กูเกิ้ลแปลภาษาหรือ Google Translate เป็นโปรแกรมแปลภาษาที่เราสามารถใช้เรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองได้ไม่ยากเลย สามารถค้นหาคำที่ต้องการได้รวดเร็ว มีทั้งการออกเสียง ตัวอย่างคำแปล ฯลฯ

 

การใช้งานกูเกิลแปลภาษาควรจะใช้กับคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ค เพราะจะมีความสะดวกในการใช้งานมากกว่า หรืออย่างน้อยก็ต้อง ใช้แท็บเล็ต ค้นหาข้อมูลได้สะดวก กรณีที่ใช้โน้ตบุ๊คจะมีความสะดวกแต่ควรมีคุณสมบัติดังนี้
1. มีไมโครโฟน เพื่อความสะดวก เพราะสามารถพูด คำ ที่ต้องการแทนการพิมพ์ข้อความได้
2. มีหูฟัง เพื่อความชัดเจนในการฟังเสียง
3. ติดตั้งแอปที่จำเป็นอย่าง Audacity ไว้รวมไฟล์เสียงเข้าด้วยกัน
4. ต้องเชื่อมต่อเน็ต เรื่องนี้คงไม่ใช่ปัญหาเพราะทุกที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้อยู่แล้ว

 

ตัวอย่างการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง

1. เชื่อมต่อเน็ตแล้วไปที่ https://translate.google.co.th/
2. เข้าระบบด้วยอีเมล์ของ Gmail
3. ฝั่งซ้ายมือคลิกเลือกภาษาอังกฤษ ส่วนฝั่งขวามือเลือกภาษาไทย เพื่อแปลจากอังกฤษเป็นไทย 4. คลิกและพิมพ์คำศัพท์ที่ต้องการ เช่น happy
5. ปกติโปรแกรมจะแปลภาษาให้อัตโนมัติ เช่น happy แปลว่า มีความสุข
6. สามารถคลิกรูปลำโพงเพื่อฟังเสียง หรือไมค์เพื่อใช้การพูดแทนการพิมพ์
7. ในส่วนคำแปล ก็เช่นกัน สามารถคลิกรูปลำโพงเพื่อฟังเสียงได้เช่นกัน
8. ด้านล่างจะบอกรายละเอียดของคำที่ได้พิมพ์ลงไป ซึ่งคำในภาษาอังกฤษจะต้องแยกแยะให้ออกว่า เป็นคำประเภทใด หากแยกแยะไม่ ออกจะไม่รู้ว่าจะต้องใช้งานอย่างไร อย่างคำว่า Happy ซึ่งเป็นคำคุณศัพท์
9. ทางซ้ายมือจะเป็นคำจำกัดความและ ตัวอย่างประโยค


10. ทางฝั่งซ้ายมือให้เลื่อนหน้าจอลงด้านล่าง ใต้หัวข้อ ดูเพิ่มเติม คลิก V เพื่อแสดงรายละเอียดเพิ่มเติม
11. ในส่วน ตัวอย่าง คลิกที่ ตัวอย่างอีก ... ตัวอย่าง


12. ประโยคตัวอย่างใดๆ ที่อ่านแล้วไม่เข้าใจความหมายให้ก็อปปี้ไปวางด้านบนเพื่อให้เว็บไซต์แปลเป็นภาษาไทย
13. ไม่เพียงใช้งานง่ายพร้อมแปลเป็นภาษาไทยแล้ว ยังสามารถฟังเสียงทั้งประโยคได้อีกด้วย โดยการคลิกรูปลำโพง

 

พื้นฐานภาษาอังกฤษที่จำเป็นสำหรับการเรียนผ่านกูเกิ้ลแปลภาษา

พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเรียนภาษอังกฤษด้วยตนเองผ่าน กูเกิลแปลภาษา ก็คือ ต้องมีความรู้ในเรื่องหลักไวยากรณ์ และจำคำ ศัพท์ได้มากๆ จะได้เปรียบเพราะจะเข้าใจได้เร็วกว่า
1. บางคำเป็นคำนาม ก็ต้องรู้ว่าจะต้องใช้อย่างไร ตัวอย่างคำนาม table, pen, cat, dog ...
2. บางคำเป็นคำ กริยา ก็ต้องรู้ว่าคำกริยาภาษาอังกฤษมีวิธีใช้งานอย่างไร ตัวอย่างคำกริยา run, walk, sleep, smile ... การใช้คำ กริยาต้องมี คำนาม+คำกริยา Dog run / ด้อก รัน /สุนัขวิ่ง
3. บางคำเป็นคำสรรพนามก็ต้องรู้เช่นกันว่าจะต้องใช้งานอย่างไร ตัวอย่างคำสรรพนาม I, You, He ... การใช้คำเหล่านี้เบื้องต้น จะใช้ สรรพนาม+คำกริยา เช่น He run /ฮี รัน / เขาวิ่ง
4. บางคำเป็นคำกริยาวิเศษณ์ ไว้ขยายความหมายของกริยาอีกที เช่น slowly /ช้า, fast /เร็ว, ตัวอย่างการนำคำไปใช้งาน Dog run slowly. /สุนัขวิ่งอย่างช้าๆ / ช้า ช้าๆ หรืออย่างช้าๆ เป็นคำคุณศัพท์ ต้องวางต่อจากคำกริยา
5. บางคำเป็นคำคุณศัพท์ตัวอย่างคำแบบนี้ beautiful, smart, bad, good คำเหล่านี้ต้องวางไว้หลัง is, am, are, was, were ตัวอย่าง การนำคำไปใช้งาน
I am smart / ไอ แอม สมาร์ท / ฉันเป็นคนเก่ง คนฉลาด
He is smart. / ฮี อีส สมาร์ท / เขาเป็นคนเก่ง คนฉลาด
You are smart. / ยู อาร์ สมาร์ท / คุณเป็นคนเก่ง คนฉลาด
we are smart. / วี อาร์ สมาร์ท / เราเป็นคนเก่ง คนฉลาด
It is ugly. / อิท อีส อั๊กหลิ / มันเป็นสิ่งน่าเกลียด หรือมันน่าเกลียด

 

ยังมีคำอื่นๆ อีกมากมายหลายแบบ สิ่งสำคัญก็คือต้องรู้ว่า คำแต่ละประเภทจะต้องใช้งานอย่างไร ไม่ยาก แต่ต้องใช้เวลาในการ ศึกษา

 

การเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองไม่ยาก แต่ต้องจำ ต้องใช้เวลา เพราะภาษาจะมีคำศัพท์ ประโยค และอื่นๆ อีกมากมาย คำต่างๆ ในภาษาอังกฤษหากสามารถแยกแยะออกว่าเป็นคำอะไร คำนาม กริยา คุณศัพท์ ฯลฯ ก็จะใช้งานได้ไม่ยาก ในกูเกิลแปลภาษายังสามารถ แปลงข้อความเป็นเสียงด้วย และบันทึกเลียงลงคอมพิวเตอร์  สร้างเป็นไฟล์ Mp3 ได้อีกด้วย เผื่อไว้ศึกษาเองในภายหลัง แบบไม่ต้องต่อเน็ตให้เสียเงิน