บทความแนะนำประโยชน์ด้านต่างๆ ของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต สำหรับผู้สูงวัย ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่า เป็นการสร้างความลำบากในการเรียนรู้ ให้คนแก่ แต่หากรู้ถึงพัฒนาการทางสมองและการเรียนรู้ของคนเราแล้ว คุณอาจจะเปลี่ยนใจ โดยเฉพาะลูกหลานที่ต้องดูแลคนสูงวัย

 

การเข้าสู่วัยทอง หรือสูงวัย หรือ สว นั้น ไม่ได้หมายความว่า คนๆ นั้นจะเริ่มหมดอายุเหมือนนม เหมือนอาหารที่มีการกำหนดวันหมดอายุไว้ แต่ลูก หลานหรือ คนสูงวัยต่างหากที่คิดเอาเองว่า ตนแก่แล้ว เลยไม่อยากทำอะไร อยากอยู่เฉยๆ ให้ลูกหลานดูแล

การคิดและทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ผิดอย่างมาก ซึ่งหลายคนก็ทำแบบนั้น ปฏิบัติกับพ่อแม่ ปู่ย่า ตายายแบบนั้น กลายเป็นการฆ่ากันทางอ้อม ให้ตายเร็วขึ้น เพราะอะไรก็ตามที่ไม่ใช้ ก็จะเริ่มเสื่อมสภาพ นี่คือสั่งที่จะเกิดกับร่างกายและสมองของมนุษย์

ไม่ต้องมองไปไกลมาก ถ้าเราไม่ออกกำลังกายเลย กล้าม เนื้อก็จะอ่อนแอ และอาจจะไม่มีแรง สมองก็เช่นกัน บางเรื่องนั้นเราจะพบว่า เราคิดหาคำตอบหรือวิธีแก้ปัญหาได้ช้ามาก ลองเอาหนังสือคณิตศาสตร์ของ เด็กประถม มาลอง บวก ลบ คูณ หาร เพื่อดูว่า ยังสามารถคิดได้เร็วแค่ไหน หากคิดได้เร็ว แสดงว่า สมองยังดีมาก หากคิดได้ช้ามากๆ ก็ลองฝึกสักพักจะ คิดได้เร็ว สมองของคนแก่ก็เหมือนกัน

หากเอ่ยชื่อ คุณหมอ สมหมาย ทองประเสริฐ ช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ แม้จะมีอายุ 90 กว่าแล้ว แต่สมองยังดีมาก เพราะใช้สมองคิดวิเคราะห์อาการ ป่วยของผู้ที่มารักษามะเร็งอยู่ทุกวัน ทำให้สมองไม่เสื่อม เมื่อเทียบกับคนแก่หลายคนที่ผู้เขียนรู้จัก ซึ่งเริ่มมีปัญหาเรื่องสมอง ความจำไม่ดี เริ่มหลงๆ ลืมๆ เพราะพักหลังๆ จะเอาแต่ดูทีวี ไม่ค่อยพูดคุย สนทนากับสมาชิก สว คนอื่นๆ สมองเริ่มแย่ จนสังเกตุได้อย่างชัดเจน นี่คือตัวอย่างคนใกล้ตัวที่ผู้ เขียนสังเกตุเห็น และเปรียบเทียบกับคนที่ใช้สมองเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา

 

แล้วคุณล่ะ? อยากให้ผู้สูงวัยรอบตัวเป็นแบบไหน ยังมีสมองดี ความจำดี หรือหลงๆ ลืมๆ เรื่องแบบนี้ฝึกได้ ?

เรื่องเกี่ยวกับการเรียนรู้ด้านไอที การใช้อุปกรณ์ไอเทคอย่างมือถือสมาร์ทโฟนนั้น เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัว ที่ชอบคลุกคลี คบค้าสมาคม กับคนสูงวัย จึงได้เห็นความเป็นไปในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องการเรียนรู้ด้านไอที การใช้พวกมือถือสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต

หลายคนที่ได้แนะนำให้ใช้ หรือลูกหลานซื้อเครื่องให้ใช้นั้น แรกๆ จะใช้ไม่ค่อยเป็น เรียนรู้ได้ช้ามาก ตามที่ผู้เขียนได้กล่าวไปข้างต้นว่า เกิดจากการ หยุดการเรียนรู้ของคนเรา เมื่อเข้าสู่วัยทอง หรือสูงวัย เลยทำให้สมองทื่อ คิดอะไรได้ช้า ลูกหลานที่เป็นคนสอน ก็จะเบื่อ คนเรียนเองก็เบื่อ และเอาแต่ คิดว่า แก่แล้ว เรียนไม่ได้ ซึ่งจริงๆ แล้ว สาเหตุเป็นเพราะตัวเองหยุดการเรียนรู้เอง คิดว่าตัวเองหมดอายุแล้ว ไม่อยากจะทำอะไร

หากยังเรียนรู้อย่างต่อ เนื่อง ใช้สมองอย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการเรียนรู้แม้จะไม่เร็วเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็สามารถเรียนรู้ได้ แต่คนสอนต้องใจเย็น ให้คิดว่า กำลังสอน เด็กอายุ ไม่กี่ขวบ ซึ่งต้องใช้เวลา เพราะสมองหยุดการเรียนรู้ไปนาน คนเรียนเองก็ต้องอดทนเช่นกัน

 

จากที่แนะนำน้าๆ ที่รู้จักกันให้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต อายุก็ใกล้ๆ 60 ปี แรกๆ แนะนำ iPad แม้จะง่ายที่สุดแล้วก็ตาม แต่ด้วยความที่ยึดติดว่าตัว เองแก่แล้ว ไม่อยากเรียนรู้ก็จะไม่ยอมทำเอง แต่เมื่อใช้งานไปสักพัก เริ่มติดใจ เพราะอยากรู้อะไร ก็ค้นหาเองได้ อยากดูวิดีโออะไร หรือจะแชทผ่าน Line กับใครก็สามารถทำได้ ความอยากรู้ เลยทำให้พยายามศึกษา สุดท้ายก็เป็น ทำเองได้

จากที่สังเกตุ ตอนนี้สมองดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก มีทั้ง iPad และ Samsung สอนครั้ง 2 ครั้ง ก็จำได้ แถมยังสามารถสอนคนอื่นต่อได้อีก ยิ่งสอนต่อก็ ยิ่งช่วยให้จำได้ดีขึ้น อยู่คนเดียวได้ ไม่เหงา เรื่องนี้ผู้เขียนมองว่า เป็นเรื่องสำคัญ แม้จะเข้าสู่วัยทอง หรือสูงวัย แต่ก็ไม่มีใครบอกได้ว่า จะตายเมื่อไหร่ เพราะสมาชิกสูงวัย ที่ผู้เขียนคบค้าสมาคมด้วย ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 60 - 80 กันแล้ว แต่ยังสามารถขับรถเที่ยวต่างจังหวัด ใช้มือถือสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต เพื่อใช้งานในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ พื้นฐานที่จำเป็นสามารถใช้ได้ ไม่เป็นภาระลูกหลาน

ยิ่งแก่ยิ่งเหงา แต่อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยได้มากจริงๆ ดูวิดีโอใน Youtube บ้าง แชทผ่าน Line บ้าง เข้าไปส่อง Facebook คนนั้น คนนี้บ้าง ก็ผ่านไปอีกหนึ่ง วัน รอวันตายอย่างไม่เหงาได้อีกวัน

มือถือสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตในปัจจุบัน ราคาไม่แพง ลองหามาให้คนสูงวัย พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ใช้กันสักเครื่อง และต้องห้ามลูกหลานไปแย่งใช้ด้วย อดทนและใจเย็น ค่อยๆ สอน อาจจะใช้เวลาหลายเดือน หรือเป็นปี แต่ผลที่ได้คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปอย่างแน่นอน เพราะจะช่วยฟื้นฟูความจำได้ ช่วยให้ คนสูงวัย ได้มีช่องทางสร้างความสุขให้กับตัวเองเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการดูทีวี ฟังเพลง ซึ่งสมองจะไม่ได้คิดอะไรมากนัก ต่างจากการอ่าน การใช้แอพ การแชทผ่าน Line การได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ สมองก็จะไม่เสื่อมง่ายๆ

ส่วนเรื่องการพิมพ์บนหน้าจอนั้น หลายคนอาจจะมองว่า มันยุ่งยาก กว่าจะพิมพ์ได้ ปุ่มก็เล็ก ในมือถือสมาร์ทโฟนยกเว้นของ Samsung จะมีระบบ การแปลงเสียงพูดเป็นข้อความ ดังนั้น แค่แตะปุ่มรูปไมค์ ที่แป้นพิมพ์ ก็จะสามารถพูดแทนการพิมพ์ข้อความได้ จากนั้นค่อยส่งผ่านไลน์ หรือจะใช้กับแอ พใดๆ ก็ได้ ไม่มีปัญหา

สำหรับคนสูงวัย การได้ใช้สมองคิด และเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา สมองก็จะไม่เสื่อมง่ายๆ ยังสามารถเรียนรู้อะไรได้ ซึ่งไม่เพียงสมองเท่านั้น ร่างกาย กล้ามเนื้อ อวัยวะต่างๆ ก็เช่นกัน อย่าเอาแต่นั่งๆ นอนๆ ให้ลูกหลานดูแล นั่นคือการทำให้ตัวเองกลายเป็นคนหมดสมรรถภาพหรือร่างกายเสื่อมสภาพ เร็วขึ้น ส่วนลูกหลานก็เช่นกัน อย่าไปเอาใจดูแลคนแก่มากไปนัก เพราะจะทำให้ไม่ได้ออกกำลังกาย ก็จะทำให้เริ่มเป็นง่อยเร็วขึ้น

 

บทความเนื้อหาใกล้เคียงกัน :