ดูการล้างรถด้วยตนเองไม่ยากและไม่ใช้เวลามาก เพียงแต่อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องพร้อมและมีเทคนิคในการล้าง คนอยู่หอพัก อยู่คอนโดไม่สะดวกเรื่องน้ำ หรืออยู่บ้านส่วนตัวใช้น้ำได้เต็มที่ วิธีล้างรถก็ต้องปรับใช้ให้เหมาะสม เพื่อให้รถดูดี โดยบางวิธีอาจใช้เวลาไม่นานประมาณ 10-20 นาทีเท่านั้น และยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้หลายร้อยบาท

 

หลายคนอาจจะล้างรถในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรืออาจจะล้างในวันทำงาน หากรถเปรอะเปื้อนมาก เจอฝุ่น เจอฝน ทำให้จำเป็นต้องล้าง เพราะสภาพดูไม่ได้ การล้างรถใช้เวลาไม่นานแต่ต้องมีอุปกรณ์พร้อม และรู้วิธีลัดในการล้างรถ ส่วนการนำรถไปเข้าร้านล้างรถ ปัจจุบันค่าบริการก็แพงกว่าเมื่อก่อนมาก หากทำเองได้ ก็จะเป็นการดี

 

อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการล้างรถด้วยตนเอง

อุปกรณ์ที่จำเป็นมีหลายแบบ มากน้อยต่างกันไป ตามแต่สถานที่ที่อยู่อาศัย ตัวอย่างเช่น อยู่หอพัก น้ำท่าไม่สะดวก เครื่องมือก็อาจจะน้อยหน่อย

อุปกรณ์ล้างรถสำหรับคนอยู่หอ คอนโด

การอยู่หอพัก คอนโด น้ำท่าไม่สะดวก อุปกรณ์ที่ใช้ก็อาจจะน้อยหน่อย เช่น
1. ขวดน้ำขนาด 6 ลิตร เอาไว้ใส่น้ำ อาจจะเติมน้ำจากในห้อง แล้วนำลงมาข้างล่างก็ได้ หรือจะกดน้ำจากเครื่องหยอดเหรียญก็ตามสะดวก
2. ขันน้ำ สัก 2-3 ใบ
3. ผ้าไว้เช็ดรถสัก 2-3 ผืน เน้นผ้าขนาดเล็กประมาณผ้าเช็ดมือก็พอ
4. แปรงหรือแปรงสีฟันเอาไว้ขัดล้อ กระทะล้อ หรือ แม็ก


วิธีล้างรถยนต์ในกรณีนี้
1. เทน้ำใส่ในขัน ใช้ผ้าชุปน้ำให้เปียก แล้วนำไปเช็ดที่ตัวรถ เช็ดเบาๆ ซับฝุ่นออก เริ่มจากส่วนที่สูงที่สุดก่อน ก็คือหลังคา ฝากระโปรงหน้า-หลัง ด้านข้างรถ ซ้าย ขวา ล้อ
2. นำผ้าไปชุบน้ำ เพื่อให้ฝุ่นผง เศษดิน หลุดจากผ้า แล้วนำผ้าไปเช็ดที่ตัวรถอีกครั้ง
3. ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เมื่อพบว่าน้ำในขันเริ่มสกปรก ดำแล้ว ก็เททิ้ง เทน้ำสะอาดใส่ในขัน แล้วทำแบบเดิม ไปจนกว่าจะเช็ดรถได้ทั้งคัน 4. ทำซ้ำอีกสักรอบ เพื่อให้ตัวรถมีความสะอาดมากยิ่งขึ้น
5. กรณีหอพัก คอนโดที่อาศัยอยู่นั้น พอจะมีพื้นที่ที่สามารถนำรถไปจอดพอเป็นส่วนตัวได้ ก็เติมน้ำลงขวดน้ำขนาด 6 ลิตร สัก 3 ขวด ก็จะสามารถล้างได้ง่ายมากขึ้น ไม่ต้องค่อยๆ บรรจงเช็ดไปทีละนิด เพียงแต่ผ้าที่ใช้เช็ดรถให้แห้ง ต้องเลือกผืนใหญ่ประมาณผ้าเช็ดตัว การเช็ดรถให้แห้งจะทำได้เร็วกว่า

 

อุปกรณ์ล้างรถสำหรับคนอยู่บ้านส่วนต้ว

อยู่บ้านส่วนตัว น้ำท่าสะดวก มีที่ล้างสะดวก หากอุปกรณ์พร้อมจะล้างรถได้เร็วมาก กรณีนี้อยากจะซื้ออุปกรณ์อะไรบ้างก็ทำได้ตามสะดวก เพราะมีน้ำเพียงพอ ที่ล้างก็สะดวก ส่วนตัว
1. สายยางต่อจากก็อกน้ำ
2. ถังน้ำ ขันอย่างน้อย 2 ใบ ฟองน้ำ อุปกรณ์เหล่านี้สามารถหาได้จากร้านทุกอย่าง 20 บาท ใกล้บ้าน ทั้งนี้แต่ละบ้านก็จะมีถัง ขันหรือฟองน้ำอยู่แล้ว สำหรับฟองน้ำให้เลือกขนาดใหญ่สักหน่อย ไม่ใช่แบบที่ใช้ล้างจาน ขนาดนั้นเล็กเกินไป
3. น้ำยาล้างรถ น้ำยาล้างรถมีหลายแบบให้เลือกใช้ อาจจะซื้อถังใหญ่ได้ปริมาณมากกว่า คุ้มค่ากว่า ประหยัดกว่าขวดเล็ก เพราะต้องใช้เป็นประจำอยู่แล้ว
4. ผ้าหลายขนาด หลายแบบ ผ้าสำหรับเช็ดเปียก เช็ดแห้ง ผ้าชามัวรนหลายผืนพอสมควร หากต้องการล้างรถให้เสร็จแล้ว เช่น ผ้าขนหนูผืนใหญ่ ไว้เช็ดน้ำและผ้าขนาดเล็กไว้เช็ดแห้ง มีน้อยผืนต้องบิดน้ำออก การเช็ดรถกว่าจะแห้งใช้เวลามากกว่า มีผ้าหลายผืน
6. แปรงสำหรับแปรงล้อรถยนต์
7.เสปรย์หรือน้ำยาเคลือบเงา ถ้ามีเวลาหรือมีเหตุต้องใช้รถเพื่อภาระกิจสำคัญ รถสวยไส สะอาด เป็นเรื่องสำคัญมากเพื่อเสริมภาพลักษณ์เจ้าของรถ เสปร์ย์หรือน้ำยาเคลือบเงามีให้เลือกหลายแบบ หลังล้างรถและเช็ดจนแห้งแล้ว ก็เคลือบด้วยน้ำยาเคลือบเงาอีกที

 

วิธีล้างรถในกรณีนี้

การมีที่ล้างรถส่วนตัว น้ำท่าพร้อม การล้างรถจะใช้เวลาไม่นานมาก โดยมีเทคนิคง่ายๆ ดังนี้
1. ฉีดน้ำให้ทั่วทั้งคันเสียก่อน ให้เศษดิน ฝุ่น ที่มีขนาดใหญ่หลุดออกไปก่อน โดยเริ่มจากส่วนที่สูงที่สุดก็คือ หลังคา ฝากระโปรงหน้า-หลัง ด้านข้างรถ ซ้าย ขวา ล้อ
2. ผสมน้ำยาล้างรถกับน้ำในถัง หรือขันน้ำ ใช้ฟองน้ำชุบให้ชุ่ม จากนั้นก็เริ่มเช็ดทำความสะอาดโดยเริ่มจากหลังคาก่อน ใช้ขันหรือสายยางฉีดน้ำเบาๆ ให้ทั่วก่อน แม้ก่อนหน้าจะได้ฉีดน้ำทั้งคันแล้วก็ตาม แต่น้ำน่าจะไหลลงไปด้านล่างแล้ว การราดน้ำไปเล็กน้อย ก่อนเช็ดด้วยฟองน้ำก็เพื่อป้องกันรถไม่ให้เป็นรอยหากยังมีเศษดินหรือเม็ดทรายติดอยู่
3. ใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาล้างรถแล้วทำความสะอาดหลังคา กระจกหน้า กระจกหลัง กระจกด้านซ้ายและขวาของตัวรถ จากนั้นก็ล้างน้ำออกให้หมด ที่ต้องรีบล้าง เพราะหากปล่อยไว้นานจะทิ้งคราบน้ำยาล้างรถเอาไว้จนอาจจะล้างออกไม่ง่าย
4. เช็ดล้างทำความสะอาดฝากระโปรงหน้า กันชนหน้า จากนั้นฉีดล้างน้ำให้สะอาด แล้วตามด้วย ฝากระโปรงท้ายและกันชนท้าย
5. เช็ดล้างทำความสะอาดด้านข้างของตัวรถด้านซ้ายและขวาทีละด้าน พร้อมกับฉีดล้างทำความสะอาด
6. ฉีดน้ำล้างทั้งคันอีกครั้ง ตั้งแต่หลังคาลงมา พร้อมกับตามเช็ดจุดที่อาจจะลืมเช็ดทำความสะอาด ตอนนี้ก็เหลือแต่ล้อทั้ง 4
7. ทำความสะอาดล้อทั้ง 4 โดยทำความสะอาดยางก่อน ใช้แปรงพลาสติกเช็ดถูทำความสะอาดยางรถไปทีละล้อ พร้อมกับล้างทำความสะอาด
8. ทำความสะอาดกระทะล้อหรือแม็ก กรณีใช้แม็กให้ใช้ฟองน้ำเช็ดทำความสะอาด ส่วนตามซอกเล็กซอกน้อยให้ใช้แปรงสีฟันขนอ่อน เนื่องจากแม็กจะเคลือบฟิล์มบางๆ เอาไว้ การใช้แปรงที่มีขนแข็งจะไม่ดีกับชิ้นฟิล์มที่เคลือบผิวแม็กไว้ แม็กมาตรฐานมากับรถจะมีความทนทานมากกว่า หากดูแลดีจะยังคงสวยเงางาม ไปอีกนาน
9. ขั้นตอนการเช็ดรถให้แห้ง ให้ใช้ผ้าผืนใหญ่ ขนาดประมาณผ้าขนหนู การเช็ดน้ำที่อยู่ตามตัวรถจะทำได้ง่ายกว่า เริ่มจากหลังคา ฝากระโปรงหน้า กันชนหน้า ฝากกระโปรงท้าย กันชนท้าย ด้านข้าง ซ้ายและขวา ถ้าผ้าเปียกต้องบิดน้ำออก มีผ้าหลายผืนจะดีมาก รถแห้งเร็ว ระวังผ้าที่มีขนจะติดตามตัวรถ เสียเวลาปัดออก
10. ต่อไปจะเป็นขั้นตอนการเช็ดให้แห้ง ด้วยการใช้ผ้าผืนเล็กๆ เช็ดทำความสะอาด ต้องใช้หลายๆ ผืนจะทำช่วยให้รถแห้งเร็ว
11. จากนั้นก็เช็ดล้อยางให้แห้งตามด้วยกระทะล้อหรือแม็ก
12. เคลือบสีรถ หรือล้อ กระทะท้อ หรือ แม็ก ได้ตามต้องการ

 

การล้างรถยนต์ด้วยตนเองไม่ยาก และใช้เวลาไม่นาน เพียงแต่รู้จักการต้องวางแผน เช่น
- เวลาที่ล้างรถควรเป็นช่วงเช้า หรือ ช่วงเย็นแดดอ่อน ไม่ควรเป็นช่วงบ่ายแดดแรง น้ำจะแห้งเร็ว กลายเป็นดวงๆ วงๆ ของคราบน้ำตามตัวรถ เสียเวลาเช็ดทำความสะอาด
- วางแผนเริ่มต้นจากส่วนใดก่อนหลัง จะไม่เสียเวลา แนะนำให้เริ่มจาก หลังคา ฝากระโปรงหน้า-หลัง ด้านข้างรถ ซ้าย ขวา ล้อ
- อุปกรณ์ต้องพร้อมโดยเฉพาะผ้า หากมีจำนวนมากพอ การล้างและเช็ดให้แห้งจะใช้เวลาไม่นาน ถ้าเป็นรถเก๋ง ไม่ถึง 10 นาทีแน่นอน

 

การล้างภายในรถยนต์ เบาะ คอนโซล อื่นๆ

การทำความสะอาดภายในรถยนต์ เครื่องมือที่ใช้อาจจะเป็นแบบง่ายๆ อย่างการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดดูดฝุ่น หรือ ใช้เครื่องดูดฝุ่น กรณีรถยนต์ใช้เบาะผ้า ปูพื้นด้วยพรมกำมะหยี่
1. กรณีรถใช้เบาะผ้า และไม่มีเครื่องดูดผุ่น ก็เตรียมน้ำเปล่าสักขวด ขันน้ำสักใบ
2. ขับรถไปหาที่โล่งๆ มีลมพัด ห่างไกลผู้คนสักหน่อย แล้วก็ทุบๆ ตีๆ ไปตามเบาะผ้า เพื่อให้ฝุ่นที่ฝังอยู่ข้างในออกมา ใช้พัดลมเป่าช่วยก็ได้ ไล่ฝุ่นให้ออกไปจากรถ
3. จากนั้นก็เทน้ำใส่ขัน นำผ้าชุบน้ำ บิดพอหมาดๆ แล้วเช็ดเบาะที่มีฝุ่นที่ออกมา ทำแบบนี้ไปจนกว่าฝุ่นจะลดน้อยลงมาก
4. ส่วนพื้นกำมะหยี่ก็เช่นกัน นำผ้าชุบน้ำ บิดพอหมาดๆ แล้วเช็ดที่พื้นพรมปูพื้น
5. เช็ดส่วนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน เช่น แผงประตู คอนโซล เพดาน ฯลฯ
6. ส่วนอีกทางเลือก ไม่ว่าจะใช้เบาะผ้าหรือเบาะหนัง อาจจะใช้สเปรย์พ่นทำความสะอาดก็ได้ แต่อย่างไรเสียก็ต้องทุบๆ ตีๆ เบาะให้ฝุ่นภายในออกมาอยู่ดี แค่ฉีดสเปรย์ ก็คงทำความสะอาดได้แค่ภายนอกเท่านั้น

 

การทำความสะอาดห้องเครื่องยนต์

ในส่วนของห้องเครื่องยนต์นั้น หากสกปรกมาก ในครั้งแรกควรใช้เวลามากสักหน่อยในทำความสะอาด หรืออาจจะไปใช้บริการร้านคาร์แคร์ จากนั้นก็หมั่นทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ใช้น้ำยาล้างห้องเครื่อง พ่นลงไปเลย ซึ่งจะไม่เสียเวลาทำความสะอาดมากเหมือนครั้งแรก เพราะไม่มีคราบฝังแน่น แค่ใช้น้ำยาล้างห้องเครื่องพ่นลงไป ก็ทำให้สะอาดได้ไม่ยาก แต่หากไม่ขจับคราบฝังแน่นออกให้หมดเสียก่อน การใช้สเปรย์เหล่านี้จะไม่ได้ผล สเปรย์แบบนี้เหมาะสำหรับคราบสกปรกที่เกาะติดเพียงเล็กน้อย และยังไม่ฝังแน่น