เปลี่ยนการออกกำลังกายให้เป็นรายได้ เปลี่ยนความชอบ สิ่งที่รักให้เป็นรายได้ หากใครสามารถทำได้ ก็จะมีชีวิตที่มีความ สุขมากกว่าใครอย่างแน่นอน การได้ทำสิ่งที่ชอบ ทำแล้วมีความสุข หากทำแล้วได้เงินด้วย มีรายได้ ก็จะยิ่งมีความสุขมากยิ่งขึ้น บางคน ชอบท่องเที่ยว แบกเป้เที่ยวทั่วประเภท ถ่ายวิดีโออัพโหลดเข้า Youtube รับเงินหลักหมื่นหลักแสนบาทต่อเดือน ทำงานก็เหมือนไม่ได้ทำ เพราะสนุกกับงาน

 

 

หัวข้อทั้งหมดในบทความนี้

  • ศึกษาความรู้พื้นฐานสำหรับการทำงานด้านนี้
  • งานในลักษณะนี้มีรายได้หลักมาจากทางใด
  • สำรวจความชอบของตัวเอง
  • การศึกษาและพัฒนาตัวเอง
  • ขั้นตอนการลงมือทำงาน
  • ขั้นตอนการเผยแพร่ข้อมูลหรือทำการตลาด
  • ขั้นตอนการสร้างรายได้
  • โอกาสประสบความสำเร็จกับการทำสิ่งที่ชอบให้เป็นรายได้

 

ศึกษาความรู้พื้นฐานสำหรับการทำงานด้านนี้

ทุกวันนี้การทำงานหาเงิน ง่ายกว่าเดิมมาก ไม่จำเป็นต้องเป็นพนักงาน ไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร เพียงแต่ต้องฝึกฝนพื้นฐานการเตรียม ตัวทำงานส่วนตัวหรือทำงานอิสระให้พร้อมเท่านั้นเอง เช่น
- เรียนรู้การถ่ายวิดีโอ
- เรียนรู้ตัดต่อวิดีโอผ่านมือถือ คลิปวิดีโอต้องทำเป็น ทำเองได้
- เรียนรู้การทำเว็บไซต์ ทำเว็บไซต์เบื้องต้นได้
- ศึกษาวิธีการโปรโมท โฆษณา มีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Adword การทำโฆษณาใน Facebook
- ศึกษาการทำสื่อแบบต่างๆ เช่น วิดีโอ บทความ สไลด์ ฯลฯ
- ศึกษาการเขียนบทความ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญเลยทีเดียว บทความเป็นสื่อสำคัญช่วยแนะนำสินค้าหรือบริการที่มีอยู่ให้คนอื่น รู้จัก
- ศึกษาการทำ eBook เพื่อนำความรู้ไปเขียนเป็นหนังสือ

 

แต่ละด้านยังมีรายละเอียดอีกมาก ต้องใช้เวลาศึกษาพอสมควร เมื่อพร้อมแล้ว การเปลี่ยนความชอบให้เป็นเงิน ก็จะเป็นเรื่องง่าย ทันที ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ขอเพียงมีสัญญาณมือถือ ก็จะสามารถทำงานได้ทุกที่ เปลี่ยนความชอบ งานที่รักให้เป็นเงิน ผู้เขียนเป็นนัก เขียน ชอบเขียน นั่งเขียนได้ทั้งวัน รายรับหลักก็จะมาจากโฆษณาที่แสดงในเว็บไซต์ นี่คือตัวอย่างการเปลี่ยนความชอบในการเขียนให้ เป็นรายได้ ปลายเดือนก็จะมีเงินโอนเข้ามาทุกเพือนจาก Google Adsense เป็นต้น

 

นี่คือตัวอย่างการสร้างรายได้จากความชอบ ซึ่งผู้เขียนก็กำลังต่อยอดด้วยการทำเว็บไซต์เพิ่มเรื่อยๆ นำเนื้อหาไปทำวิดีโอ ก็จะมี โอกาสสร้างรายได้เพิ่มเรื่อยๆ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ก็จะใช้ชีวิตแบบสบายๆ มากยิ่งขึ้น มีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น ตื่นเช้า ขึ้นมาเขียนบทความ เบื่อก็หยุด เหนื่อยก็พัก

 

 

งานในลักษณะนี้มีรายได้หลักมาจากทางใด

การเปลี่ยนงานที่ชอบให้เป็นรายได้ จะมีช่องทางสร้างรายได้หลักๆ ประมาณ 4 ทางเช่น

1. รายได้จาก Google Adsense

ในเรื่องรายได้นั้น จะมีช่องทางที่ง่ายที่สุด ก็คือการเข้าร่วมกับ Google Adsense นั่นเอง เป็นวิธีหาเงินที่ง่ายที่สุด อย่าง การทำเว็บไซต์หาเงินกับ Adsense ที่ผู้อ่านกำลังอ่านบทความนี้ ก็จะเป็นการทำบทความลงเว็บไซต์ เมื่อมีคนเข้ามาชมและคลิกป้าย โฆษณาก็จะมีรายได้ ซึ่งบริการของ Google Adsense ยังมีอีกหลายช่องทาง อย่าง Youtube ก็เช่นกัน สามารถติดป้ายโฆษณา Adsense หรือแอปต่างๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน รายรับด้านนี้เป็นรายรับพื้นฐาน หากสมัครเป็นสมาชิกผ่านแล้ว ก็จะสามารถสร้างรายได้ ทันที

 

2. รายได้จาก สปอนเซอร์ แบนเนอร์ ผู้สนับสนุน

ส่วนรายรับทางอื่นก็ยังมีอีกหลายข่องทาง เช่น สปอนเซอร์ อย่างการท่องเที่ยว บางทีก็มีรีสอร์ท โรงแรม ร้านอาหาร ที่จ้างให้รีวิวร้าน บางคนทำวิดีโอเดือนละ 3-4 คลิปเท่านั้น แต่รับเงินหลักแสนต่อเดือน

 

3. การขายสินค้าของตัวเอง

บางคนชอบปั่นจักรยานมาก พร้อมกับขายสินค้าเกี่ยวกับจักรยาน ของแต่ง เสื้อผ้า ส่วนตัวเองก็ตะลอนเที่ยวปั่นจักรยานทั้งใน ประเทศไทยและต่างประเทศ เปิดเว็บไซต์มีคนรับออร์เดอร์ และจัดส่งสินค้า เที่ยวอย่างมีความสุข แต่มีรายได้เข้ามาทุกเดือน บางคนก็ มีร้านค้า ร้านอาหาร รีสอร์ท ฯลฯ เป็นของตัวเอง ก็ใช้วิดีโอหรือบทความแนะนำให้คนมาใช้บริการ

 

4. รายได้จากช่องทางอื่น

ยังมีช่องทางสร้างรายได้อีกหลายวิธี เช่น การเป็นวิทยากร เปิดอบรม การโชว์ตัว ฯลฯ บางคนก็พอใจแค่นั้น ไม่ต้องการออกสื่อ เพราะจะเสียความเป็นส่วนตัว ขอแค่พอมีพอใช้ แล้วเอาเวลาที่เหลือไปหาความสุข ทำในสิ่งที่อยากจะทำ

 

การเน้นรายได้ที่ไม่ต้องไปจัดการอะไรมากนัก ระบบจัดการให้เองอย่าง Google Adsense ก็จะไม่ต้องไปวุ่นวายอะไรมาก อย่างบาง คนทำวิดีโอสอนเล่นกีตาร์ ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำวิดีโอสอนอย่างเดียว ไม่ต้องไปคิดเรื่องการหาลูกค้า เพียงแต่ทำวิดีโอให้ดีที่สุดเท่านั้น เอง

 

 

สำรวจความชอบของตัวเอง

ใครที่สามารถค้นพบความชอบและสามารถทำตามฝันได้ก่อน โอกาสประสบความสำเร็จย่อมจะเกิดได้เร็วกว่า เวลาผ่าน คนเราอาจ มีวันเปลี่ยน แต่การได้ทำอะไรอย่างเต็มที่ หากทำอย่างเป็นระบบและประสบความสำเร็จด้วยแล้ว ก็เย่อมจะเกิดประสบการณ์ที่ดี ใน อนาคต การทำงานอะไรก็ตามก็ย่อมประสบความสำเร็จเช่นกัน เพราะมีการทำงานอย่างเป็นระบบ

 

เด็กบางคนเรียนจบ ม.6 แต่ไม่เรียนต่อ เพราะรู้ตัวว่าตัวเองไม่ฉลาด ไม่เก่ง จึงเลือกที่จะเป็นชาวนา ชาวสวน จากนั้นก็ลุยเต็มที่ ทำ ตามฝันของตัวเอง กว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันเรียนจบปริญญาตรี ตัวเองก็อาจจะไปไกลแล้ว ในเรื่องงาน แต่ไม่ว่าจะชอบในเรื่องใดก็ตาม การ เปลี่ยนความชอบ ความถนัดให้เป็นอาชีพสร้างรายได้ ทุถวันนี้มีการแชร์ประสบการณ์กันมากมาย ให้ศึกษาเป็นตัวอย่าง

 

การศึกษาและพัฒนาตัวเอง

เมื่อรู้ว่าตัวเองชอบอะไร ถนัดเรื่องอะไร ก็เริ่มศึกษาหาความรู้ในเรื่องนั้นอย่างจริงจัง และศึกษาความรู้พื้นฐานในการผลิตสื่อแบบ ต่างๆ เพื่อไว้ใช้สร้างรายได้ อาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร โดยการศึกษานั้น ก็จะแยกเป็น 2 แบบด้วยกัน คือศึกษาด้วยตนเองและ ศึกษาจากการลงคอร์สหลักสูตรเร่งรัด


ตัวอย่างเช่น เป็นคนชอบวาดการ์ตูนและตั้งใจจะทำสติ๊กเกอร์ Line ไว้ขาย การศึกษาเอง จะต้องทำอะไรเองทุกอย่าง ทั้งการหาข้อมูล การลองผิดลองถูก กว่าจะประสบความสำเร็จย่อมใช้เวลานานกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการลงคอร์ส ซึ่งทางผู้สอน ได้ทดลองทำ มี ประสบการณ์จริง แล้วนำมาเรียบเรียงเป็นคอร์ส จัดลำดับเนื้อหาที่ควรรู้ก่อนหลัง อย่างเป็นระบบ อาจจะมีงานจริงให้ลองทำ ได้ ประสบการณ์จริง

คนไทยเรานั้นส่วนใหญ่มองว่า อินเตอร์เน็ตเป็นของฟรี อะไรที่คิดเงิน จะไม่ใช้บริการ แต่หากคิดจะทำอะไรที่เป็นธุรกิจแล้ว ของฟรี จะทำให้เสียเวลา เพราะของฟรี ความรู้ฟรี จะไม่มีการจัดเรียงให้เป็นระบบระเบียบ อีกทั้งไม่มีบริการสอบถามปัญหา บริการหลังการขาย ค่อนข้างจะเสียเวลากับการศึกษาเองมากกว่า อย่างการทำสติ๊กเกอร์ Line การลงคอร์สอาจจะใช้เวลาไม่กี่วัน แต่การศึกษาเองอาจจะใช้ เวลาเป็นเดือน ดังนั้นต้องรู้จักแยกแยะ อะไรควรลงทุนก็ต้องกล้าเสี่ยง จะไม่เสียเวลา เพราะเดินทางลัด

 

ขั้นตอนการลงมือทำงาน

การทำงานตามความชอบ เปลี่ยนงานอดิเรกให้เป็นรายได้ จะมีโอกาสประสบความสำเร็จหรอืไม่ ต้องรู้จักวางแผนและสิ่งสำคัญที่สุด ก็คือ การลงมือทำงาน เช่น
1. หากเป็นงานฝีมือ งานประดิษฐ์ งานศิลปะ งานที่มีเป็นรูปธรรมจับต้องได้ ก็จัดการสร้างชิ้นงาน สร้างผลงานไว้ให้มากๆ เท่าที่จะทำได้ เพราะหากสามารถขายได้ ก็จะได้เงินก้อน มีโอกาสนำเงินไปต่อยอด ขยายกิจการได้ บางคนซื้อเศษผ้าจากโรงงานมาทำเสื้อผ้าเด็ก ปลายปีปล่อยขายที ครั้งละ 2000-3000


2. หากเป็นงานนำเสนอข้อมูล อย่างการทำบทความลงเว็บไซต์แบบนี้ หรือทำวิดีโอก็ต้องจัดทำวิดีโอ เตรียมไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ อย่างน้อยก็ควรจะเกิน 500 เรื่องหรือ 500 คลิป
3. ผลิตผลงานชิ้นเอกสักชิ้น แล้วหาผู้ผลิตรองรับให้พร้อม สินค้าเพียงตัวเดียวชิ้นเดียวก็รวยได้ เพียงแต่ต้องทำแม่แบบไว้ก่อน แล้วนำ แม่แบบมาทำการตลาด โฆษณาขาย ติดต่อผู้ผลิตไว้หลายๆ เจ้า หากทำตลาดแล้วมียอดจองมาก จะไม่มีปัญหาในเรื่องการผลิต

 

การผลิตผลงาน สร้างงานจำนวนมาก มีโอกาสประสบความสำเร็จมากที่สุด อย่างการทำเว็บไซต์หาเงินกับการคลิกโฆษณาแบบนี้ หรือการทำวิดีโอ แต่หากเป็นสินค้าบางอย่าง ก็ไม่จำเป็น มีสินค้าเพียงชิ้นเดียวก็พอ เน้นทำการตลาดอย่างเดียว ก็พอ

 

ขั้นตอนการเผยแพร่ข้อมูลหรือทำการตลาด

ขั้นตอนนี้จะเป็นการนำสินค้า สื่อ คลิปวิดีโอหรือข้อมูลที่จะนำไปเผยแพร่หรือทำการตลาดเพื่อสร้างรายได้ เช่น

1. การจัดทำเว็บไซต์

เว็บไซต์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างรายได้ในปัจจุบัน เพราะเว็บไซต์สามารถเก็บข้อมูลที่ต้องการให้ผู้สนใจได้เข้ามาค้นหาได้ตลอด เวลา โดยมีต้นทุนต่ำมาก ตั้งแต่ฟรีจนถึงประมาณ 600 กว่าบาทต่อปีเท่านั้นเอง ตัวเว็บไซต์นอกจากจะไว้เผยแพร่ข้อมูลสินค้า ข้อมูล การติดต่อ หรือข้อมูลอื่นๆ แล้ว หากเป็นการทำบทความลงเว็บไซต์เหมือนเว็บที่ผู้อ่านกำลังอ่านอยู่ขณนี้ ก็จะสามารถสร้างรายได้ทันที เป็นเหมือนเครื่องผลิตเงินตลอดเวลา

 

ส่วนบางเว็บไซต์ที่ขายสินค้าของตัวเองก็เช่น กัน ก็จะสามารถขายสินค้าได้ตลอดเวลาเช่นกัน บางเว็บไซต์ต้องมีพนักงานคอยให้ บริการลูกค้าเกิน 4 คนหรือมากกว่านั้นเลยทีเดียว สำหรับเว็บไซต์ที่ขายดีมากๆ

 

2. การจัดทำช่อง Youtube

หากมีความสามรรถในการพูด การแสดง การนำเสนอแบบอื่นที่ไม่ใช่การเขียนบทความ โดยการทำเป็นคลิปวิดีโอ ก็เป็นช่องทาง สร้างรายได้เช่นกัน บางคนทำวิดีโอสนุก ขำๆ ชวนติดตาม โดยขายสินค้าท้ายคลิป หรืออาจจะใช้วิดีโอนั้นสร้างรายได้จากการคลิกป้าย โฆษณาโดยตรงเลยก็ได้ การทำวิดีโอเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อสร้างฐานผู้ชมไว้เปลี่ยนเป็นลูกค้าในอนาคต

 

3. การจัดทำ Facebook เพจ

การทำเฟสบุ๊คเพจเพื่อเผยแพร่สินค้า แนะนำสินค้า หรือให้ข้อมูล ความรู้เกี่ยวกับสินค้า ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยสร้างรายได้ให้ เราได้ บางคนทำเพจเพื่อขายสินค้าโดยตรง บางคนไม่มีสินค้า แต่เน้นให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพื่อเน้นสร้างรายได้จากแบน เนอร์ นอกจากเฟสบุ๊คแล้ว ก็ยังมีโซเชียลอื่นๆ เช่น Twitter, Instagram ก็ควรใช้ให้ครับ

 

การเปลี่ยนความชอบ งานอดิเรกให้เป็นรายได้ การจัดทำเว็บไซต์ ทำช่อง Youtube เฟสบุ๊คเพจ หรือโซเชียลอื่นๆ เป็นเรื่องจำเป็น ต้องทำ เพราะช่องทางเหล่านี้จะช่วยสร้างรายได้ในรูปแบบต่างๆ

 

ขั้นตอนการสร้างรายได้

แล้วก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นการสร้างรายได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแนวทางของแต่ละคนว่าต้องการสร้างรายได้จากทางใด เช่น
1. หากเน้นขายสินค้าของตนเอง ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ หลังจากได้ทำเว็บไซต์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล หรือขายสินค้าแล้ว คราวนี้ ก็เตรียมรับ ออร์เดอร์และจัดส่งสินค้า
2. กรณีทำเว็บไซต์โดยเน้นสร้างรายได้จากการคลิกโฆษณา อย่างเว็บนี้หรือคลิปวิดีโอ Youtube ก็ไม่ต้องทำอะไมาก เพียงแค่สมัคร สมาชิกให้ผ่าน สามารถติดป้ายโฆษณาได้แล้ว ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ตั้งหน้าตั้งตาทำบทความ ทำวิดีโออย่างเดียว หากมียอดรายได้ 100$ ขึ้นไป ก็รอรับเงินที่จะโอนเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องส่งสินค้า

 

โอกาสประสบความสำเร็จกับการทำสิ่งที่ชอบให้เป็นรายได้

แนวทางที่ผู้เขียนได้แนะนำนี้ เป็นแนวทางส่วนตัวที่ทำอยู่ตอนนี้ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ผู้เขียนมีชีวิตสบายๆ ใน แต่ละวัน ทำงานในสิ่งที่รัก เขียนบทความ แล้วก็กำลังจะต่อยอดทำอย่างอื่นไปเรื่อยๆ สิ่งสำคัญก็คือจะต้องผลิตผลงานออกมาให้มากที่ สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อรับประกันความมั่นคงทางการเงิน

 

แต่งานแนวนี้ไม่ง่าย บางอย่างอาจจะต้องใช้เวลา แต่บางอย่างไม่จำเป็น อย่างการทำสติ๊กเกอร์ขาย อาจจะใช้เวลาไม่กี่วันกับการออก แบบสติ๊กเกอร์ หลังจากผ่านการอนุมัติแล้ว ก็จะเริ่มขายได้ทันที หรือการผลิตสินค้าของตนเองก็เช่นกัน บางคนเริ่มทำสิ่งที่ชอบโดยใช้ เวลาเตรียมสินค้า ออกแบบสินค้าของตัวเองในเวลาประมาณ 2 อาทิตย์เท่านั้นเอง ก่อนจะทำเงินหลักล้านได้ในอีก 3-4 เดือนข้าง หน้า

 

เรื่องแบบนี้ต้องลองทำ จึงจะมีประสบการณ์และรู้ว่ามีโอกาสประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด มองเห็นจุดอ่อน จุดแข็งของตัวเอง ซึ่งหากประสบความสำเร็จ เริ่มมีรายได้เข้ามา ก็อาจจะลาออกจากงานมาทำงานที่ตัวเองรักได้อย่างเต็มที่ มีชีวิตในทางที่ฝันว่าอยากจะ เดิน

 

ผู้เขียนเชื่อว่าแต่ละคนก็มีสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำ แต่ปัญหาที่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะส่วนใหญ่เอาแต่คิด แต่ไม่ลงมือทำ หรือทำ นิดๆ หน่อยๆ ก็ถอดใจไม่สู้แล้ว บางคนเจอปัญหานิดหน่อยๆ หน่อยๆ ก็ถอยแล้ว บางคนแค่คิดสินค้าของตัวเองขึ้นมา แล้วมีคนตำหนิ ว่าอย่างนั้นอย่างดี ก็ถอยแล้ว กลัวโดนด่า รับไม่ได้ เลิกทำ