การใช้จ่ายฟุ่มเฟือย กับรายการบางอย่าง บางทีเราก็ไม่รู้ตัว หรือรู้แต่คิดว่าไม่ใช่เงินมากมายนัก จึงไม่สนใจ แต่หากวิเคราะห์เจาะลึก แบบละเอียด รวมรายจ่ายทั้งหมดต่อเดือนแล้ว มันไม่น้อยเลย และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่มีเงินเก็บ มีเท่าไรก็ใช้หมด

 

การเก็บเงิน ออมเงินเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องออมให้ได้เพื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉินหรือใช้ในบั้นปลายของชีวิต แต่การรักความสบาย รัก ความสุข กิเลศ ของมนุษย์ มีเงินแล้วก็ต้องใช้ เพื่อสนองความสุขของตัวเอง หากไม่มีระเบียบวินัย ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายจนติดเป็นนิสัยแล้ว คราวนี้ทำอย่างไรก็เก็บเงินไม่ อยู่

 

หัวข้อทั้งหมดในบทความนี้

  1. วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายเงิน
  2. ใช้เงินหมดไปกับอาหารการกิน
  3. การใช้เงินกับเครื่องดื่ม
  4. เปลี่ยนมือถือทุกปี เงินหายไปหลักพันบาท
  5. เปลี่ยนรถยนต์บ่อยเกินไป
  6. การซื้อทองอาจจะไม่ประหยัดเงินอย่างที่คิด
  7. เสื้อผ้ากางเกงเครื่องแต่งกาย
  8. การซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่มีคุณภาพ
  9. ระวังการซื้อสินค้าเพราะความเครียด ความเซ็ง
  10. การใช้เงินจนเกิดเป็นความเคยชิน
  11. ของใช้ สินค้า พาหนะที่มีรายจ่ายตามมา
  12. หมดเงินไปกับการเที่ยวกลางคืน
  13. ใช้จ่ายเงินกับครอบครัว
  14. การพนัน ยาเสพติด
  15. ระวังนิสัยใช้เงินแก้ปัญหา คั่นเวลา
  16. สาเหตุอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุให้เก็บเงินไม่อยู่
  17. แนวทางการแก้ไข เก็บเงินไม่อยู่ ใช้เงินเก่ง
  18. ฝึกการใช้ชีวิตเรียบง่าย
  19. ซื้อรถยนต์ด้วยความจำเป็นต้องใช้
  20. อุปกรณ์เครื่องใช้ อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ประหยัดไฟ
  21. คู่ชีวิตคู่ครองที่ช่วยกันทำมาหากิน
  22. อย่าสร้างนิสัยตามใจตัวเองเรื่องการใช้จ่าย
  23. หมั่นทำบุญให้มากๆ
  24. หักค่าใช้จ่ายออกจากบัญชีทันทีเมื่อเงินเดือนออก
  25. หาทางนำเงินไปลงทุน
  26. เปลี่ยนเงินให้เป็นทรัพย์สินประเภทอื่น
  27. เปลี่ยนเงินให้เป็นสินค้าทันที
  28. เปลี่ยนที่อยู่ให้ห่างไกลชุมชน แหล่งสถานบันเทิง

 

วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายเงิน

การพยายามหาสาเหตุที่เก็บเงินไม่อยู่ ต้องวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายเงินของตัวเอง โดยการจดบันทึกจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด พยายามหารูรั่วในการใช้จ่าย หากหาทางปิดรูรั่วได้ ก็อาจจะช่วยให้เก็บเงินได้ พฤติกรรมกรใช้จ่ายของเรามีหลายอย่างที่อาจจะคาดไม่ ถึงว่ารายจ่ายจะมากขนาดนั้น

 

ใช้เงินหมดไปกับอาหารการกิน

การกินอาหารนอกบ้าน กินอาหารไม่เป็นเวลา แม้แต่ร้านตามสั่งก็ตามจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า การทำอาหารกินเองที่บ้าน อย่าง ข้าวไข่ เจียวหมูสับ จานละ 30 หากทำเองต้นทุนไม่ถึง 15 บาท ถ้าทำอาหารเองได้ทุกมื้อก็จะประหยัดถึงวันละ 45 บาท ขึ้นไป หรือเดือนละ 45 x 30 = 1,350 บาท ขึ้นไป เพราะนี่ยังไม่รวมค่าน้ำดื่ม และของกินเล่น แต่หากฝึกกินให้เป็นเวลา เช้า กลาง วัน เย็น เน้นกินข้าว เป็นอาหารหลัก รายจายก็จะลดลง

 

การใช้เงินกับเครื่องดื่ม

เครื่องดื่มทำให้สิ้นเปลืองเงินเช่นกัน อย่างการกินกาแฟวันละแก้วๆ ละ 30 บาท ก็ประมาณ 900 บาทต่อเดือนเข้าไปแล้ว หากมี อาหารหรือเครื่องดื่ม ประเภทอื่นอีก ก็เป็นเงินที่เสียไปเปล่าๆ อีกเช่นกัน โดยเฉพาะเครื่องดื่มมึนเมา ซึ่งค่อนข้างแพง ถ้ากินวันละขวดๆ ละ 60 เดือนหนึ่งก็ 1,800 บาทเข้าไปแล้ว การดื่มเฉพาะน้ำเปล่าก็เพียงพอแล้ว และดีต่อสุขภาพเช่นกัน

 

เปลี่ยนมือถือทุกปี เงินหายไปหลักพันบาท

บางคนต้องเน้นมือถือรุ่นใหม่ ต้องเป็นรุ่นล่าสุดเท่านั้น การเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่บ่อยๆ ทำให้เงินหายไปหลักพันหรือหลักหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับราคาเครื่อง เครื่องแพง เงินก็หายไปมาก เมื่อขายต่อ เพื่อซื้อเครื่องใหม่ ดังนั้น จึงต้องพยายามเลือกรุ่นที่ทนแทน เน้น แบตเตอรี่อึดทนไว้ก่อน เพราะจะสามารถใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 5 ปี แต่ทั้งนี้ก็ต้องชาร์จให้เป็น อย่างปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือน้อยๆ แบ ตจะเสื่อมเร็ว ควรมีซองหรือเคสป้องกันเครื่อง กรณีตกหล่นจะช่วยป้องกันได้ในระดับหนึ่ง

 

เปลี่ยนรถยนต์บ่อยเกินไป

ของชิ้นใหญ่อย่างรถยนต์ มีค่าใช้จ่ายสูง เป็นรูรั่วที่ทำให้เสียเงินมาก หากเปลี่ยนรถบ่อยเกินไป รถยนต์ 1 คัน หากดูแลอย่างดี ถ่ายน้ำมันเครื่องให้เร็วกว่าปกติ เครื่องยนต์จะมีความทนทาน ส่วนอื่นของรถก็เหมือนกัน ซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ ให้รถอยู่ในสภาพ สมบูรณ์ ก็จะใช้งานได้เกิน 15 ปีขึ้นไป ไม่เปลี่ยนรถบ่อยๆ เงินก็ไม่หาย ซึ่งคิดเป็นเงินหลักแสนบาทเลยทีเดียว กับการเปลี่ยนรถใหม่ ถ้าทำได้ ก็จะช่วยประหยัดเงินหลักแสนบาท

 

การซื้อรถยนต์กรณีซื้อเงินผ่อน ก็จะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น การผ่อนแบบฟรีดาวน์ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะมีรายจ่ายตามมาอย่างมาก โดย เฉพาะการผ่อนจักรยานยนต์ด้วยแล้ว การซื้อแบบฟรีดาวน์จะมีรายจ่ายตามมาอย่างมาก รถราคา 42,000 มักจะมีรายจ่ายรวมทั้งหมด เกิน 100,000 บาทกรณีผ่อนแบบฟรีดาวน์

 

การซื้อทองอาจจะไม่ประหยัดเงินอย่างที่คิด

บางคนนั้นชอบสะสมทอง ซึ่งอาจจะเสียเงินโดยไม่ทันคิดหรือคาดไม่ถึง หรือเต็มใจเสีย เช่น ครั้งแรกซื้อทองไว้ 1 สลึง ก็ไปเพิ่มเป็น 2 สลึง 3 สลึง 1 บาท ตามลำดับ การซื้อทองแบบนี้ ต้องเสียค่ากำเหน็จเมื่อต้องการเปลี่ยนไม่ต่ำกว่า 500 บาท อย่างการซื้อทองครั้งแรก สมมุติว่า ทอง 1 สลึง ราคา 4,913 ก็จะรวมค่ากำเหน็จหรือกำไรของทางร้านทองอีกประมาณ 500 บาท หรืออาจจะมากกว่านี้ก็ได้ รวมเป็นเงิน 5,413 บาท ส่วนการขายทองคืนให้ทางร้านก็จะต้องถูกกดราคาไม่น้อยกว่า 500 บาทเช่นกัน

 

ดังนั้นหากจะซื้อทอง ต้องไม่เปลี่ยนแบบ ต้องไม่ขาย จะขายก็ต่อเมื่อราคาทองปรับขึ้นสูงมากจริงๆ เช่นจากบาทละ 20,150 อาจจะ ปรับขึ้นไป 25,150 บาท กรณีนี้ ถ้าขายทองก็จะเสมอตัว เพราะจะถูกกดราคาลงไม่น้อยกว่า 500 บาท การซื้อทองเก็บไว้ จึงควรซื้อ เพื่อสะสมหรือไว้สำหรับนำไปจำนำกรณีมีปัญหาการเงินจะดีกว่า

 

เสื้อผ้ากางเกงเครื่องแต่งกาย

การเลือกสไตล์การแต่งตัวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก บางคนซื้อกางเกงยีนดีๆ 5 ตัว ซื้อเสื้อดีๆ ก็ใช้ยาวเกิน 10 ปี ก็มี แต่ หากซื้อเสื้อผ้าบ่อยๆ ก็จะเสียเงินมาก หากซื้อทุกเดือน รายจ่ายทั้งปี ก็ไม่น้อยเหมือนกัน

 

การซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่มีคุณภาพ

การซื้อข้าวของเครื่องใช้ก็เช่นกัน ของใช้บางอย่างเสียบ่อย เสียเร็ว ไม่มีคุณภาพ ก็จะทำให้เสียเงินซื้อบ่อยๆ จากประสบการณ์ส่วน ตัวชอบใช้ของถูกเพราะมองว่าประหยัด แต่ข้อเสียก็คือพัง เร็วเสียเร็ว เช่น รองเท้าราคาถูก จะเสียเร็ว ก็ต้องจ่ายเงินมากกว่าเดิม แต่ของ ใช้ดี ใช้งานทนทานนานหลายปี แพงแต่ ประหยัดกว่าในระยะยาว

 

ระวังการซื้อสินค้าเพราะความเครียด ความเซ็ง

การซื้อสินค้าบางอย่างก็ซื้อเพราะความเครียด ความเซ็งและใช้การซื้อเพราะความอยากได้ สร้างความสุขชั่วครู่ให้เท่านั้น ต้อง วิเคราะห์ตัวเอง หากมีพฤติกรรมแบบนี้ ต้องรีบหาทางแก้ไข และพยายามใช้แต่ที่จำเป็น ไม่ใช่ใช้เพราะความเซ็ง

 

การใช้เงินจนเกิดเป็นความเคยชิน

บางคนทุกเย็นจะต้องหาซื้อเครื่องดื่มมึนเมาสักขวด สองขวด กินทุกวันก็จะทำให้เกิดเป็นความเคยชิน ตกเย็นต้องก๊ง ต้องตั้งวง บาง คนต้องกินกาแฟทุกวัน การสร้างรายจ่ายจากความเคยชินแบบนี้ หากปล่อยไว้นานๆ ไม่ดีแน่ เพราะสินค้าบางอย่างก็แพงมาก อย่างของ มึนเมา

 

ของใช้ สินค้า พาหนะที่มีรายจ่ายตามมา

การซื้อสินค้าอย่างมือถือ จะมีรายจ่ายตามา ไหนจะค่าโทรศัทพ์ ค่าอินเตอร์เน็ต พาหนะอย่างรถจักรยานยนต์ รถยนต์ก็เช่นกัน จะ มีทั้งภาษี ค่า น้ำมัน ประกันภัย ค่าซ่อมบำรุงตามมา หากซื้อเงินผ่อนก็จะมีดอกเบี้ยอีกด้วย รถจักรยานยนต์นั้นจะมีดอกเบี้ย เกือบเท่าตัว การมีรถยังมีรายจ่าย ตามมาเยอะมาก เพราะสามารถพาเราไปไหนต่อไหนได้ ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้เงินมากขึ้น โดยเฉพาะคนโสดที่ขี้ เหงา

 

การใช้สินค้าประเภทนี้ โดยเฉพาะรถยนต์ จักรยานยนต์ ต้องมีความจำเป็นจริงๆ ไม่เช่นนั้นก็ไม่ควรซื้อ เพราะเป็นรายจ่ายที่ต่อ เนื่องตลอดอายุการใช้งาน

 

หมดเงินไปกับการเที่ยวกลางคืน

การเที่ยวกลางคืน สำมะเลเทเมา เที่ยวเธค ผับ ร้านอาหาร จะมีค่าใช้จ่ายตามาเยอะมาก หากมีเพื่อนเที่ยวกันหลายคน ก็พอจะช่วย แบ่งกันจ่าย แต่หากเที่ยวคนเดียวจะค่อนข้างหนัก เพราะสถานที่ที่จะไปนั้นหากเป็นคนโสด ก็ย่อมต้องไปที่ชอบๆ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า การเที่ยวหลายคน

 

ใช้จ่ายเงินกับครอบครัว

การมีครอบครัวย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายตามมา หากคนในครอบครัวค่อนข้างฟุ่มเฟือย รายจ่ายก็จะตามมามาก หากคู่ครองใช้เงินเก่ง ติดหรู ใช้เงินเก่งมีเท่าไหร่ ก็หมดไปกับของใช้ฟุ่มเฟือย อยู่คนเดียว ก็ใช้เงินกันแทบหาไม่ทันแล้ว หากอยู่กันสองคนหรือมากกว่านั้น มี ลูกหลาน ญาติพี่น้อง ราย จ่ายยิ่งจะเพิ่มมากขึ้น เรื่องคนนั้นเป็นเรื่องที่แก้ปัญหาได้ยากที่สุด

 

หากคนในครอบครัวมีปัญหาเรื่องการใช้เงิน ใช้เงินเก่ง ส่วนใหญ่ก็จะลงท้ายด้วย การทะเลาะกัน สร้างความปวดหัวตามมา หลายคน แต่งงานกันแล้ว ก็มีหนี้เกิดขึ้นมากมาย เริ่มตั้งแต่การจัดงานแต่ง การกู้เงินซื้อบ้าน ซื้อรถ

 

การพนัน ยาเสพติด

หากติดการพนันมีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอ หากติดเป็นนิสัยแล้ว มีเท่าไหร่ก็หมด สิ่งสำคัญก็คืออย่าให้เริ่ม หรือเล่นจนเป็นนิสัย หากติด แล้วจะหยุดยาก ไม่เพียงเก็บเงินไม่อยู่ แต่หากมีสมบัติก็อาจจะขายทั้งหมด โดยเฉพาะเวลาผีพนันเข้าสิง มีอะไรก็หมด

 

ระวังนิสัยใช้เงินแก้ปัญหา คั่นเวลา

บางครั้งเราก็ใช้เงินคั่นเวลา หรือแก้ปัญหาในทางที่ผิด และทำจนเป็นนิสัย เมื่อใดที่มีปัญหาก็จะทำแบบนั้นอีก เช่น พอเครียดก็หันหา เหล้า เที่ยวกลางคืน หรือชอปปิ้ง หรือใช้จ่ายเงินเพื่อคั่นเวลาชั่วคราว เพราะคิดว่าสิ่งที่จ่ายไปนั้น ช่วยสร้างความสุขหรือบรรเทาความสุข ได้ เมื่อกระทำบ่อยๆ จากความเคยชิน จนติดเป็นนิสัยแล้ว คราวนี้ก็ยากจะแก้ไขทุกครั้งที่มีปัญหา ก็จะหันหาสิ่งนั้น ใช้เงินคั่นเวลา กลาย เป็นรูรั่ว เสียเงินไปในสิ่งที่ไม่จำเป็น

 

สาเหตุอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุให้เก็บเงินไม่อยู่

เหตุแห่งการเสียเงินยังมีอีกมาก เช่น เรื่องของกรรมจากการทำแท้ง และจากสิ่งที่มองไม่เห็น หรือดวงเกิดมาเก็บเงินไม่อยู่ หาก ปฏิบัติทุกทางแล้ว ยังเก็บเงินไม่อยู่ ก็ต้องพยายามทำบุญให้มากๆ และแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ แต่ก็ทำให้ ผ่อนจากหนักเป็นเบาได้

 

แนวทางการแก้ไข เก็บเงินไม่อยู่ ใช้เงินเก่ง

หากมีพฤติกรรมใช้เงินเก่งมาก ก็ต้องหาทางแก้ไข ซึ่งก็มีหลายวิธีเช่น

 

ฝึกการใช้ชีวิตเรียบง่าย

การใช้ชีวิตเรียบง่ายเป็นเรื่องดีที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างมาก แต่ทุกวันนี้การใช้ชีวิตแบบนี้ค่อนข้างยาก เพราะมีวิตถุ สิ่งล่อ ลวงให้อยากใช้ชีวิต ฟุ่มเฟือย หรือจับจ่ายใช้สอย เพื่อให้มีเหมือนคนอื่น เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ แต่หากสามารถทำตัวเรียบง่ายได้ ก็จะ ช่วยประหยัดเงินได้มากทีเดียว โดยเฉพาะการทำอาหารกินเอง จะช่วยประหยัดเงินอย่างมาก ถ้าหากปลูกผักไว้กินเองด้วยก็จะยิ่ง ประหยัดและมีสุขภาพดีกว่า

 

ซื้อรถยนต์ด้วยความจำเป็นต้องใช้

หากมีปัญหาเรื่องการใช้เงิน ก็ไม่ควรซื้อรถยนต์ หรือแม้แต่จักรยานยนต์ก็ตาม เพราะพาหนะเหล่านี้จะช่วยให้เดินทางได้ไกล และพา ไปเสียเงิน อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายตามมาอีกด้วย การไม่มีรถจึงช่วยประหยัดเงินได้ ไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน ค่าภาษี ประกันภัย และค่าอาหาร หรือค่าใช้จ่ายที่ตามมา จาก การไปเที่ยว ออกไปไหนลำบาก ทำให้ไม่อยากจะไปไหน ก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้

 

โดยเฉพาะหากมีรถแล้วมีแฟนด้วยแล้ว ยิ่งมีโอกาสจ่ายมากขึ้น เพราะต้องกิน ต้องเที่ยวต้องใช้มากกว่าปกติ การมีคู่หากเน้นช่วยกัน สร้าง ก็จะไม่มีปัญหา แต่หากคบกันสนุกๆ มาช่วยกันกิน ค่าใช้จ่ายจะตามมามาก

 

อุปกรณ์เครื่องใช้ อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ประหยัดไฟ

การเลือกเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ไฟฟ้า ควรเลือกให้เหมาะสม ทีวีจอใหญ่เกินไป พัดลมขนาดใหญ่ แอร์ขนาดใหญ่ คอมพิวเตอร์ แบบตั้งโต๊ะจะ กินไฟมากกว่าโน้ตบุ๊คเท่าตัว ในแต่ละปีจะช่วยประหยัดเงินได้หลักพันบาทขึ้นไป

 

คู่ชีวิตคู่ครองที่ช่วยกันทำมาหากิน

การมีคู่ครอง คู่ควง กิ๊กหลายคน มีแต่ทำให้ต้องใช้จ่ายเงินมากกว่าเดิม การเลือกคู่ครองที่เสริมกัน ช่วยกันสร้าง ช่วยกันเก็บจะดีกว่า มาช่วยกันกิน ช่วยกันใช้ แต่ไม่ช่วยกันหา เงินก็ไม่เหลือ

 

อย่าสร้างนิสัยตามใจตัวเองเรื่องการใช้จ่าย

การสร้างนิสัยตามใจตัวเองในเรื่องนี้อันตราย เพราะเมื่อใดที่เบื่อ เซ็ง ไม่รู้จะทำอะไรก็จะหาทางใช้เงิน คั่นเวลาด้วยการซื้อ ทำใช้ที่ จะทำให้ชีวิตไม่ ต้องเจอเรื่องบางเรื่อง เช่น กำลังเซ็ง เบื่อ ก็ไปเที่ยวกลางคืน ฟังเพลงเพลินๆ ไป ให้มันหายเบื่อ หายเซ็ง แต่ไม่มี ประโยชน์ เป็นต้น หลายครั้งที่เรา กลับจากห้างแล้วก็มานั่งมองดูของที่เราซื้อมา แล้วก็ถามตัวเองว่า ตรูซื้อมาทำไมฟะ

 

หมั่นทำบุญให้มากๆ

หากทำทุกทางแล้ว ยังเก็บไม่อยู่ก็ต้องหมั่นทำบุญแผ่เมตตา ให้เจ้ากรรมนายเวร จากประสบการณ์ส่วนตัว ไม่ว่าจะดูกับหมอดูที่ไหน หรือคนที่ศึกษา เรื่องหมอดูก็ตาม หรือแม้แต่ในหนังสือทำนายดวง อย่างคอลัมน์ ดูดวง คนเกิดวันจันทร์ จะทักเหมือนกันหมด คือ เป็น คนเก็บเงินไม่อยู่ ช่วงไหนที่ หมั่นทำบุญ ฝึกสมาธิ แผ่เมตตา เงินก็จะอยู่ติดตัวได้นานหน่อย แต่หากไม่ค่อยทำแบบนั้น ได้มาหมื่นไม่ เกินอาทิตย์ก็หมด ถ้าแสนก็อาจจะอยู่ติดตัว ได้สักสองเดือน ก็หมด บางทีเดือนแรกก็หมด มีเงินแล้วร้อนมาก อยู่ไม่ได้เลย

 

หักค่าใช้จ่ายออกจากบัญชีทันทีเมื่อเงินเดือนออก

การเปิดบัญชีคู่กัน 2 บัญชีและหักค่าใช้จ่ายหลักๆ โดยตั้งให้โอนเงินเข้าอีกบัญชีหนึ่ง โอนเงินออกไปทันทีที่เงินเดือนออก หรือมีเงิน เข้ามา ก็เป็น อีกวิธีที่จะช่วยให้มีเงินสำรองไว้ใช้ รายจ่ายหลักๆ ที่ต้องโอนไปทันทีเช่น ค่าห้อง ค่าผ่อนรถ ค่าน้ำมัน ค่ากิน และเงินสำรอง เผื่อฉุกเฉิน เพราะบางคน นั้น อย่างตัวผมเองนี่แหละ เป็นพวกเก็บเงินไม่อยู่ตัวพ่อเลย ทันทีที่เงินออก บางทีอาทิตย์แรก ก็ใช้ไปเกินครึ่ง แล้ว แม้จะพยายามวางแผนอย่างดี แต่ก็ พลาดอยู่บ่อยๆ ดังนั้นพอเงินออก ก็จะซื้อของใช้ที่จำเป็นไว้แบบครบๆ เลย

 

หาทางนำเงินไปลงทุน

หากรู้ว่าตัวเองเป็นคนเก็บเงินไม่อยู่ ต้องพยายามหาทางนำเงินไปลงทุน แบ่งเงินเดือนไปลงทุน แบบต่างๆ เช่น ซื้อหุ้นปันผล ผ่อน บ้าน คอนโดให้ เช่า ซื้อประกันชีวิต ฯลฯ หาทางนำเงินไปลงทุน โดยหักเงินออกจากบัญชีทันที แล้วก็พยายามทำใจว่า มีเงินเดือนเหลือ แค่นั้น เหลือแค่ไหนก็ต้อง พยายามใช้ให้หมดเช่นกัน เหอๆๆ

 

เมื่อเงินลงทุนมีมากพอและเริ่มเกิดดอกออกผล ชีวิตก็จะไม่ลำบาก หากทำต่อเนื่องไปเป็นสิบๆ ปี จนเกษียณแล้ว ก็จะมีเงินปันผล หรือดอกเบี้ย หรือค่าเช่าจากบ้าน คอนโด ฯลฯ คราวนี้ก็ไม่ลำบาก เพราะมีตู้ ATM ส่วนตัวที่คอยสร้างเงินให้ทุกเดือน จะใช้จนหมดก็ไม่ เป็นไร เดี๋ยวก็มีเข้ามาทุก เดือน หรือหากจะหาทางลงทุนเหมือนเดิมอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้มีเงินเข้ามาเรื่อยๆ ไม่มีหมด

 

เปลี่ยนเงินให้เป็นทรัพย์สินประเภทอื่น

การเปลี่ยนเงินให้เป็นทรัพย์สินประเภทอื่น อาจจะช่วยให้มีเงินเหลือเก็บ เช่น เปลี่ยนเป็นทอง หากมีปัญหาการเงิน ก็นำทองไปจำนำ ได้

 

เปลี่ยนเงินให้เป็นสินค้าทันที

วิธีนี้ให้นำเงินไปซื้อสินค้า เพื่อนำมาขายผ่านเน็ต ผ่านเฟสบุ๊ค โดยเน้นสินค้าทั่วไป สินค้าพื้นฐานหรือสินค้าที่จำเป็นจะต้องใช้ กรณีนี้ เงินจะไม่ถูกใช้ไปกับนิสัยฟุ่มเฟือยใช้เงินเก่ง หากสินค้าขายได้ ก็จะมีกำไร มีเงินให้ใช้จ่าย

 

เปลี่ยนที่อยู่ให้ห่างไกลชุมชน แหล่งสถานบันเทิง

สำหรับคนโสดขึ้เหงา มีโอกาสเสียเงินกับการดื่ม การเที่ยวเพื่อคลายเหงา ซึ่งมีรายจ่ายค่อนข้างสูง การหลบไปอยู่ในต่างจังหวัดไกล เพื่อนฝูง จะช่วยประหยัดเงินได้ การอยู่ในเมืองเจอกันทุกอาทิตย์รายจ่ายย่อมมากกว่านานๆ เจอกันที เพราะทุกครั้งที่เจอกัน ก็ไม่พ้น เรื่องดื่มเรื่องเที่ยว

 

บทสรุป

จากประสบการณ์ส่วนตัว เมื่อพบว่าตัวเองเป็นคนเก็บเงินไม่อยู่ก็แนะนำให้ทำดังนี้
1. ใช้ชีวิตเรียบง่าย หลีกเลียงเครื่องมือเครื่องใช้ หรือยานพาหนะอย่างรถยนต์ จักรยานยนต์ ห้ามใช้ เพราะจะยิ่งพาให้เสียเงินได้มากขึ้น การพนัน ห้ามแตะ
2. ทำบัญชี 2 บัญชี แล้วโอนเงินไปไว้อีกบัญชีหนึ่งทันทีที่เงินเดือนออก โดยเน้นค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่ต้องจ่ายทุกเดือน และเงินออมเพื่อ สำรองไว้ยามฉุก เฉิน ป้องกันการใช้เงินหมดก่อนสิ้นเดือน
3. นำเงินไปลงทุน แบ่งบางส่วนไปลงทุน เพื่อให้เงินช่วยสร้างรายได้ ในอนาคต อย่างการซื้อบ้าน คอนโดให้เช่า สลาก หุ้นปันผล ฯลฯ
4. หมั่นทำบุญ ฝึกสมาธิ แผ่เมตตา ฟังธรรมะเป็นประจำ เน้นการฝึกสมาธิแบบเดินจงกรม เพราะเป็นวิธีที่ช่วยฝึกให้สติเข้มแข็ง เมื่อสติ เข้มแข็ง ใจจะ มีพลัง สามารถควบคุมตัวเองได้มากขึ้น หักห้ามใจได้มากขึ้น และปลงได้มากขึ้น ก็จะลดๆ ความอยากใช้เงินได้ลงได้
5. ถ้ายังหยุดไม่ได้ ก็หาทางใช้ชีวิตให้มันพังไปข้าง ใช้เงินให้หมด จะได้เห็นนรก เห็นความลำบาก เป็นการลงโทษตัวเองทางอ้อม ให้เข็ด หลาบ ก็จะ เริ่มมีวินัยมากขึ้น หรืออย่างน้อยก็ดีขึ้น เพราะเมื่อใดที่เงินใกล้หมดก็จะเริ่มเห็นนรกที่จะตามมา แต่ปัจจุบันผ่านมาแล้ว หลายขุมก็ยังไม่สำนึก กลับยิ่งมีประสบการณ์ เหนื่อยใจ

 

เงินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีพของมนุษย์ในปัจจุบัน แต่การศึกษาและทำความเข้าใจกับเงินเป็นเรื่องสำคัญ หากใช้ไม่เป็น ก็มี แต่ผลเสีย ตามมา การใช้เงินฟุ่มเฟือย หากใช้ผิดทาง ผิดศีลธรรม ผิดกฏหมายก็ย่อมจะนำพาตัวเองไปในทางไม่ดี หรือทำให้เป็นทุกข์ ในภายหลัง มีเงินมาก ใช้ ผิดมาก ความทุกข์ที่จะตามมาก็มากเช่นกัน

 

บทความนี้เขียนจากประสบการณ์ส่วนตัว ซึ่งขณะนี้ก็ยังแก้ได้บ้างเป็นบางช่วง และหลุดๆ บ้างเป็นบางครั้ง แล้วแต่การฝึกสมาธิ ฝึกสติ หากฝึกบ่อย ก็ควบคุมตัวเองได้ดี ห้ามใจไม่ให้ใช้เงินได้ เพราะการใช้เงินของผม จะออกไปในแนวการใช้เงินคั่นเวลา เป็นผู้บันเทิง การ อยู่คนเดียวนั้น ยากจริงๆ เงินจึงหมดไปกับการใช้จ่ายเพื่อคั่นเวลาไม่ให้ฟุ้งซ่าน เพราะอยู่คนเดียว แต่หากฝึกสมาธิ ก็จะปล่อยวางได้ เอาชนะความอยากใช้เงินในเรื่องที่ไม่จำเป็นได้

 

ท่านใดที่มีปัญหาคล้ายๆ กันก็ลองนำไปปรับใช้ดูครับ อาจจะช่วยให้เก็บเงินได้ อย่างน้อย ก็พยายามนำเงินไปลงทุน ซึ่งผมเองจะมี ปัญหาใช้เงิน เดือนชนเดือน แต่ก็ไม่หมด เพราะเงินที่ลงทุนนั้น สร้างรายได้เข้ามาทุกเดือน ไม่ต้องทำงานทุกวัน บางเดือนก็ไม่ทำ บางปี ก็ไม่ทำ นั่งๆ นอนๆ ก็มี เงินใช้ มากบ้างน้อยบ้าง แต่ก็มีใช้ และก็ใช้จนเกลี้ยงทุกเดือน ที่เหนื่อยใจก็คือ มักจะใช้จนหมดก่อนสิ้นเดือน ก่อนเงินเดือนออก เฮ่ออออ เหนื่อยใจจริงๆ เบื่อตัวเองอย่างที่สุด