง 7 และ 10 ไหลลื่นเป็นที่พอใจ สำหรับการใช้งานทั่วๆ ไป ส่วนฮาร์ดดิสก์ลูกเดิมติดมากับเครื่อง ก็ยังใช้งานได้ตามปกติ เน้น เอาไว้เก็บข้อมูล


3. เพิ่มแรมให้กับเครื่อง อย่าง Lenovo ThinkCentre เครื่องนี้มีแรม 2 GB ตัวละ 1 GB จะสามารถเพิ่มได้สูงสุด 8 GB เครื่องนี้ผู้เขียนคงจะไม่อัพ เกรด เพราะเบื่อมันแล้ว เสียงดัง และร้อน


3. ติดตั้งการ์ดจอเพิ่ม หากจะต้องใช้เครื่องทำงานที่หนักขึ้น เช่น ตัดต่อวิดีโอ แต่งภาพ เล่นเกมที่หนักขึ้น ก็หาซื้อการ์ดจอมาเพิ่ม การใช้การ์ดจอ ออนบอร์ดจะช้ากว่า

 

ปัญหาของคอมพิวเตอร์มือสอง

คอมพิวเตอร์มือสองเหล่านี้ แม้จะมีความทนทาน แต่ก็อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นบ้าง เช่น
1. ปัญหาจากความชื้นและฝุ่น จะทำให้แรมไม่ทำงาน สังเกตุได้จาก เวลาเปิดเครื่อง ไฟติด แต่จอภาพไม่ติด ก็ให้ถอดแรมออกมาทำความสะอาด ง่ายๆ ใช้ยางลบ ลบตรงลายทองแทง ถ้าในห้อง ในบ้าน มีความชื้นสูง ก็อาจจะมีปัญหาบ่อยๆ จากภาพมี 2 ตัวๆ ละ 1 GB


2. จอภาพจะเสียเร็ว จากการใช้งานมา 9 ปีกว่า จอตัวนี้เป็นตัวที่ 2 และดูเหมือนว่ากำลังจะไปอีกแล้ว หากโชคร้าย ได้เครื่องมาไม่นาน จอก็อาจ จะเสียก็ได้ แต่มีจอมือสองให้เลือกในราคา 500 บาทขึ้นไป เน้นยี่ห้อดังไว้ก่อนเช่นกัน เช่น Dell, HP, Compaq, Lenovo, IBM เป็นต้น


3. คีย์บอร์ดและเมาส์ อุปกรณ์ 2 ตัวนี้ ใช้งานบ่อย และถูกใช้งานหนักกว่าชิ้นส่วนอื่น ดังนั้นจึงมีโอกาสเสียเร็ว แนะนำของมือสองยี่ห้อดีๆ เช่น IBM, DELL, lenovo ในห้างไอทีบางร้านเอามาขาย 50 บาท ก็มี ทนทาน และใช้งานดีกว่า คีย์บอร์ดใหม่
4. Windows พังต้องลงใหม่ สำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้ไม่ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส หากใช้อินเตอร์เน็ต ก็จะมีโอกาสทำให้ Windows เสียหายได้ ต้องลงโปรแกรมใหม่
5. คอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่ จะมีปัญหาความร้อน ทำให้ห้องร้อน และเสียงดัง

 

สรุป

สำหรับคนงบน้อย หรือเน้นคอมพิวเตอร์มาไว้ใช้งานทั่วไป เรียนออนไลน์ งบประมาณ 3000 บาท ก็หาเครื่องดีๆ ไว้ใช้งานได้อีกนาน ซึ่งใช้ ประโยชน์ได้หลากหลาย อย่างผู้เขียนมีคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว ก็ใช้ทำงานหาเงินได้ อย่างการทำเว็บไซต์ นอกจากการใช้เพื่อความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง ถือว่าคุ้มค่ามาก และคอมพิวเตอร์เวลาเสียจะซ่อมได้ง่ายกว่าโน้ตบุ๊ค มีความทนทานกว่ามาก