บทความนี้จะมาแนะนำแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้น เมื่ออยู่ในสถานการณ์ น้ำมันรถใกล้จะหมด ซึ่งคนใช้รถยนต์มีโอกาสเจอ เพราะบางครั้งอาจจะลืมเติมน้ำมัน หรือ ชะล่าใจเกินไปคิดว่าน่าจะหาปั๊มน้ำมันได้ไม่ยาก แนวทางแก้ปัญหาก็มีหลายวิธี เช่น ขับรถให้ช้าลง หลีกเลี่ยงเส้นทางรถติด ฯลฯ

 

การใช้รถยนต์ในชีวิตประจำวันมีโอกาสเจอกับสถานการณ์น่าตื่นเต้น น้ำมันใกล้หมด ยิ่งมีไฟเตือน ยิ่งลุ้นระทึก โดยเฉพาะหากอยู่ในสถานที่ที่ห่างไกล หรือ ยากต่อการเดินทางไปหาปั๊มน้ำมัน เช่น อยู่บนเขา อย่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อยู่บนทางด่วน อยู่ในป่าที่ห่างใกลชุมชน

 

แนวทางรับมือเบื้องต้นเมื่อ น้ำมันรถยนต์ใกล้หมด

วิธีรับมือเมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ ก็มีหลายวิธี

1. ตั้งสติ

1. หากสามารถหาที่จอดรถในที่ปลอดภัย ไม่กีดขวางการจราจรได้ ก็จอดรถดับเครื่องก่อนดีกว่าขับไปแล้วเครื่องยนต์ดับในที่คับขัน การจราจรติดขัด รถหนาแน่น
2. หาข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางขับรถ และวางแผนเส้นทาง
3. ใช้มือถือค้นหาปั๊มน้ำมันที่อยู่ใกล้ๆ
4. หาข้อมูลวิธีขับรถประหยัดน้ำมัน ว่าต้องทำอย่างไร
5. หาข้อมูลรถตำรวจทางหลวง กู้ภัย

 

2. ทำความเข้าใจปัจจัยที่จะทำให้น้ำมันรถหมดเร็วขึ้น

การทำความเข้าใจกับปัจจัยหรือสิ่งที่มีผลทำให้น้ำมันรถหมดเร็วมากขึ้น มีหลายเรื่องเช่น
1. จำนวนผู้โดยสารในรถ ข้าวของที่บรรทุกติดรถ ยิ่งมาก จะทำให้กินน้ำมันมาก น้ำมันรถหมดเร็วขึ้น
2. สภาพจราจร มีไฟแดงมาก โค้งมาก ต้องหยุดรถ ชะลอรถบ่อยๆ บวกกับผู้โดยสาร หรือ บรรทุกหนัก ก็จะยิ่งกินน้ำมันมากขึ้น


3. รถเก่าแล้วอัตราบริโภคน้ำมันจะมากขึ้น อย่างคันนี้ เมื่อก่อนเติมเต็มถังวิ่งได้เกิน 600 กิโลเมตร แต่เมื่อเลขไมล์มากขึ้น ก็ไปได้แค่ 500 กว่ากิโลเมตรเท่านั้นเอง ดังนั้นวิธีคำนวณอัตราบริโภคน้ำมันจำเป็นจะต้องตรวจสอบรถของตัวเอง อย่าไปอิงกับข้อมูลในเน็ต ในยูทูป รถใครรถมัน แม้จะเป็นรถรุ่นเดียวกันก็ตาม ไม่มีทางเท่ากัน

 

4. การใช้ความเร็วเร็วสูง จะยิ่งทำให้น้ำมันหมดเร็ว บางคนรีบหวังจะไปให้ถึงปั๊มน้ำมันเร็วๆ ยิ่งรีบ น้ำมันยิ่งลดเร็ว
5. การเปิดแอร์ทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น
6. การขับรถขึ้นเขาลงเขา รถจะกินน้ำมันมากเช่นกัน และมากกว่าทางราบ

 

3. ขับรถยนต์ให้ช้าลง

การใช้ความเร็วต่ำ ขับรถช้าๆ การกินน้ำมันรถจะน้อยกว่า การขับรถเร็ว
1. รถยนต์เกียร์อัตโนมัติ อาจจะใช้ความเร็วต่ำที่สุด ก็คือ ปล่อยให้รถวิ่งไปเอง ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากเป็นการเดินทางในต่างจังหวัด ถนนค่อนข้างโล่ง กรณีนี้ใช้น้ำมันน้อยที่สุด แต่กรณีบรรทุกหนักอาจจะไม่ไหว
2. ใช้ความเร็วต่ำ เช่น ประมาณ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และใช้ความเร็วคงที่ อย่าเร่งความเร็ว บางคนเห็นว่าน้ำมันรถใกล้จะหมด ก็เร่งเครื่อง ยิ่งเร่งความเร็ว ก็ยิ่งกินน้ำมันมากขึ้น น้ำมันหมดเร็วมากขึ้น
3. ปิดแอร์ขณะขับรถ จะช่วยประหยัดน้ำมันได้เช่นกัน
4. กรณีจะต้องหยุดรถบ่อยๆ การออกตัวต้องช้า และนิ่มนวล อย่ากระชาก จะยิ่งกินน้ำมันมากขึ้น

 

4. เลือกเส้นทางขับรถที่ประหยัดน้ำมัน

1. เลือกเส้นทางขับรถที่ประหยัดน้ำมัน เช่น ไฟแดงน้อย
2. เน้นเส้นทางที่มุ่งไปหาปั๊มน้ำมันไว้ก่อน แม้ว่าจะออกนอกเส้นทางก็ตาม เพราะหากน้ำมันหมด การเดินทางไปยังปั๊มน้ำมันก็จะใกล้มากขึ้น
3. กรณีการจราจรติดขัด คับคั่ง อาจจะรอก่อน ให้ถนนโล่งก่อน เพราะจะสามารถขับรถด้วยความเร็วต่ำได้ ไม่ขวางรถคันอื่น

 

5. การขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น

กรณีอยู่ในสถานที่ที่สร้างปัญหาในการขนย้ายรถ หรือ ยากต่อการช่วยเหลือ เช่น บนเขา บนทางด่วน ในป่า
1. หาข้อมูลตำรวจทางหลวง หรือ โทร 1193
2. ติดต่อขอความช่วยเหลือกับแท็กซี่ วินรถมอเตอร์ไซค์ หรือ กู้ภัย การขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ต้องระวังคนร้าย

 

แนวทางป้องกัน

ปัญหา น้ำมันรถใกล้หมด ขณะเดินทาง อาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยๆ แต่ก็ควรศึกษาแนวทางป้องกันปัญหาเอาไว้ก่อน เช่น
1. หมั่นสังเกตุระยะทางที่รถวิ่งได้ เมื่อเติมน้ำมัน เต็มถัง ครึ่งถัง หรือเมื่อเข็มอยู่ตรงตัว E แล้ว ยังวิ่งต่อไปได้อีกประมาณกี่กิโลเมตร ในรถยนต์ใหม่ ยังประหยัดน้ำมัน จะวิ่งได้ไกลกว่า รถเก่า อย่างคันนี้วิ่งไปแสนห้าหมื่นกว่ากิโลเมตรแล้ว ระยะทางก็จะวิ่งได้น้อยกว่าเมื่อครั้งยังเป็นรถใหม่


2. คำนวณอัตรากินน้ำมันของรถยนต์ที่ใช้อยู่ เพื่อจะได้รู้ว่า ควรเติมน้ำมันมากน้อยเพียงใด ให้เพียงพอกับสถานที่จะเดินทางไปและกลับ โดย
- เติมน้ำมันเต็มถัง จดเลขไมล์ จดปริมาณน้ำมันที่เติมเอาไว้ กี่ลิตร
- ขับรถไปสักระยะ ไปเติมน้ำมันที่เติม เน้นหัวเติมเดิม จดเลขไมล์ และปริมาณน้ำมันที่เติม (ลิตร)
- จากนั้นนำระยะทางมาลบกัน เช่น หลังเติมเลขไมค์ 150,500 ลบ ก่อนเติมเลขไมค์ 150,000 กิโลเมตร ก็จะได้ระยะทาง 500 กิโลเมตร สมมุติว่าเติมน้ำมันไป 40 ลิตร อัตรากินน้ำมันก็จะอยู่ที่ 500 หาร 40 = 12.5 กิโลเมตรต่อลิตร
คราวนี้หากจะต้องเดินทางไปไหน ก็ดูว่า ต้องเดินทางกี่กิโลเมตร แล้วก็เติมน้ำมันเผื่อเอาไว้ประมาณนั้น


3. หาแกลลอน ถังน้ำมัน ขวดน้ำ ติดรถยนต์เอาไว้ เผื่อน้ำมันหมดกลางทาง โดยเฉพาะหากจะต้องเดินทางไกล
4. อย่าประมาท เมื่อจะต้องเดินทางไปต่างถิ่น ขึ้นเขา เข้าป่า ออกต่างจังหวัด ควรเติมน้ำมันหรือหาข้อมูลปั้มน้ำมันอย่างละเอียด
5. หลังเติมน้ำมัน เมื่อสตาร์ตเครื่องยนต์แล้วต้องดูเข็มน้ำมัน ถ้าไม่ขึ้น อาจจะเจอเติมลมเข้าไป ไม่มีน้ำมันเข้าไป ผู้เขียนเคยเจอกับตัวเองมาแล้ว เติมน้ำมัน 500 บาท เข็มก็ยังอยู่ที่ตัว E จนกระทั่งไฟแดงเตือน จึงรู้ว่าไม่มีน้ำมันเข้ารถเลย

 

สรุป

รถยนต์ต้องเติมน้ำมันจึงจะวิ่งได้ แต่บางครั้งก็มีเหตุทำให้ต้องเจอกับสถานการณ์บีบหัวใจ น้ำมันใกล้หมด โดยเฉพาะ หากอยู่บนทางด่วน อยู่ในป่า อยู่บนเขา จะยิ่งสร้างความระทึกใจ วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ต้องหาทางป้องกัน อย่าประมาท เพราะรถยนต์มีขนาดใหญ่ การเคลื่อนย้ายไม่ง่ายเหมือนมอเตอร์ไซค์ น้ำมันหมดก็เข็นได้