จักรยานยนต์ครอบครัว Suzuki เป็นรถที่มีคุณภาพการผลิตที่ดี อาจจะไม่มีศูนย์ที่สะดวกในการซ่อม แต่รถก็มีความทนทาน ไม่พังง่ายๆ อย่างที่คิด จากประสบการณ์ใช้งานรถมือสอง อายุ 15 ปี เลขไมค์ประมาณ 128,845 กิโลเมตร ก็จะมีข้อมูลการซื้อ การซ่อมบำรุง การดูแลใช้งาน ที่อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้สนใจ งบน้อย อยากได้รถดีราคาถูกกว่าค่ายอื่น เพราะบางคนอาจจะกลัวเรื่องอะไหล่ หรือศูนย์ ซึ่งมีน้อยมาก

 

การซื้อรถมือเตอร์ไซค์มือสอง มีโอกาสได้รถดี ประหยัดเงิน ไม่มีปัญหาจุกจิก กวนใจ หากรู้จักเลือก ไม่ต้องซื้อรถใหม่หลายหมื่นบาท อย่างคันนี้ Suzuki Shogun ปี 2551 ซื้อมา 9000 บาท เท่านั้น ใช้งานได้ดี ขับทางไกล ประจวบคีรีขันธ์ - ปราจีน / ปราจีนบุรี - บุรีรัมย์ ได้สบาย ไม่มีปัญหาอะไร ความเร็วสูงสุดสำหรับรถอายุ 15 ปี ยังทำได้ที่ 110 และ 120 (หมอบ)

 

 

 

ทำไมต้องรถ Suzuki

รถคันแรกที่เคยใช้ เป็น Suzuki RC80 จึงชอบในเรื่องคุณภาพ ความทนทาน ในขณะที่รถมือสอง ก็จะมีราคาถูกกว่ายี่ห้อยอดนิยมอย่าง Honda ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับใครที่อยากจะได้รถที่คุ้มค่า ไม่ต้องจ่ายแพง และเน้นใช้งานยาวๆ คันนี้ใช้งานมา 6 ปี ไม่มีปัญหาอะไร แม้ว่าตอนที่ได้รถมานั้นเลขไมค์จะมากถึง 106,800 กิโลเมตร หมุนไปรอบหนึ่งแล้วก็ตาม

 

รายจ่ายที่ตามมากับรถจักรยานยนต์ครอบครัวยี่ห้อ Suzuki ค่อนข้างน้อย เพราะมีความทนทาน ไม่มีปัญหาจุกจิกในการใช้งาน ไม่มีระบบที่ซับซ้อน จึงไม่ต้องกังวลกับการซ่อม จะมีบ้างก็จะเป็นซ่อมบำรุงตามระยะทางเท่านั้น อย่างการถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่อง กรองอากาศ เปลี่ยนแบตเตอรี่ ซึ่งอะไหล่สามารถสั่งซื้อจากเน็ตหรือสั่งซื้อจากศูนย์ก็ได้ จากนั้นก็หาร้านซ่อมใกล้บ้าน

 

รุ่นต่างๆ ของจักรยานยนต์ Suzuki มือสอง

สำหรับรถยี่ห้อนี้จะมีไม่กี่รุ่นเท่านั้น เช่น


1. Suzuki Shogun เครื่องยนต์ 125 cc.
รุ่นนี้เครื่องยนต์ใหญ่มีทั้งแบบหัวฉีด และ คาร์บูเรเตอร์ แบบหัวฉีดจะประหยัดน้ำมันมากกว่ารุ่นเครื่องยนต์คาร์บูเรเตอร์ รุ่นนี้เหมาะสำหรับใช้เดินทางระยะไกล ขับไปทำงาน ถนนโล่งๆ ไม่ชะลอ หรือ หยุดรถบ่อย เน้นขับยาวๆ

ส่วนรุ่นคาร์บูเรเตอร์ รุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถไม่บ่อย ใช้ในระยะทางใกล้ๆ ไม่เช่นนั้นจะต้องจ่ายค่าน้ำมันแพงกว่าเพราะเครื่องใหญ่ กินน้ำมันประมาณ 30 กว่าๆ กิโลเมตรต่อลิตร น้ำมันเต็มถังขับได้ประมาณ 150 กิโลเมตร  ขับระยะทางใกล้ๆ อย่าใช้ความเร็วสูง ก็พอจะช่วยประหยัดน้ำมันได้บ้าง แต่การเดินทางไกลจะประหยัดกว่า การขับใช้งานในระยะทางใกล้ๆ ชะลอ หรือ หยุดรถบ่อย กินน้ำมัน การเดินทางไกลจะทำได้ประมาณ 45 กิโลเมตรต่อลิตร


รุ่นนี้สามารถขับรถแบบเกียร์ออโต้ได้โดยไม่ต้องบิดคันเร่ง เผื่อมือขวาไม่ว่าง ก็ใช้มือซ้ายข้างเดียวได้ ดูวิดีโอด้านล่าง

 

ทั้งสองรุ่นนี้ ด้วยเครื่องยนต์ที่ใหญ่มากถึง 125 cc. จึงใช้ขับทางไกลข้ามจังหวัดหลายร้อยกิโลเมตรได้สบายๆ การทรงตัวดี ไม่มีปัญหาเมื่อสวนทางกับรถใหญ่ รถบัส ตัดลมได้ดี ขับทางไกลไม่เหนื่อย ไม่เมื่อยมือ เพราะเครื่องยนต์มีระบบกันสั่น กำลังเครื่องแรงพอสำหรับการเร่งแซง แต่รถค่อนข้างหนัก เมื่อขึ้นคร่อมเบาะแล้วต้องระวังล้มพับ


ส่วนราคารถมือสอง สำหรับรุ่นคาร์บูเรเตอร์ประมาณ 10,000-15,000 บาท อย่างรุ่นนี้ 10,000 บาท ไม่เน้นใช้รถบ่อย ขับไม่มาก ไม่อยากเสียเงินไปกับรถมาก ก็ใช้รุ่นนี้


ส่วนรุ่นหัวฉีดจะมีราคาสูงกว่า ประมาณ 15,000 บาทขึ้นไป หลายคันเลขไมล์ยังไม่มาก ใช้งานได้อีกนาน เกิน 10 ปี เพราะเครื่องยนต์ค่อนข้างทนทาน ใช้งานได้เกิน 100,000 กิโลเมตร สบายๆ


2. Suzuki Smash เครื่องยนต์ 110 - 115 cc.
รุ่นนี้ตัวรถเล็กว่า น้ำหนักเบากว่า ขนาดเครื่องยนต์จะเล็กกว่า ประหยัดน้ำมัน ใช้รถมาก ขับบ่อย ควรใช้รุ่น Smash ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบหัวฉีดและคาร์บูเรเตอร์ รุ่นต่างๆ ก็จะมี Smash D, Smash Junior, Smash Revo, Smash Pro, Smash 110, New Smash รุ่นล่าสุด ส่วนราคาก็เริ่มตั้งแต่ ไม่ถึง 10,000 บาท ขึ้นไป

Suzuki Smash รุ่นเก่า คาร์บูเรเตอร์
รุ่นนี้จะเป็นรุ่นแรกๆ เช่น Smash D, Smash Junior, Smash Revo, Smash Pro เหมาะสำหรับใครที่ไม่ชอบรถที่จุกจิก ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าบำรุงรักษา หัวฉีด ปั๊มติ๊ก (ถอดเปลี่ยนกรองทำความสะอาด) แบบรถรุ่นใหม่ ใช้รถไม่บ่อย ไม่อยากจ่ายเงินมากเกินไป ราคาเริ่มต้นไม่ถึง 10,000 บาท ขึ้นไป

 

Suzuki NewSmash 110
รุ่นนี้มีแฟริ่งบังลมจะเป็นเหลี่ยมๆ ไม่โค้งมนเหมือนรุ่นก่อนหน้า ใช้เครื่องยนต์ 113 cc. มีชื่อเสียงในเรื่องความทนทานและคุ้มค่า ระบบจ่ายเชื้อเพลิงเป็นแบบคาร์บูเรเตอร์ ดูแลง่าย ราคามือสองตอนนี้อยู่ประมาณ 15,000 บาทขึ้นไป หารถสภาพดี สภาพสวยได้ไม่ยาก

Suzuki

 

Smash FI 115
Smash รุ่นใหม่ ราคาสูงยังสูงอยู่ แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ช่วยประหยัดเงินหลักหมื่นบาท เมื่อเทียบกับการซื้อรถใหม่ป้ายแดง ราคาสูงแต่หารถสวยและสภาพดีได้ไม่ยาก เน้นใช้ยาวๆ และมีงบมากพอ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปแน่นอน

 

3. SuzukiShooter เครื่องยนต์ 115 cc.
เป็นรถจักรยานยนต์ครอบครัว Suzuki อีกรุ่นที่มีหน้าตาคล้ายกันกับ Smash FI 115 ออกมาทำตลาดแค่ช่วงสั้นๆ แล้วก็หยุดไป เป็นรุ่นที่ออกแบบได้สวยงาม

เลือกรถรุ่นไหนดี

สำหรับใครที่สนใจอยากจะได้รถจักรยานยนต์ครอบครัว Suzuki มือสอง ไว้ใช้งาน การจะตัดสินใจเลือกสักรุ่น ก็มีข้อควรพิจารณาต่างกันไป เช่น
1. เน้นใช้งานในระยะทางใกล้ๆ ไม่อยากจ่ายแพง ก็ต้องเป็น Suzuki Smash รุ่นแรกๆ D, Junior, Revo เครื่องยนต์เล็ก ประหยัดน้ำมัน ระบบไม่ซับซ้อนดูแลง่าย
2. ใช้งานไม่มาก ขับน้อย ขับระยะทางใกล้ๆ แต่เผื่อไว้เดินทางไกลได้อย่างผู้เขียน ก็จะเลือก Suzuki Shogun แบบคาร์บูเรเตอร์ ด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับการเดินทางไกล เช่น ทรงตัวดี ขับนุ่ม เข้าเกียร์นิ่ม เครื่องยนต์มีระบบบาลานซ์ เครื่องไม่สั่น รถไม่สั่น มือไม่ปวดเมื่อยมาก ขับทางไกลไม่เหนื่อย ไม่เมื่อยมาก เครื่องยนต์ 125 cc. แรงพอสำหรับการทำความเร็ว เร่งแซง ราคารถมือสองเริ่มต้นไม่ถึง 10,000 ไม่เสียดายเงิน เพราะไม่ต้องจ่ายมาก แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับคนใช้รถมาก เพราะกินน้ำมัน
3. เน้นใช้รถมากทั้งเดินทางไกล ใกล้ ก็ควรพิจารณา New Smash 110 หรือ Smash 115 Fi เครื่องยนต์รุ่นใหม่ แรง ประหยัดน้ำมัน เดินทางไกลก็ได้ แต่ราคารถก็แพงกว่าเช่นกัน เหมาะสำหรับผู้ที่คิดจะใช้งานกันยาวๆ และมีงบมากพอ
4. เน้นรถที่ปัญหาน้อย ก็ต้องเลือกรุ่นคาร์บูเรเตอร์ ไม่จุกจิก ไม่ต้องดูแลมากเหมือนหัวฉีด เสียที่ไหนก็ซ่อมไม่ยาก

 

การค้นหารถในเน็ต

การหารถในเน็ต ค้นหาในมือถือผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ได้เลย เช่น kaidee.com, smokybike.com
1. ตัวอย่างการค้นหารถจักรยานยนต์ Suzuki มือสอง ในมือถือเข้าแอป Chrome
2. แตะค้นหา พิมพ์ รถจักรยานยนต์มือสอง Suzuki แล้วแตะ ->
3. ในผลการค้นหาแตะเลือกเว็บไซต์ที่ต้องการ เช่น kaidee.com, Smokybike.com ...

4. เลื่อนค้นหารถ หรือ แตะและพิมพ์ชื่อรุ่นรถในช่องค้นหา ก็ได้
5. แตะเลือกรถที่ต้องการดูข้อมูล
6. ตัวอย่างข้อมูลรถ ซึ่งรถที่มีขายอาจจะแยกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ก็คือ
- เจ้าของรถขายเอง
- ร้านขายรถมือสอง

 

การหาข้อมูลร้านซ่อมหรือศูนย์รถใกล้บ้าน

รถจักรยานยนต์ครอบครัวยี่ห้อนี้ทนทานไม่มีปัญหาจุกจิกอะไร การซ่อมก็จะเป็นการซ่อมบำรุงตามระยะทางเท่านั้นเอง เปลี่ยนกรองน้ำมัน น้ำมันเครื่อง แบตเตอรี่ กรองอากาศ ซึ่งสามารถทำเองได้ แต่การหาข้อมูลร้านซ่อม หรือ ศูนย์ใกล้บ้าน อาจจะเพื่อที่จะซ่อมใหญ่ เมื่อได้รถมาแล้วนั่นเอง โดยจะเป็นการซ่อมครั้งแรก จัดชุดใหญ่ ไปเลย เช่น เปลี่ยนยางใน (ยางในอาจหมดสภาพ เก็บลมไม่ค่อยอยู่) เปลี่ยนยางนอก เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตรวจสอบระบบไฟฟ้า แบตเตอรี่ ผ้าเบรก ดรัมเบรก หลังจากนั้นก็แทบจะไม่ต้องทำอะไร นานๆ ที ไปถ่ายน้ำมันเครื่อง ตามระยะทาง
1. ตัวอย่างการค้นหาข้อมูลร้านซ่อม หรือ ศูนย์รถใกล้บ้าน แตะเปิดแอป Google แผนที่ในมือถือ
2. แตะและพิมพ์คำค้นหา เช่น จักรยานยนต์ Suzuki หรือ ศูนย์ ร้านซ่อม
3. ตัวอย่างข้อมูล ซูมเพื่อขยายดูรายละเอียดได้
4. การค้นหาข้อมูลนั้นมีประโยชน์มาก อาจจะดูว่า รถที่ลงประกาศขายอยู่ที่ใด จังหวัดใด ก็ทำการค้นหาศูนย์บริการรถในพื้นที่นั้นๆ เพื่อจะได้นำไปเข้าไปใช้บริการเบื้องต้น การซ่อมกับร้านทั่วไป ที่ไม่ใช้่ศูนย์บริการจะคิดใช้จ่ายแพงกว่า ซื้ออะไหล่มาเอง ก็จะเจอกับค่าแรงแพง ไม่ซื้ออะไหล่เอง ก็จะบวกเพิ่มทั้งค่าอะไหล่ ค่าแรง รถจักรยานยนต์ Suzuki ต้องเน้นซ่อมศูนย์ สำหรับการซ่อมใหญ่ครั้งแรก จากนั้นก็ใช้กันยาวๆ เพราะระบบไม่ซับซ้อน ปัญหาน้อย

 

การหาข้อมูลอะไหล่ คู่มือรถ

อะไหล่ คู่มือรถมีให้ดาวน์โหลด จากเน็ต กรณีพื้นที่อยู่อาศัยไม่มีศูนย์บริการรถจักรยานยนต์ Suzuki ก็จำเป็นจะต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไหล่ที่จำเป็น เช่น กรองน้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องเฉพาะรุ่นนั้นๆ เน้นตามที่ศูนย์บริการใช้ อาจจะสั่งซื้อจากศูนย์ Suzuki โดยตรงเลยก็ได้
1. ตัวอย่างการค้นหาข้อมูลอะไหล่ เข้าแอป Google Chrome
2. ค้นหาข้อมูลพิมพ์ รถจักรยานยนต์ Suzuki อะไหล่
3. ในผลการค้นหา อาจจะเข้าไปค้นในเว็บไซต์ lazada, shopee ก็ได้
4. หรือจะเข้าไปดูในเว็บไซต์ของ Suzuki เองเลยก็ได้ thaisuzuki.co.th

5. ตัวอย่างข้อมูลในเว็บไซต์ Lazada มีอะไหล่ให้เลือก สั่งออนไลน์ได้เลย ทั้งอะไหล่แท้เทียม
6. ตัวอย่างการค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ของ Suzuki โดยตรง แตะเลือก ลูกค้าทั่วไป
7. แตะเลือกค้นหาข้อมูลอะไหล่ เช่น Family bike รถจักรยานยนต์ครอบครัว เลือกรุ่น Shogun ปี แล้วทำการค้นหา

8. จะมีการแยกข้อมูลอะไหล่อย่างละเอียด สั่งซื้อเองได้ หากแถวบ้านไม่มีศูนย์รถ Suzuki ก็จัดการแคปหน้าจอเอาไว้ ให้ช่างดูเป็นแนวทางในการแกะเครื่อง รื้อรถเพื่อทำการซ่อม

 

การซื้อรถผ่านเน็ต

เมื่อตัดสินใจจะซื้อรถรุ่นนี้ ก็จะมีทางเลือก 2 ทางด้วยกัน คือ ซื้อกับบุคคลทั่วไป และ ร้านรถมอเตอร์ไซค์มือสอง

การซื้อรถจักรยานยนต์กับบุคคลทั่วไป
กรณีนี้ก็นัดคุยกัน เจอกัน เพื่อดูรถ เน้นลูกค้าผู้ใหญ่ ไม่ใช่วัยรุ่น เลือกรถเดิมๆ เท่านั้น อย่าซื้อรถแต่ง และเมื่อได้รถมาแล้ว การโอนกรรมสิทธิ์ก็นำรถไปที่ขนส่ง หรือ ร้านตรวจสภาพรถ ตรอ ใกล้บ้าน ส่วนใหญ่จะมีบริการจัดการเรื่องการโอนรถ ไม่ต้องเสียเวลาจัดการเอง สะดวกสำหรับคนที่ไม่อยากลาหยุดงานไปสำนักงานขนส่งด้วยตัวเอง

การซื้อรถจักรยานยนต์กับร้านมอเตอร์ไซค์มือสอง
การซื้อรถกับร้านเหล่านี้อาจจะได้รถที่สภาพสวยกว่า หรือขายตามสภาพ มีตัวเลือกมาก ราคาอาจจะแพงกว่า แต่จะมีบริการต่างๆ ที่สะดวกกับผู้ซื้อ เช่น จัดไฟแนนซ์ได้ มีบริการทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ให้เสร็จสรรพ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่สะดวกสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาไปดูรถ ไปทำเรื่องโอนรถ เลือกรถผ่านเน็ต โอนเงิน ให้ทางร้านยกใส่กระบะมาส่งให้ถึงบ้าน มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า แต่สะดวก

 

การซ่อมบำรุงและดูแลรถจักรยานยนต์มือสอง

รถจักรยานยนต์ครอบครัว Suzuki ค่อนข้างทนทาน ไม่มีปัญหาอะไร แต่
1. เมื่อได้รถมาแล้ว ในครั้งแรกแนะนำให้ซ่อมชุดใหญ่ หรือตามคำแนะนำของศูนย์ ถ้ามีศูนย์ใกล้บ้าน ก็ขับรถเข้าศูนย์ หรือไม่ก็เลือกร้านซ่อมใกล้บ้านโดยสั่งซื้ออะไหล่เอง เริ่มต้นใหม่ พร้อมกับจดบันทึกการซ่อมบำรุงเก็บเป็นข้อมูลเอาไว้
2. การใช้งาน ต้องเน้นเดิมๆ อย่าปรับแต่ง อย่าถอด อย่ารื้อ อย่าจอดตากแดด ตากฝน หมั่นเช็ดล้าง ถนอม ไม่ขับผาดโผน แค่นี้รถก็จะอยู่ในสภาพดีไปอีกนาน
3. การซ่อมบำรุงทุก 3,000 กิโลเมตร อาจจะทำเร็วกว่านั้น ประมาณ 2,000 กิโลเมตร ก็พอ เพื่อให้เครื่องยนต์อยู่ในสภาพดี ใช้งานได้นานๆ

 

เครื่องมือซ่อมบำรุง ของใช้ติดรถเบื้องต้นที่ต้องมี

การใช้รถมอเตอร์ไซค์ Suzuki หรือจะเป็นรุ่นอื่นก็ตาม ควรมีเครื่องมือไว้ซ่อมบำรุงและดูแลรถติดบ้าน ทำเองไม่ได้ ก็ให้คนอื่นช่วยได้ เช่น 1. ที่สูบลมยาง พกพาได้ ขนาดเล็ก พกติดรถ ติดกระเป๋าได้สบายๆ พกติดรถไว้ช่วยเหลือคนอื่นก็ได้นะ


2. ประแจ ไขควง เอาไว้ซ่อมเล็กๆ น้อยๆ เช่น ปรับกระจกมองหลัง ติดป้ายทะเบียน ขันน็อตให้แน่น ถอดหัวเทียน ไฟฉายไว้ติดรถ เผื่อเดินทางกลางคืน ไฟหน้ารถดับ หรือกรณีใส่ของในตะกร้าหน้า ทำให้บังโคมไฟหน้ารถ เป็นต้น
3. น้ำมันหยอดโซ่มอเตอร์ไซค์ เผื่อติดรถเดินทางไกลๆ
4. ส่วนของใช้ติดรถเบื้องต้นที่ควรมี เผื่อเดินทางไกล ไปทำธุระนอกสถานที่ เช่น ร่มพับได้ เก้าอี้พับขนาดเล็ก ใหญ่กว่ามือถือเล็กน้อย เสื้อกันฝน

 

สรุป

รถจักรยานยนต์มือสองเป็นพาหนะในการเดินทางพื้นฐาน ไว้ใช้งานใกล้ ไกล ค่าใช้จ่ายต่ำกว่ารถยนต์ แม้จะต้องทนกับแดดฝนสักหน่อย แต่ก็ช่วยประหยัดเงินได้อย่างมาก การซ่อมบำรุงไม่สูง ค่าใช้จ่ายรวมทั้งปี น้อยมากเมื่อเทียบกับรถยนต์ สำหรับคนที่เน้นใช้รถให้พังไปข้าง ไม่คิดขายต่อ Suzuki มือสอง เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ราคารถมือสองไม่แพง เน้นรถเก่าไม่เกิน 10,000 บาท ซ่อมบำรุงให้เต็มที่ให้เหมือนเดิมจากโรงงานมากที่สุด ก็จะได้รถดีไว้ใช้งานอีกนาน

รถใหม่สวยก็จริง แต่การผ่อน รถบางคันก็แพงมาก โดยเฉพาะการผ่อนแบบฟรีดาวน์ บางคนผ่อน Honda Wave เดือนละ 2500 บาท จำนวน 48 งวด รวมเป็นเงิน 120,000 บาท เวรกรรม ช่วงโควิดแบบนี้ งานไม่ดี ลำบากนะ หากเลือกรถมือสองไม่เกิน 15,000 บาท ก็มีรถสภาพดีให้เลือกและใช้งานได้เหมือนกัน กับการใช้งานแค่ระยะทางใกล้ๆ ในพื้นที่ ไม่เกิน 10 กิโลเมตร ได้รถใหม่ สวย แต่ไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายออกไป และความเครียดกับเงินที่ต้องหามาจ่ายในแต่ละเดือนจนกว่าจะครบ 4 ปี ไม่พร้อม มันทุกข์มากจริงๆ นะ