การปลูกพืชผักไว้กินเอง และ การทำอาหารกินเอง เป็นความรู้พื้นฐานเบื้องต้นที่สำคัญมากที่จะช่วยให้เด็กสามารถนำความรู้ไปใช้ในอนาคตได้ เพราะจะสามารถช่วยลดรายจ่ายได้ ไม่ลำบาก สามารถทำอาหารทานเองได้ ซึ่งพ่อแม่ควรหาเวลาว่างสอนด้วยตัวเอง ด้วยการให้เด็กได้ลองฝึกทำทุก วัน หรือบางโอกาส จนกว่ากว่าเด็กจะจำได้ กลายเป็นความรู้ติดตัวไว้ใช้ได้ตลอดชีวิต

 

การปลูกพืชผัก การทำอาหาร ในทุกวันนี้ ง่ายกว่าสมัยก่อนมาก พ่อแม่จึงสามารถสอนวิธีเพาะปลูก หรือ ทำอาหารได้ไม่ยาก อย่างการหุงข้าวก็ ใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้า มีความปลอดภัย สะดวก และง่ายกว่า การใช้เตาถ่าน อย่างคนสมัยก่อน ไม่ต้องก่อไฟ แค่ตวงข้าวและตวงน้ำตามสูตรเท่านั้นเอง

 

ส่วนการปลูกพืชผัก ทุกวันนี้ก็ง่ายมาก ไม่ต้องไปขุดดิน ทำแปลงผัก แค่ซื้อกระถาง ซื้อดิน ซื้อปุ๋ย และซื้อเมล็ด แล้วก็นำมาปลูกลงกระถางได้เลย จะวางกระถางตรงไหนก็ได้ วางเป็นชั้น ก็ได้ หากพื้นที่มีจำกัด

 

ความรู้ในเรื่องเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้เด็กสามารถนำไปใช้ได้ในอนาคต รู้วิธีเอาตัวรอด รู้วิธีทำอาหารง่ายๆ แม้ว่าในช่วงที่อายุยัง น้อย เด็กบางคนอาจจะไม่ชอบกินผัก หรือ ไม่ชอบกินอาหารง่ายๆ แต่เมื่อโตขึ้น หรือเมื่อรู้ว่าจะต้องประหยัดค่าใช้จ่าย ก็จะรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร นั่น ก็คือ การปลูกพืชผักเอง และทำอาหารกินเอง เพราะวิธีนี้ไม่เพียงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยให้มีสุขภาพดีอีกด้วย เพราะการทำอาหารกินเองนั้น เราสามารถเลือกวัตถุดิบเองได้ ว่าจะใช้แบบไหน ดีหรือไม่ดี

 

การสอนเด็กๆ ปลูกพืชผักไว้กินเอง เด็กอาจจะไม่ชอบกินผัก ก็ไม่เป็นไร พ่อแม่กินเองก็ได้ ขอเพียงแค่ได้สอนให้เด็กได้รู้วิธีปลูกพืชผักง่ายๆ ด้วย ตนเอง ความรู้เหล่านี้เด็กๆ จะได้ใช้ ในวันที่ชีวิตลำบาก หรือ ต้องการมีสุขภาพที่ดี ในชั่วชีวิตของคนเรา อย่างไร ก็จะต้องได้ใช้ความรู้เหล่านี้ ซึ่งผู้ เขียนมองว่า เป็นเรื่องดีมาก หากได้สอนให้เด็กมีพื้นฐานตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งโอกาสจะได้ใช้ความรู้เหล่านี้จะเป็นช่วงที่จะต้องออกจากบ้านนั่นเอง ส่วน ใหญ่ก็จะเป็นช่วงไปเรียนไกลบ้าน ต้องไปอยู่หอพัก เมื่อนั้น ก็จะได้ใช้ความรู้เหล่านี้ แม้จะอยู่หอพัก แต่หลังห้อง ก็สามารถปลูกพืชผักได้

 

ส่วนการทำอาหารก็เช่นกัน แม้เด็กอาจจะไม่กินอาหารในแนวที่พ่อแม่สอนให้ทำ เช่น หุงข้าวพร้อมกับทำไข่ตุ๋นไปด้วย ทำไข่ต้ม หรือ อาหาร ประเภทนึ่ง ไปพร้อมกับการหุงข้าว แม้เด็กจะไม่กิน ไม่ชอบอาหารแนวนี้ ก็ไม่เป็นไร ขอให้สอนให้รู้วิธีทำอาหารง่ายๆ ในอนาคต เมื่อลูกหลาน ต้อง ไปอยู่ไกลบ้าน ไปเรียน ไปอยู่หอพัก ก็จะรู้วิธีทำอาหารง่ายๆ ไว้กินเอง เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการซื้ออาหารสำเร็จ

 

 

จุดมุ่งหมายในการสอนปลูกพืชผักและทำอาหาร

สำหรับจุดมุ่งหมายในเรื่องนี้ ก็ควรเน้นเพียงแค่ให้เด็กได้มีความรู้พื้นฐานติดตัวไว้เท่านั้นก็พอ เพียงแต่ก็ต้องสอนเด็กๆ จนกว่าจะเข้าใจและ สามารถทำเองได้ ซึ่งอาจจะให้เด็กทำอยู่เป็นประจำ เช่น ขอให้ปลูกพืชผัก หรือขอให้หุงข้าวทุกวัน หรือทำอาหารง่ายๆ อยู่บ่อยๆ เป็นต้น

 

การปลูกพืชผักแบบต่างๆ

อุปกรณ์สำหรับปลูกพืชผักสามารถหาได้ไม่ยากตามร้าน หรือ ตลาดในพื้นที่ หรือไม่ก็อาจจะสั่งจากเน็ตก็ได้ ตามสะดวก
1. ตัวอย่างพืชผักชนิดต่างๆ ให้เน้นทั้งผักกินใบ และกินผล ผักกินใบจะโตเร็ว เช่น ผักบุ้ง ส่วนผักกินผล จะโตช้ากว่า ก็ปลูกไว้หลายๆ แบบ หรือไม่ก็ ต้องดูเมนูอาหารที่ลูกหลานชอบกิน มีผักแบบไหนบ้าง ก็ชวนปลูกแบบนั้น


2. ในเรื่องของเมล็ดพันธ์ผักนั้น ไม่จำเป็นต้องซื้อเสมอไป อย่างหอม กระเทียม สามารถนำหัวไปปลูกได้เลย อย่างพวกกะเพรา โหระพา ก็นำยอด ไปปลูกลงดิน หรือกระถางได้เลย ไม่ต้องใช้เมล็ด เมื่อซื้อพืชผักเหล่านี้มาทำอาหาร ก็หักยอดไปปลูกได้เลย แต่สิ่งสำคัญ ถ้าไม่กิน ต้องตัดทิ้ง อย่าง ตำลึง ไม่กิน ก็ต้องเด็ดทิ้ง อย่าให้โต ให้อยู่แค่นั้นเลย


3. ส่วนพืชผักบางชนิด อย่าง บวบ มะเขือ มะเขือเทศ ถั่ว ก็คัดเลือกที่แก่จัด เก็บไว้ให้สุก แล้วนำเมล็ดไปเพราะได้เลย ไม่ต้องซื้อเมล็ดพันธ์ให้เสียเงิน


4. หากบริเวณบ้านมีพื้นที่มากพอ ก็สอนปลูกพืชผักลงดิน เน้นทั้งพืชผักกินใบ กินดอก เช่น ชะอม แค กระถิน หลักการปลูกพืชผักเหล่านี้ก็คือ อย่า ให้ต้นสูงเกินหน้าอก เมื่อเริ่มสูง และกินไม่ทันจะต้องตัดทิ้ง ไม่ให้โต ตัวอย่างชะอมเหล่านี้ปลูกมาสิบกว่าปีแล้ว ก็จะตัดอยู่เรื่อยๆ ไม่ให้สูง ต้นก็จะอยู่ แค่นี้ แตกยอดให้เก็บมาทำอาหารอยู่เรื่อยๆ กินไม่ทันก็ต้องตัดทิ้ง การปลูกก็ไม่ต้องทำไปแแปลงแยก อาจจะปลูกรวมๆ กัน อย่าไปเรื่องมาก เน้น เรียบง่ายเข้าไว้


5. กรณีไม่มีพื้นที่มากพอให้ปลูกลงดิน ก็ใช้กระถาง การปลูกพืชผักต่างๆ อย่างผักกินใบ ผักบุ้ง คะน้า ผักกาด ให้เน้นตัดก้านใบ หรือต้น โดยเหลือ แต่ตอไว้ ไม่ต้องปลูกใหม่ เมื่อแตกยอดก็ตัดไปเรื่อยๆ

 

จุดประสงค์ในการสอนเรื่องการปลูกพืชผักให้กับเด็ก ไม่ต้องไปหวังผลอะไร แค่ให้เด็กได้เรียนรู้วิธีปลูกพืชผักง่ายๆ เท่านั้นก็พอ เพียงแต่ปรับ เปลี่ยนให้เหมาะสมกับยุคปัจจุบัน อย่างการปลูกพืชผักในกระถาง ปลูกไว้ที่ระเบียง อย่าไปสอนให้ยึดติดว่าจะต้องทำแปลงผัก ปลูกลงดินเท่านั้น ส่วนกระถางก็ใช้ขวดน้ำ กระป๋อง ถุงพลาสติก ดัดแปลงให้เหมาะสม ส่วนดิน ปุ๋ย ก็เช่นกัน เน้นที่มีขายสำเร็จไปก่อน

 

การทำอาหารง่ายๆ

เมนูอาหารง่ายๆ มีหลายเมนูที่เด็กอายุ 5-6 ขวบขึ้นไป ก็สามารถทำกินเองได้ ง่ายที่สุด ก็เมนูไข่ต้ม ไข่ตุ๋น เมนูประเภทนึ่ง เป็นต้น

การซื้ออุปกรณ์สำหรับทำอาหาร

1. อุปกรณ์สำหรับหุงข้าวนั้น แนะนำให้ซื้อให้เด็กไว้ฝึกโดยตรง และเผื่อให้เป็นของใช้ติดตัวเด็กไปเลย เพราะเมื่อเด็กเริ่มโตขึ้น ก็อาจจะมีช่วงที่จะต้อง แยกตัวไปอยู่หอพัก หรือแยกครอบครัว ก็จะมีโอกาสได้ใช้อย่างแน่นอน โดยเน้นหม้อหุงข้าวไฟฟ้าขนาด 0.6 - 1 ลิตร กำลังพอดี ไม่ใหญ่เกินไป สำคัญมาก ให้เน้นรุ่นที่มีซิ้งด้วย ไว้ทำเมนูอาหารประเภทนึ่ง ทำไข่ต้ม ไข่ตุ๋น เป็นต้น หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ใช้ให้หุงข้าว ก็พอ เพราะเรื่องนี้ แม้แต่ เพื่อนผู้เขียนบางคนอายุใกล้จะ 40 แล้ว ยังหุงข้าวด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้าไม่เป็น ไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่า จะสุก ดิบ หรือแฉะ เหอๆๆ

 


2. สำหรับเด็กที่เริ่มโตขึ้น ก็ควรจะมีอุปกรณ์เพิ่มเติมอย่าง กระทะไฟฟ้า เตาแก๊สพกพา ไว้ฝึกทำอาหารประเภททอด ผัด ต้ม ส่วนเด็กเล็ก เด็ก ประถมอาจจะให้ทำอาหารด้วยหม้อหุงข้าวอย่างเดียว เพราะมีความปลอดภัยมากกว่า อุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดอื่น ต้องดูอายุของเด็กว่าสามารถทำอาหาร แบบใดได้บ้าง มีความรับผิดชอบ มีความระมัดระวังมากเพียงพอหรือยัง


3. วัตถุดิบสำหรับทำอาหาร ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำจิ้ม ซอส ไข่ อาหารสด ฯลฯ เด็กชอบแบบไหน ก็เลือกแบบนั้น แต่ไม่ต้องเน้นมาก เน้นแค่ให้เด็ก ได้ฝึกทำอาหารก็พอ

 

 

 

ตัวอย่างการทำอาหารง่ายๆ

เมนูอาหารง่ายๆ มีหลายอย่าง จะให้เด็กทำอาหารแบบใดบ้าง ก็ต้องดูที่อายุของเด็ก หากเป็นเด็กเล็ก ก่อนประถม ก็ควรเน้นการหุงข้าวและทำ อาหารประเภทนึ่ง ต้มไปพร้อมกับหม้อหุงข้าวก็พอแล้ว

 

การหุงข้าว

1. สิ่งสำคัญในการหุงข้าวก็คือการตวง เอาถ้วยตวงเก็บไว้เลย แล้วหาภาชนะอื่นมาใช้แทน อย่างถ้วยโยเกิร์ต เนื่องจากมีขนาดและปริมาณข้าวที่ได้ ใกล้เคียงกัน แต่ถ้วยโยเกิร์ตมีขาย หาซื้อได้ แต่ถ้วยตวงที่มาพร้อมกับหม้อหุงข้าว หากหายไปแล้ว ก็หาซื้อยาก


2. สูตรในการตวงข้าว ตวงน้ำ ไม่ว่าจะใช้ถ้วยตวง ถ้วยโยเกิร์ต แก้ว ถ้วยกาแฟ ก็จะใช้สูตรมาตรฐานก็คือ ข้าวสาร 1 ถ้วย ต่อ น้ำ 1 ถ้วย กับอีกครึ่ง ถ้วย ยกเว้นข้าวสารเก่า ข้าวแข็ง ข้าวกล้อง จะใช้น้ำ 2 ถ้วย ไม่เช่นนั้นข้าวอาจจะดิบ หรือแข็งมาก แต่ข้าวขาวทั่วไป ข้าวหอมมะลิ ใช้สูตรมาตรฐาน กรณีหุงข้าวสาร 2 ถ้วย การตวงน้ำจะง่ายกว่า โดยจะใช้น้ำ 3 ถ้วย วิธีนี้ตวงง่ายกว่า หุงแค่ถ้วยเดียว


3. ข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม จะพิมพ์วิธีหุงข้าวเอาไว้ ดังภาพ หุงไม่ยาก ใช้ถ้วยมาตรฐานจะหุงได้ 33 จาน 


4. หลังจากนั้น เช็ดภายนอกหม้อในของหม้อหุงข้าวให้แห้ง แล้วก็นำหม้อในไปวางในหม้อหุงข้าว โดยต้องวางให้สนิท แล้วกดปุ่มหุงข้าว ง่ายๆ แค่นี้ เอง สำหรับการหุงข้าวด้วยเหมาะหุงข้าวไฟฟ้า ซึ่งแม้จะเป็นเด็กตัวเล็กๆ ก็สามารถสอนได้ เพียงแต่จะต้องคอยตรวจความเรียบร้อยทุกครั้ง ใช้ปลั๊ก ไฟที่มีฟิวส์ป้องกันการลัดวงจร และมีสวิทซ์เปิด ปิดเฉพาะช่องที่เสียบปลั๊กไฟ เพื่อความปลอดภัย สำหรับเด็กเล็ก อย่าให้เด็กเสียบที่ผนัง เน้นให้ เสียบที่ปลั๊กไฟที่มีฟิว หรือผ่าน มอก. มีความปลอดภัย

 

เมนูอาหารง่ายๆ ทำไปพร้อมกับการหุงข้าว

เมื่อสามารถสอนให้เด็กหุงข้าวเองได้ ก็ควรแนะนำวิธีทำอาหารง่ายๆ อย่างเมนูนึ่ง ต้ม หรืออุ่นอาหาร ตัวอย่างเช่น
1. เมนูไข่ เป็นเมนูที่ง่าย สามารถทำไปพร้อมกับการหุงข้าวได้เลย วิธีนี้เด็กๆ ก็สามารถทำได้ เพียงแต่หากต้องการกินไข่แบบยางมะตูม ทันทีที่ข้าวสุก ก็ต้องรีบนำไข่ออกมา หากมีซึ้งก็วางไข่ในซึ้ง หรือวางในถ้วยก็ได้ หากไม่มีซึ่ง ก็นำไข่ใส่ในข้าวก็ได้ แต่ไม่แนะนำ เพราะเปลือกไข่อาจจะมีการเคลือบ สารที่เป็นอันตราย


2. อีกเมนู ก็คือ ไข่ตุ๋น เป็นเมนูง่่ายๆ อีกเมนูที่สามารถสอนให้เด็กทำอาหารเองได้ เพียงแต่อาจจะต้องหาสูตรในการทำให้ลงตัว สำหรับเด็กเล็กอาจ จะต้องใช้เวลาในการฝึก ส่วนภาชนะที่ใช้ใส่ไข่นั้น อย่าใช้แก้ว ผู้เขียนเคยลองมาแล้ว ปรากฏว่าแตก ต้องเททิ้งทั้งหม้อ ควรใช้ถ้วยกระเบื้องหรือสแตน เลส ที่ไม่ทำปฏิกริยากับอาหาร ทำให้เกิดสารพิษ


3. การอุ่นกับข้าว แม่บ้าน อาจจะทำอาหารสำเร็จ ใส่ถุงให้พอดี หรือซื้อแกงสำเร็จจากตลาด แล้วแข่แข็งเก็บไว้ ก็สามารถนำมาอุ่นไปพร้อมกับการ หุงข้าวได้ โดยใส่ถ้วยวางบนซึ้งนึ่งอาหาร ข้าวสุก แกงก็อุ่น พร้อมรับประทาน ไม่ต้องไปเข้าเตาไมโครเวฟ


4. อาหารประเภทนึ่ง ต่างๆ เป็นเมนูง่ายๆ ที่สามารถทำไปพร้อมกับการหุงข้าวได้ แต่จะเลือกเมนูใด ก็ต้องดูอายุ และความชอบของเด็ก หรือไม่ก็ ความชอบส่วนตัวของพ่อแม่ ใช้ให้ลูกทำ ให้ฝึกทำอาหาร ให้ตัวเองกิน เด็กไม่กินก็ไม่เป็นไร เพราะจุดประสงค์หลัก ก็คือ การฝึกให้เด็กทำอาหารนั่น เอง เมื่อเด็กทำได้ดีแล้ว อนาคต พ่อแม่ก็สบาย เหอๆๆๆ

 

การทำเมนูประเภทอื่น

เมื่อเด็กมีอายุมากขึ้น มีประสบการณ์ในการทำอาหาร มีความระมัดระวังมากขึ้น ก็เริ่มสอนใช้อุปกรณ์ทำอาหารชนิดอื่น เช่น กระทะไฟฟ้า เตา แก๊ส เตาแก๊สกระป๋อง เพื่อทำอาหารประเภทต้ม ผัด ทอด สิ่งสำคัญก็คือ การพยายามสอนวิธีใช้เครื่องมือทำอาหารหลายๆ แบบ และหาวัตถุดิบ หลายๆ แบบมาทำอาหาร เพราะหากเด็กๆ สามารถทำได้ ก็สบายใจได้ว่า เอาตัวรอดได้แน่นอน

 

สรุป

ชีวิตคนเรานั้นไม่แน่นอน ก็ไม่รู้ว่าจะได้อยู่กับลูกหลานนานแค่ไหน เมื่อลูกหลานโตพอที่จะสามารถเรียนรู้ได้ อย่างการทำอาหารง่ายๆ การปลูก ผักง่ายๆ ก็ควรหาโอกาสสอนให้เด็กได้มีความรู้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ อย่างการหุงข้าวและทำเมนูง่ายๆ ไปพร้อมกับการหุงข้าว แค่นี้เด็กก็ สามารถเอาตัวรอดได้สบาย แต่สิ่งสำคัญที่จะต้องสอนให้มากกว่านั้นก็คือ การสอนวิธีการซื้อของ ซื้ออาหารสดมาประกอบอาหาร การคิดคำนวณ ต้นทุนค่าอาหาร ความรู้เหล่านี้มีความสำคัญ ช่วยประหยัดเงินค่าอาหาร และได้กินอาหารที่สะอาดกว่าด้วย ส่วนสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือ การกินอยู่ที่ เรียบง่าย วิธีนี้ดีที่สุด ทั้งต่อสุขภาพกาย ใจ และ การเงิน