บทความแสดงรูปแบบการใช้คำกริยา 3 ช่อง sight-read sight-read sight-read อ่านด้วยสายตา กับประโยคในภาษาอังกฤษหรือ Tense ทั้ง 12 แบบ เช่น Present Tense, Past Tense และ Future Tense โดยแต่ละแบบยังมีเท้นส์ย่อยอีก 4 แบบ รวมเป็น 12 แบบ ซึ่งจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจการใช้คำกริยา 3 ช่องนี้ มากยิ่งขึ้น

 

กริยาช่องที่ 1 / กริยาช่องที่ 2 / กริยาช่องที่ 3/ คำแปล

sight-read ไซ้-รีด /sight-read ไซ้-เรด / sight-read ไซ้-เรด / อ่านด้วยสายตา กริยานี้นิยมใช้กับการเล่นดนตรี เป็นความสามารถในการอ่านโน้ตดนตรีด้วยสายตา พร้อมกับเล่นเครื่องดนตรีไปด้วย คนที่เก่งๆ แค่เห็นโน้ตดนตรี ก็เล่นตามได้เลย แม้จะไม่เคยเล่นเพลงนั้นมาก่อนเลยก็ตาม

 

ตัวอย่างการใช้คำกริยานี้

ประโยค He sight-reads new music.
คำอ่าน ฮี ไซ้ รีดสึ นิว มิวสิก
คำแปล เขาอ่าน /He sight-reads โน้ตดนตรีใหม่ด้วยสายตา /simple music พร้อมกับเล่นเครื่องดนตรีไปด้วยกัน เป็นความสามารถในการเล่นดนตรี โดยเมื่อเห็นโน้ตดนตรีง่าย ก็สามารถอ่านได้ และเล่นเครื่องดนตรีไปตามโน้ตนั้นได้

คำแปล ประธานเอกพจน์ สิ่งเดียวอย่างเดียว เช่น The cat, A cat, He, She, It, This cat, That cat กริยาต้องเติม s

 

ตัวอย่างการใช้คำกริยานี้กับประโยคหรือ Tense 12 แบบ ในภาษาอังกฤษ

การนำคำกริยา 3 ช่อง ไปใช้สร้างประโยค เพื่อสื่อสาร สนทนา หรือการเขียน แต่ละคำอาจจะใช้ในบางสถานการณ์เท่านั้น ไม่ได้ใช้ครบทุก Tense ไม่นิยมพูดกัน หรือ นำไปแต่งประโยคภาษาอังกฤษ ตัวอย่างต่อไปนี้จึงเป็นเพียงรูปแบบการใช้คำกริยา 3 ช่อง กับ เท้นส์ ต่างๆ เท่านั้น

 

Tense 1 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Present Simple

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 โดยจะกล่าวถึง เรื่องที่เป็นข้อเท็จจริง เรื่องจริงในขีวิตประจำวัน หรือเรื่องราวที่เกิดวันนี้

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- วันนี้ ฉัน กินข้าวผัด * บอกเรื่องราวที่เกิดในวันนี้
- ฉันมีพี่ชาย 2 คน * บอกความจริง
- เธอร้องเพลงเก่งมาก
- ดวงอาทิตย์ ขึ้นทาง ทิศตะวันออก * ความจริง ข้อเท็จจริง
- สุนัขตัวผู้ คลอดลูกไม่ได้ * ความจริง ข้อเท็จจริง
- ทุเรียนมีกลิ่นเหม็นสำหรับบางคน หรือ ทุเรียนมีหนาม * เป็นเรื่องจริง ความจริง
- ฉันแปรงฟันทุกวัน
- ไปอาบน้ำได้แล้ว * ประโยคคำสั่ง หรือ ประโยคขอร้อง
- พวกเขาเล่นฟุตบอล
- ฉันทำการบ้าน

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + กริยาช่องที่ 1 + เติม s ออกเสียง สึ ท้ายคำด้วย ตัวอย่าง sight-read เป็น He sight-reads. / เขา อ่านด้วยสายตา
1. He sight-reads. (He เขาคนเดียว)
2. She sight-reads. (She เธอคนเดียว)
3. It sight-reads. (It มันตัวเดียว)
4. The boy sight-reads. (The boy จะหมายถึง เด็กชายหนึ่งคน หรือ คนเดียว)
5. A boy sight-reads. (A boy จะหมายถึง เด็กชายคนเดียว หรือ หนึ่งคน)
6. This boy sight-reads. (This boy จะหมายถึง เด็กชายคนนี้คนเดียว)
7. That dog sight-reads. (That dog จะหมายถึง สุนัขตัวนั้นตัวเดียว มีแค่ 1 ตัว)
8. Somchai sight-reads. (Somchai สมชายเพียงคนเดียว เท่านั้น)

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + กริยาช่องที่ 1 + ไม่เติม s ตัวอย่างเช่น sight-read เป็น We sight-read. / พวกเรา อ่านด้วยสายตา
1. You sight-read. (You คุณ หรือพวกคุณ มีหลายคน)
2. We sight-read. (We พวกเรา มีหลายคน)
3. They sight-read. (They พวกเขามีหลายคน)
4. These boys sight-read. (These boys คำว่า boy เติม s จะหมายถึง เด็กชายเหล่านี้ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป)
5. Those boys sight-read. (Those boys คำว่า boy เติม s จะหมายถึง เด็กชายเหล่านั้นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป)
6. The boys sight-read. (The boys คำว่า boy เติม s จะหมายถึง เด็กชายตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป)
7. Somchai and Somsak sight-read. (Somchai and Somsak สมชายและสมศักดิ์รวมกันเป็น 2 คน)
8. I sight-read. ** I เป็นข้อยกเว้น กริยาไม่ต้องเติม s แม้ว่า I จะเป็นเอกพจน์

 

Tense 2 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Present Continuous

  ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ ขณะนี้ ของวันนี้ กำลังทำอะไรอยู่ในขณะนี้ จะมีคำว่า กำลัง ในประโยคด้วย

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- ขณะนี้พวกเรากำลังเล่นฟุตบอล
- ตอนนี้ฉันกำลังทำการบ้าน
- วันนี้ ตอนที่คุณโทรศัพท์มา ฉันกำลังอาบน้ำอยู่

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + is + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น sight-read เป็น He is sight-reading. / เขากำลัง อ่านด้วยสายตา อยู่ในตอนนี้ ขณะนี้
1. He is sight-reading.
2. She is sight-reading.
3. It is sight-reading.
4. The boy is sight-reading.
5. A boy is sight-reading.
6. This boy is sight-reading.
7. That dog is sight-reading.
8. Somchai is sight-reading.
9. I am sight-reading. * ยกเว้น I จะใช้ I am

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + are + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น sight-read เป็น We are sight-reading. / พวกเรากำลัง อ่านด้วยสายตา อยู่ในตอนนี้ ขณะนี้
1. you are sight-reading.
2. We are sight-reading.
3. They are sight-reading.
4. The boys are sight-reading.
5. These boys are sight-reading.
6. Those boys are sight-reading.
7. Somchai and Somsak are sight-reading.

Tense 3 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Present Perfect Simple

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 3 โดยจะล่าวถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นในวันนั้นหรือขณะที่ได้พูดถึง เหตุการณ์นั้นได้จบลงแล้ว เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำสิ่งนั้น ทำสิ่งนี้เสร็จแล้ว ประโยคเหล่านี้จะมีคำว่า ได้ทำแล้ว หรือ เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว แล้ว

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- วันนี้ ตอนที่คุณโทรศัพท์มา ฉันได้อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว
- วันนี้ ฉันได้ทำการบ้านเสร็จแล้ว
- เวลานี้ พวกเขาได้หยุดเล่นฟุตบอลแล้ว
- พวกเขาได้ประชุมเสร็จแล้ว
- ฉันทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + has + กริยาช่องที่ 3 เช่น sight-read เป็น He has sight-read. / เขาได้ อ่านด้วยสายตา แล้ว หรือ เรียบร้อยแล้ว หรือ เสร็จแล้ว
1. He has sight-read.
2. She has sight-read.
3. It has sight-read.
4. The boy has sight-read.
5. A boy has sight-read.
6. This boy has sight-read.
7. That boy has sight-read.
8. Somchai has sight-read.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + have + กริยาช่องที่ 3 เช่น sight-read เป็น We have sight-read. / พวกเราได้ อ่านด้วยสายตา แล้ว หรือ เรียบร้อยแล้ว หรือ เสร็จแล้ว
1. You have sight-read.
2. We have sight-read.
3. They have sight-read.
4. These boys have sight-read.
5. Those boys have sight-read.
6. The boys have sight-read.
7. Somchai and Somsak have sight-read.
8. I have sight-read. ** I เป็นข้อยกเว้น ใช้กับ have แม้ว่า I จะเป็นเอกพจน์

 

Tense 4 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Present Perfect Continuous

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยไม่ได้หยุดพักเลย ในช่วงเวลาหนึ่งของวันนั้น วันนี้ ตัวอย่างเช่น

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- วันนี้ ตั้งแต่เวลา 8:00 จนถึงขณะนี้ ฉันได้ประชุมมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พูดถึง ก็ยังไม่เลิกประชุม หรือ เขาได้เข้าประชุมมาตั้งแต่ 8 โมงเช้าแล้ว (ขณะนี้ก็ยังประชุมอยู่)
- เขาได้ทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้ว ยังไม่หยุดเลย ขณะที่พูดถึงนี้ เขาก็ยังไม่หยุด
- พวกเขาขับรถมา 6 ชั่วโมงกว่าแล้ว (ขณะที่พูดถึงนี้ พวกเขาก็ยังขับรถอยู่ ยังไม่หยุดพักรถ พักคน)
- เขานั่งทำการบ้านมาตั้งแต่เช้า (ขณะที่พูดถึงเขา เขาก็ยังทำอยู่ ยังทำไม่เสร็จ )
- พวกเขาเล่นฟุตบอลมา 2 ชั่วโมงแล้ว (ขณะที่พูดถึง พวกเขาก็ยังเล่นอยู่ ยังไม่เลิกเล่น)

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + has + been + กริยาช่องที่ 1 เติม ing เช่น sight-read เป็น He has been sight-reading. / เขาได้ อ่านด้วยสายตา มาตั้งแต่เวลา (เช้า, 8 โมงเช้า, เที่ยง) แล้ว ขณะนี้ก็ยังทำอยู่
1. He has been sight-reading.
2. She has been sight-reading.
3. It has been sight-reading.
4. The boy has been sight-reading.
5. A boy has been sight-reading.
6. This boy has been sight-reading.
7. That boy has been sight-reading.
8. Somchai has been sight-reading.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + have + been + กริยาช่องที่ 1 เติม ing เช่น sight-read เป็น We have been sight-reading. / พวกเราได้ อ่านด้วยสายตา มาตั้งแต่เวลา (เช้า, 8 โมงเช้า, เที่ยง) แล้ว ขณะนี้ก็ยังทำอยู่
1. You have been sight-reading.
2. We have been sight-reading.
3. They have been sight-reading.
4. These boys have been sight-reading.
5. Those boys have been sight-reading.
6. The boys have been sight-reading.
7. Somchai and Somsak have been sight-reading.
8. I have been sight-reading. ** I เป็นข้อยกเว้น ต้องใช้กับ have แม้ว่า I จะเป็นเอกพจน์

 

Tense 5 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Past Simple

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 2 โดยจะกล่าวถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว อาจจะมีคำที่สื่อความหมายให้รู้ อย่างคำว่า เมื่อวานนี้ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เมื่อวานนี้ ฉัน กินข้าวผัด
- เมื่อวาน เขาอาบน้ำครั้งเดียว
- พวกเขาเล่นฟุตบอล สัปดาห์ที่แล้ว
- เมื่อวานนี้ฉันทำการบ้าน
- เมื่อวานนี้พวกเรามีประชุม หรือได้เข้าร่วมประชุม

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + กริยาช่องที่ 2 เช่น sight-read เป็น He sight-read. / เขา อ่านด้วยสายตา แล้ว เมื่อวานนี้
1. He sight-read.
2. She sight-read.
3. It sight-read.
4. The boy sight-read.
5. A boy sight-read.
6. This boy sight-read.
7. That boy sight-read.
8. Somchai sight-read.
9. I sight-read.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + กริยาช่องที่ 2 เช่น sight-read เป็น We sight-read. / พวกเรา อ่านด้วยสายตา แล้ว เมื่อวานนี้
1. You sight-read.
2. We sight-read.
3. They sight-read.
4. These boys sight-read.
5. Those boys sight-read.
6. The boys sight-read.
7. Somchai and Somsak sight-read.

 

Tense 6 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Past Continuous

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกลาวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต โดยมีลักษณะเป็นการกระทำที่มีความต่อเนื่อง

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เมื่อวานนี้ ตอนที่เธอโทรศัพท์มา ฉันกำลังทำการบ้านอยู่
- เมื่อวานเวลานี้ พวกเรากำลังเล่นฟุตบอล
- อาทิตย์ที่แล้ว วันนี้ ฉันกำลังทำการบ้าน
- เมื่อวานนี้เวลา 8 โมงเช้า ฉันกำลังกินข้าวผัดอยู่

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + was + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น sight-read เป็น He was sight-reading. / เขากำลัง อ่านด้วยสายตา เมื่อวานนี้ หรือสัปดาห์ที่แล้ว ปีที่แล้ว ในอดีตที่ผ่านมาแล้ว
1. He was sight-reading.
2. She was sight-reading.
3. It was sight-reading.
4. The boy was sight-reading.
5. A boy was sight-reading.
6. This boy was sight-reading.
7. That boy was sight-reading.
8. Somchai was sight-reading.
9. I was sight-reading.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + were + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น sight-read เป็น We were sight-reading. / พวกเรากำลัง อ่านด้วยสายตา เมื่อวานนี้ หรือสัปดาห์ที่แล้ว ปีที่แล้ว ในอดีตที่ผ่านมาแล้ว
1. You were sight-reading.
2. We were sight-reading.
3. They were sight-reading.
4. The boys were sight-reading.
5. These boys were sight-reading.
6. Those boys were sight-reading.
7. Somchai and Somsak were sight-reading.

 

Tense 7 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Past Perfect Simple

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 3 โดยจะกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต ในช่วงเวลาหนึ่ง ที่ได้จบลงไปแล้ว มักจะใช้พูดถึง 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำใดๆ โดยมักจะมีคำว่า เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว หรือ แล้ว ในประโยคนั้นๆ ที่บอกให้รู้ว่าเป็น Past Perfect Simple

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- ตอนที่คุณโทรศัพท์มา ฉันได้อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว (การกระทำ อาบน้ำ ได้เกิดขึ้นก่อน คุณจะโทรศัพท์เข้ามา และฉัน ก็ได้อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว )
- เมื่อวานนี้ตอนที่พ่อแม่มาถึงบ้าน ฉันก็ได้กินอาหารเที่ยงเรียบร้อยแล้ว (ฉันได้กินอาหารเที่ยง เกิดขึ้นก่อน พ่อแม่จะมาถึง และก็จบลงแล้ว กินข้าวเสร็จแล้ว )
- ก่อนฝนจะตกเมื่อวานนี้ พวกเขาก็ได้หยุดเล่นฟุตบอลแล้ว เลิกเล่นก่อนฝนจะตกลงมา
- เมื่อคืนนี้ ตอนที่คุณมาถึง ฉันก็ได้ทานอาหารค่ำเรียบร้อยแล้ว

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + had + กริยาช่องที่ 3 เช่น sight-read เป็น He had sight-read. / เขาได้ อ่านด้วยสายตา แล้ว หรือ เสร็จแล้ว หรือ เรียบร้อยแล้ว
1. He had sight-read.
2. She had sight-read.
3. It had sight-read.
4. The had sight-read.
5. A boy had sight-read.
6. This boy had sight-read.
7. That boy had sight-read.
8. Somchai had sight-read.
9. I had sight-read.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + had + กริยาช่องที่ 3 เช่น sight-read เป็น We had sight-read. / พวกเราได้ อ่านด้วยสายตา แล้ว หรือ เสร็จแล้ว หรือ เรียบร้อยแล้ว
1. You had sight-read.
2. We had sight-read.
3. They had sight-read.
4. These boys had sight-read.
5. Those boys had sight-read.
6. The boys had sight-read.
7. Somchai and Somsak had sight-read.

 

Tense 8 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Past Perfect Continuous

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต โดยเหตุการณ์นั้นมีลักษณะต่อเนื่อง มักจะใช้พูดถึงเหตุการณ์ หรือสิ่งที่เกิดขึ้น 2 เหตุการณ์ ในเวลาเดียวกัน

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เมื่อวานนี้ ตอนที่ลูกค้ามาถึงบริษัท พวกเขาก็ได้ประชุมกันมาตั้งแต่เวลา 8:00 เช้าแล้ว (การประชุมมีความต่อเนื่อง และขณะที่ลูกค้ามาถึง ก็ยังประชุมอยู่)
- เขาได้ทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้ว ก่อนที่คุณจะมาถึง (การทำงานมีความต่อเนื่อง แม้ว่าคุณจะมาถึงแล้ว แต่เขาก็ยังทำงานต่อ ยังไม่หยุด)
- เมื่อวาน พวกเขาได้ขับรถมา 6 ชั่วโมงกว่าแล้ว ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ (การขับรถเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องในอดีต)
- เขาได้นั่งทำการบ้านมาตั้งแต่เช้าแล้ว ก่อนพ่อแม่มาถึง (ทำการบ้าน เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง)
- พวกเขาได้เล่นฟุตบอลมา 2 ชั่วโมงแล้ว ก่อนฝนตก (เล่นฟุตบอลเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง)

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + had + been + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น sight-read เป็น He had been sight-reading. / เขาก็ได้ อ่านด้วยสายตา มาแล้วตั้งแต่เวลา
1. He had been sight-reading.
2. She had been sight-reading.
3. It had been sight-reading.
4. The boy had been sight-reading.
5. A boy had been sight-reading.
6. This boy had been sight-reading.
7. That boy had been sight-reading.
8. Somchai had been sight-reading.
9. I had been sight-reading.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + had + been + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น sight-read เป็น We had been sight-reading. / พวกเราก็ได้ อ่านด้วยสายตา มาแล้วตั้งแต่เวลา
1. You had been sight-reading.
2. We had been sight-reading.
3. They had been sight-reading.
4. These boys had been sight-reading.
5. Those boys had been sight-reading.
6. The boys had been sight-reading.
7. Somchai and Somsak had been sight-reading.

 

Tense 9 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Future Simple

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 โดยจะกล่าวถึงเรื่องที่จะเกิดในอนาคต พรุ่งนี้ หรือ อีกหลายวันข้างหน้า หรือในอนาคต มีคำว่า จะ (ทำอะไร) ในประโยค
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- วันพรุ่งนี้ ฉันจะกินข้าวผัด
- พร่งนี้ฉันจะไปอาบน้ำอุ่น
- พวกเขาจะเล่นฟุตบอลพรุ่งนี้
- ฉันจะทำการบ้านพรุ่งนี้
- พวกเขาจะประชุมวันศุกร์นี้

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + กริยาช่องที่ 1 เช่น sight-read เป็น He will sight-read. / เขาจะ อ่านด้วยสายตา
1. He will sight-read.
2. She will sight-read.
3. It will sight-read.
4. The boy will sight-read.
5. A boy will sight-read.
6. This boy will sight-read.
7. That boy will sight-read.
8. Somchai will sight-read.
9. I will sight-read.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + กริยาช่องที่ 1 เช่น sight-read เป็น We will sight-read. / พวกเราจะ อ่านด้วยสายตา
1. You will sight-read.
2. We will sight-read.
3. They will sight-read.
4. These boys will sight-read.
5. Those boys will sight-read.
6. The boys will sight-read.
7. Somchai and Somsak will sight-read.

Tense 10 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Future Continuous

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีความหมายว่า กำลังอยู่ระหว่างทำเหตุการณ์นั้นในอนาคต
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เวลา 10 โมงเช้าพรุ่งนี้ ฉัน จะกำลัง อาบน้ำ
- พรุ่งนี้แปดโมงเช้า ฉัน จะกำลัง ประชุมอยู่
- พรุ่งนี้เที่ยงตรง เรา จะกำลังกินข้าว เที่ยงกันอยู่ที่โรงแรม

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + be + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น sight-read เป็น He will be sight-reading. / เขาจะกำลัง อ่านด้วยสายตา
1. He will be sight-reading.
2. She will be sight-reading.
3. It will be sight-reading.
4. The boy will be sight-reading.
5. A boy will be sight-reading.
6. This boy will be sight-reading.
7. That bog will be sight-reading.
8. Somchai will be sight-reading.
9. I will be sight-reading.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + be + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น sight-read เป็น We will be sight-reading. / พวกเราจะกำลัง อ่านด้วยสายตา
1. You will be sight-reading.
2. We will be sight-reading.
3. They will be sight-reading.
4. These boys will be sight-reading.
5. Those boys will be sight-reading.
6. The boys will be sight-reading.
7. Somchai and Somsak will be sight-reading.

 

Tense 11 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Future Perfect Simple

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 3 โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่จะจบลงในเวลาที่กำหนด มักจะมีคำว่า แล้ว เรียบร้อยแล้ว เสร็จแล้ว ในประโยค
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เวลา 10 โมงเช้าพรุ่งนี้ ฉันจะได้ประชุมสร็จแล้ว
- เวลาบ่ายโมงพรุ่งนี้ พวกเราจะหยุดเล่นฟุตบอลแล้ว
- พรุ่งนี้ 5 โมงเย็น ฉันจะเรียนดนตรีเสร็จแล้ว
- เมื่อคุณมาถึงโรงแรม พวกเราจะกินข้าวเที่ยงเสร็จแล้ว

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + have + กริยาช่องที่ 3 เช่น sight-read เป็น He will have sight-read. / เขาจะได้ อ่านด้วยสายตา เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว
1. He will have sight-read.
2. She will have sight-read.
3. It will have sight-read.
4. The boy will have sight-read.
5. A boy will have sight-read.
6. This boy will have sight-read.
7. That boy will have sight-read.
8. Somchai will have sight-read.
9. I will have sight-read.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + have + กริยาช่องที่ 3 เช่น sight-read เป็น We will have sight-read. / พวกเราจะได้ อ่านด้วยสายตา เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว
1. You will have sight-read.
2. We will have sight-read.
3. They will have sight-read.
4. These boys will have sight-read.
5. Those boys will have sight-read.
6. The boys will have sight-read.
7. Somchai and Somsak will have sight-read.

 

Tense 12 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Future Perfect Continuous

  ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่มีลักษณะเป็นการกระทำอย่างต่อเนื่อง จะได้กำลังทำอะไรบางอย่าง ในช่วงเวลาที่กำหนด ประโยคในลักษณะนี้ไม่ค่อยได้ใช้กันบ่อยนัก ใช้น้อยมากในการแต่งประโยค หรือสนทนา พูดจากัน
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- ก่อนที่ผมจะไปถึงที่บ้านพรุ่งนี้เวลา 10 โมงเช้า คุณจะได้กำลังเตรียมตัวสัก 2 ชั่วโมง (กำลังเตรียมตัวเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง ต้องทำนู่น นี่ จัดของ ฯลฯ )
- พรุ่งนี้เวลา 8:00-10:00 น. พวกเราจะได้กำลังประชุมกันอยู่ (กำลังประชุม เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง)
- พรุ่งนี้ 10 โมงเช้า คุณจะได้กำลังใช้อินเตอร์เน็ตประมาณ 2 ชั่วโมง
- ฉันจะได้กำลังเรียนกีตาร์ 3 เดือน ในปีหน้า

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + have + been + กริยาช่องที่ 1 เติม ing เช่น sight-read เป็น He will have been sight-reading. / เขา จะได้กำลัง อ่านด้วยสายตา
1. He will have been sight-reading.
2. She will have been sight-reading.
3. It will have been sight-reading.
4. The boy will have been sight-reading.
5. A boy will have been sight-reading.
6. This boy will have been sight-reading.
7. That boy will have been sight-reading.
8. Somchai will have been sight-reading.
9. I will have been sight-reading.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + have + been + กริยาช่องที่ 1 เติม ing เช่น sight-read เป็น We will have been sight-reading. / พวกเรา จะได้กำลัง อ่านด้วยสายตา
1. You will have been sight-reading.
2. We will have been sight-reading.
3. They will have been sight-reading.
4. These boys will have been sight-reading.
5. Those boys will have been sight-reading.
6. The boys will have been sight-reading.
7. Somchai and Somsak will have been sight-reading.

 

การใช้คำกริยานี้กับ Going to

'

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีความหมายว่า กำลังจะ ไปทำ ..อะไร..บางอย่าง ความหมายจะคล้ายกับเท้นส์ Present Continuous Tense ประธาน + will + กริยาช่องที่ 1

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- ฉัน กำลังจะ ไปกิน ผลไม้
- ฉัน กำลังจะ ไปประชุม
- ฉัน กำลังจะไป ทำการบ้าน

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + is + going to + กริยาช่องที่ 1 เช่น sight-read เป็น He is going to sight-read. / เขา กำลังจะไป อ่านด้วยสายตา
1. He is going to sight-read.
2. She is going to sight-read.
3. It is going to sight-read.
4. The boy is going to sight-read.
5. A boy is going to sight-read.
6. This boy is going to sight-read.
7. That boy is going to sight-read.
8. Somchai is going to sight-read.
9. I am going to sight-read. ** I จะใช้ am

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + are + going to + กริยาช่องที่ 1 เช่น sight-read เป็น We are going to sight-read. / พวกเรา กำลังจะไป อ่านด้วยสายตา
1. You are going to sight-read.
2. We are going to sight-read.
3. They are going to sight-read.
4. These boys are going to sight-read.
5. Those boys are going to sight-read.
6. The boys are going to sight-read.
7. Somchai and Somsak are going to sight-read.

 

สรุป

คำกริยา 3 ช่อง แต่ละคำจะมีรูปแบบการใช้กับเท้นส์ (Tense) ทั้ง 12 แบบ เป็นรูปแบบมาตรฐาน แต่โอกาสจะได้ใช้หรือนำไปแต่งประโยค เพื่อใช้สื่อสารในชีวิตจริงมากน้อยต่างกันไป กริยาบางคำอาจจะใช้กับเท้นส์เพียงไม่กี่เท้นส์เท่านั้น และในเท้นส์นั้นๆ ก็อาจจะใช้บางประธานของประโยคเท่านั้น ส่วนผู้ที่จะได้ใช้ทั้งหมดทุกเทนส์ก็จะมีเพียงผู้ที่ศึกษาภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำรายงานส่งอาจารย์