ถ้าอยู่ดีๆ แบตเตอรี่รถยนต์เกิดเสื่อมสภาพ หมดอายุการใช้งาน และอยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ด้วยตัวเอง มือใหม่ ที่ไม่มีความรู้เรื่องรถมากนัก ก็สามารถทำเองได้ ซึ่งก็มีหลายวิธี เช่น นั่งรถมอเตอร์ไซต์ไปซื้อจากร้านไดนาโม ร้านขายอะไหล่รถยนต์ แล้วมาเปลี่ยนเอง หรือ นั่งรถไปยังร้าน ให้พนักงานในร้านนำมาเปลี่ยนให้ เป็นต้น

 

แบตเตอรี่รถยนต์ หรือ แม้แต่รถมอเตอร์ไซค์ จะมีโอกาสเสื่อมสภาพ หมดอายุการใช้งานในเวลาประมาณ 3 ปี หากได้เขียนวันที่กำกับเอาไว้ วันใดที่รถยนต์สตาร์ตไม่ติด บิดกุญแจแล้วไม่มีไฟแสดงบนหน้าปัดเรือนไมล์ แต่อย่างใด เงียบไม่มีเสียง ก็แสดงว่า ได้เวลาจะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว บางครั้งอาจจะเกิดปัญหาแบบนี้ที่บ้านหรือนอกบ้าน หรือไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใด ก็ตาม และจำเป็นจะต้องช่วยเหลือตัวเอง ก็อาจจะปฏิบัติดังนี้

 

วิธีที่ 1 รถเกียร์ธรรมดาให้สตาร์ตด้วยการเข็น

ถ้าอุปกรณ์ชิ้นอื่นไม่มีปัญหา เช่น ฟิวส์ไม่ขาด ไดสตาร์ทไม่เสีย รถเกียร์ธรรมดา สามารถเข็นเพื่อติดเครื่องได้ และเมื่อเครื่องติดแล้ว ก็ขับไปยังร้านไดนาโม อู่ใกล้บ้านได้เลย แต่ก็ต้องดูเวลาด้วย ไม่ใช่ว่า ไปในวัน หรือ เวลาที่ร้านปิดแล้ว

 

กรณีจะต้องเข็นรถ ให้บิดกุญแจตำแหน่งเปิดสวิทซ์เอาไว้ หรือ ออนเอาไว้ ใส่เกียร์ 3 เหยียบครัชค้างไว้ แล้วให้ผู้อื่นช่วยเข็นรถ เมื่อความเร็วรถได้ที่แล้ว ก็ปล่อยครัช แล้วเหยียบคันเร่ง เมื่อรถติดแล้วให้เหยียบครัช แล้วดันคันเกียร์ไปที่เกียร์ว่าง เร่งเครื่องเล็กน้อย จากนั้นก็ขับรถไปร้านหรืออู่ใกล้บ้านเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่

 

วิธีที่ 2 ไปซื้อแบตเตอรี่ด้วยตัวเอง เปลี่ยนแบตเตอรี่เอง

กรณีรถเสียข้างทาง รถเสียที่บ้าน ที่ทำงาน และต้องช่วยเหลือตัวเอง ไม่มีคนช่วยเหลือ ให้เปิดฝากระโปรงหน้า เอากล้องมือถือถ่ายภาพแบตเตอรี่รถเอาไว้ก่อน เพื่อที่ว่าเวลาไปที่ร้านอะไหล่รถยนต์ หรือ ร้านไดนาโม ก็จะได้เอารูปให้ดู อย่าลืมถ่ายรูปรถยนต์ของเราไปด้วย ทางร้านเห็นรูปก็จะรู้เอง ว่าเป็นยี่ห้ออะไร รุ่นไหน จากนั้นก็เดินทางไปยังร้านหรืออู่ใกล้เคียง

 

ในกรณีนี้ก็ตกลงสอบถามเรื่องการรับเทิร์นแบตเตอรี่เก่าด้วย ส่วนใหญ่จะให้ราคาประมาณ 200 บาท เช่น แบตเตอรี่ใหม่ 2000 เทิร์นได้ 200 บาท ก็จะจ่ายแค่ 1,800 บาท เป็นต้น จากนั้นก็สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจเช็คระบบอื่นๆ เช่น ไดชาร์จ ไดสตาร์จ ดูแผงฟิวส์ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ โดยกระทำหลังจากได้เปลี่ยนแบตเตอรี่เองแล้ว ก็ขับรถกลับมาที่ร้านเพื่อตรวจเช็ครถยนต์อีกที

 

การเปลี่ยนแบตเตอรี่เอง สิ่งสำคัญที่อาจจะต้องซื้อเพิ่ม หรือ อาจจะยืมทางร้านมาก่อน ก็คือ สายพ่วงแบตเตอรี่ และเมื่อได้แบตเตอรี่มาแล้ว ก็จัดการเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้เลย พ่วงแบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ให้ขั้วตรงกัน + กับ + และ - กับ - แล้วคลายน็อตขั้วแบตเตอรี่ออก ใช้ความระมัดระวัง การลัดวงจร อย่าให้ขั้วแบตเตอรี่สัมผัสกัน

 

ระหว่างคลายน็อตขั้วบวก การพ่วงแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ เพื่อให้มีไฟเลี้ยงระบบ จะไม่เสียเวลาตั้งค่านาฬิกา หรืออื่นๆ แต่หากไม่มีแบตเตอรี่มาใช้พ่วงเพื่อให้มีไฟเลี้ยง ก็ถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เลยเช่นกัน เพียงแต่หลังจากนั้น ก็จะต้องเซ็ตค่าต่างๆ เช่น นาฬิกา ให้กับระบบ ส่วนกรณีใช้รถที่มีระบบอิเล็คทรอนิกค่อนข้างมาก ก็ควรศึกษาให้ดีเสียก่อน การถอดแบตเตอรี่จะมีผลกระทบอะไรบ้าง

 

วิธีที่ 3 ตามช่างมาให้เปลี่ยนที่บ้าน

กรณีมีรถมอเตอร์ไซค์ มีรถยนต์สำรอง ก็ไปตามช่างมาเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่บ้านได้เลย อย่าลืมถ่ายรูปแบตเตอรี่ ถ่ายรูปยี่ห้อ รุ่นของรถไปให้ช่างดูด้วย เพื่อจะได้นำแบตเตอรี่สำรองมาเปลี่ยนได้ตรงรุ่น วิธีนี้ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกเล็กน้อย แต่วิธีที่จะเสียค่าใช้จ่ายน้อยหน่อย ก็เน้นขับรถของเราเองไปรับส่งช่าง อย่างไรเสีย ก็จะไม่บวกค่าแรง ค่าเสียเวลาเพิ่มมากนัก

 

การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยตัวเองเบื้องต้น

เมื่อมีรถยนต์ ก็ต้องหมั่นดูแล เพื่อป้องกันไม่ให้รถเสียกลางทาง จะสร้างปัญหา ในกรณีจะต้องเดินทางไปทำธุระสำคัญ การดูแลก็สามารถทำได้ง่ายๆ
1. เขียนวัน เดือน ปี ที่เปลี่ยนแบตเตอรี่ครั้งล่าสุด เอาไว้ที่ตัวแบตเตอรี่ เพื่อจะได้รู้วันที่และเวลาที่แบตเตอรี่จะเริ่มหมดสภาพ และอาจจะเปลี่ยนก่อนกำหนด เพื่อความสบายใจ อย่างคันนี้แบตเตอรี่รุ่นนี้ใช้ได้ประมาณ 3 ปี 6 เดือน ก็อาจจะเปลี่ยนก่อนสัก 2-3 เดือน ก็ได้


2. กรณีใช้แบตเตอรี่แบบต้องเติมน้ำกลั่น ก็หมั่นตรวจดูระดับน้ำกลั่นอย่าให้ลดลงกว่าที่กำหนด จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็ว


3. รถที่เน้นจอดเป็นหลัก ควรหาโอกาสขับทางไกลยาวๆ บ้าง เพื่อให้แบตเตอรี่ถูกชาร์จไฟให้เต็ม ไม่เช่นนั้นก็ต้องหาเครื่องชาร์จแบตเตอรี่แบบเสียบไฟบ้านมาไว้ใช้ ไม่เช่นนั้นแบตเตอรี่จะเสื่อมเร็ว