สำหรับมือถือที่ใช้ Android 4.4 หรือ Kitkat มีให้เลือกซื้อตั้งแต่ราคาไม่ถึง หนึ่งพันบาทขึ้นไป เพราะแอนดรอยด์รุ่นนี้ไม่ต้องการเสป็ค เครื่องสูงมากนักนั่นเอง แต่การเลือกซื้อก็ต้องพิจารณาคุณสมบัติอื่นๆ ประกอบกันด้วย เช่น ยี่ห้อ รุ่น ความเร็วซีพียู แรม หน่วยความจำ แบตเตอรี่ และปัญหาฮิตของรุ่นนั้นๆ

ปัจจุบันผู้ผลิตมือถือยี่ห้อดังๆ หลายรายก็ลงมาทำมือถือราคาประหยัด แต่ปัญหาที่หลายคนเจอกันก็คือคุณภาพของเครื่อง และคุณภาพ ศูนย์บริการ การใช้มือถือราคาประหยัดเหมือนจะต้องวัดดวงกันพอสมควร ว่าใครจะโชคร้ายได้เครื่องมีปัญหา แต่ก็โชคดีที่ทุกวันนี้ การหา ข้อมูลเกี่ยวกับมือถือรุ่นต่างๆ นั้น ไม่ใช่เรื่องยาก ทุกรุ่นที่มีวางจำหน่าย หากรุ่นใดมีปัญหา ก็จะมีผู้มาโพสต์กระทู้สอบถามหรือแจ้งปัญหา

ปัญหายอดฮิตในมือถือ Andorid

ก่อนอื่นเราไปสำรวจกันก่อนว่าปัญหายอดฮิตในมือถือ Android นั้นมีอะไรบ้าง
1. แบตเตอรี่หมดเร็ว การเลือกซื้อจึงควรเลือกรุ่นที่ให้แบตเตอรี่มามากพอสมควรและสามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
2. ตูดชาร์จหรือพอร์ตสำหรับชาร์จเสียบ่อยและเสียเร็วกว่าที่คิด ชาร์จไฟไม่เข้า ถ่ายโอนข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ไม่ได้ เป็นต้น ค่าซ่อมตูดชาร์จก็ แพงเอาเรื่องทั้งๆ ที่ต้นทุนอะไหล่แค่หลักร้อย แต่ร้านซ่อมส่วนใหญ่คิดค่าซ่อมแพงมาก บางร้านคิดหลักพัน เป็นรายการซ่อมที่ทำเงินให้ร้าน ซ่อมอย่างมาก การเลือกซื้อควรหาข้อมูลส่วนนี้ด้วย
3. ดูการรับประกัน มือถือบางค่ายอย่าง Dtac รับประกัน 1 ปี ซึ่งถือว่าน่าสนใจ เพราะมือถือแอนดรอยด์ราคาประมาณนี้ ใช้งานได้ถึงปีโดย ไม่มีอาการเสีย เป็นเรื่องที่ยากมาก เหมือนทำมาให้มีวันหมดอายุ
4. ปัญหาหน้าจอ การทัช หรือกรณีทำตก หล่น ค่าซ่อมแพงมาก ซื้อเครื่องใหม่คุ้มกว่า
5. ปัญหาเรื่องพื้นที่เก็บข้อมูลที่ให้มาน้อยเกินไป เช่น ให้ ROM 4 GB เมื่อใช้งานไปสักพัก แอพต่างๆ จะต้องมีการอัพเดทตัวเอง ขนาดไฟล์จะ เพิ่มขึ้นตลอดเวลา การเลือกซื้อเครื่องที่มีหน่วยความจำในตัวเครื่องน้อยๆ จึงมักพบกับปัญหาตรงนี้ในอนาคต แต่ทั้งนี้ก็สามารถลบแอพบาง ตัวที่ไม่ใช้งานออกไปได้
6. ราคาขายต่อตกเร็วมาก และตกมากอย่างน่ากลัว ซื้อมาหมื่นบาท ผ่านไป 6 เดือน อาจจะเหลือราคาขายเป็นมือถือมือสองไม่ถึงครึ่ง แต่ค่า ซ่อมไม่ได้ลด ยังแพงเหมือนเดิม หากเสีย การขายทิ้งแล้วซื้อใหม่จะดีกว่า ส่วนตามร้านที่รับซื้อไปนั้น จะมีช่างที่สามารถซ่อมได้ ค่าอะไหล่ จริงๆ ไม่ได้แพงมาก อย่างค่าซ่อมบางอย่าง ร้านมือถือคิด 400 แต่จ้างช่างข้างนอกเอา ทางร้านไม่มีช่างประจำร้าน บางรายการค่าซ่อม ประมาณ 150 ทางร้านได้เงินส่วนต่าง 250 ส่วนช่างก็รับไป 150 แต่ต้นทุนจริงๆ ไม่น่าจะแพงมาก

ตัวอย่างเสป็คมือถือ Android 4.4

มือถือยี่ห้อ inovo รุ่น i-401

รุ่นนี้ราคาไม่ถึง 2000 บาท เป็นรุ่นสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานมือถือในระดับพื้นฐานเท่านั้น เน้นใช้งานแอพทั่วไป ไม่เล่นเกม เสป็ค ประมาณนี้ก็รองรับการใช้งานได้เป็นอย่างดี ท่องเน็ต อ่านข่าว ฟังเพลง เล่น Line Facebook รับส่งอีเมล์ แต่ถ่ายภาพ กล้องความละเอียดน้อย ไป ถ่ายแค่ไว้ดูว่าเป็นภาพอะไรก็พอได้ แต่ภาพที่ต้องการรายละเอียดมาก กล้องที่ให้มาไม่รองรับแน่นอน แต่ก็มีกล้องมาให้ทั้งหน้าและหลัง กล้องหลังไว้ถ่ายภาพแค่พอได้ ส่วนกล้องหน้าไว้วิดีโอคอล คุยกันแบบเห็นหน้า

inovo รุ่น i-401 Plus รองรับ 3G ใส่ได้ 2 Sim หน่วยความจำในตัวเครื่อง 4 GB ขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว กล้องหลัง 2 ล้าน แฟลช กล้องหน้า 0.3 ล้านแบตเตอรี่ 1550 mAh

 

คุณสมบัติโดยรวมของเครื่อง

- Android 4.4.2 (มือถือเหล่านี้ส่วนใหญ่จะอัพเกรดไม่ได้ ขณะนี้มีรุ่นใหม่ออกมาแล้วเป็น Android 5.0)
- CPU Dual Core 1.2 GHz (MTK 6572) (ความเร็วซีพียูประมาณนี้ รองรับการใช้งานมือถือ Android ระดับพื้นฐานได้ดี)
- GPU Mali 400 MP (GPU จะช่วยในเรื่องการแสดงผลกราฟิค)
- ROM 4 GB (หากเน้นใช้งานติดตั้งแอพมากๆ ควรเลือกรุ่นที่หน่วยความจำในเครื่องมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นก็ต้องลบแอพไม่จำเป็นออกไป)
- RAM 512 MB (แรมประมาณนี้ เครื่องรุ่นนี้เหมาะสำหรับการใช้งานระดับพื้นฐานทั่วไป)
- รองรับเมมโมรี่การ์ดสูงสุด 32 GB

เครือข่าย - WCDMA 850/2100 MHz (มือถือรุ่นนี้จะรองรับ 3G ซิมของ True และ Dtac หากเป็น 900/2100 จะรองรับซิม AIS) - GSM 900/1800 GHz (มือถือรุ่นนี้รองรับ 2G ซิมของ AIS และ TOT) - รองรับ 2 ซิม การ์ด จอแสดงผล
- ขนาดหน้าจอ 5.0" FWVGA (ขนาดหน้าจอมือถือปัจจุบัน 5 นิ้วกำลังพอดี เพราะเราเน้นเสพข้อมูลกันมากขึ้น ท่องเน็ตเล่น Facebook Line เป็นต้น แต่แบตเตอรี่ขนาด 1,550 mAh ต้องศึกษารุ่นอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน เพื่อดูว่ามือถือรุ่นนั้นใช้งานได้กี่ชั่วโมง ใช้งานได้ทั้งวัน หรือไม่)
- ความละเอียด 854 x 480 Pixel (ความละเอียดหน้าจอต้องลองนำไปเปิดอ่านบทความในเว็บไซต์ต่างๆ ตัวหนังสือมีความคมชัดหรือไม่) - Capacitive touch Screen

การเชื่อมต่อ
- 3G
- Wifi
- Wifi Hotspot
- GPS
- AGPS
- Google Maps
- EDGE
- GPRS
- WAP
- Bluetooth
- USB

ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย

- กล้องหลัง 2 ล้าน แฟลช (หากเน้นถ่ายรูป ควรเลือกรุ่นที่กล้องคมชัดตรงตามความต้องการ กล้องขนาด 2 MP น้อยมาก ถ่ายภาพที่ต้อง การรายละเอียด ความคมชัดไม่พอ เช่น สลิป ATM กรณีซื้อของผ่านเน็ต และต้องการถ่ายสลิปเป็นหลักฐาน)
- กล้องหน้า 0.3 ล้าน (กล้องหน้าจำเป็นสำหรับการใช้แอพประเภทแชทอย่าง Line จะมองเห็นหน้ากันได้ ศึกษาหาข้อมูลกล้องรุ่นอื่นที่ใช้ กล้องความละเอียดเท่ากัน)
- Video / MP 4
- MP 3
- FM Radio

การรับ-ส่งข้อความ
- SMS / MMS
- Email / Gmail

แบตเตอรี่ 1550 mAh (ขนาดหน้าจอใหญ่ถึง 5 นิ้ว แต่แบตเตอรี่อาจน้อยเกินไป ควรศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม)
ขนาดตัวเครื่อง
- 147x73x8 mm

มือถือ Android มีหลายราคา ผู้เขียนขอแบ่งเป็น 3 แบบ เสป็คต่ำ คุณภาพต่ำ ราคาถูก อยู่ประมาณ 1000 - 5000 มือถือระดับกลาง 5000-หมื่นบาทต้นๆ และมือถือระดับสูงหมื่นต้นๆ ขึ้นไป ปัญหาจะน้อยกว่า คุณภาพการผลิตดีกว่า แต่ก็ใช่จะไม่มีปัญหาเลย

มือถือยี่ห้อดังอย่าง Samsung ราคาสูง เสป็คเดียวกันกับยี่ห้ออื่น แต่ราคาแพงกว่าหลักพันบาทขึ้นไป เพราะทำตลาดมานานคนเชื่อมั่นใน คุณภาพ จึงทำให้เล่นตัวได้ ตั้งราคาสูงได้ และคนก็ยังซื้อยี่ห้อนี้กันมากกว่ายี่ห้ออื่น

มือถือแอนดรอยด์เสป็คสูง ราคาเกินหมื่นส่วนใหญ่จะมีคุณภาพดีกว่า วัสดุที่ใช้ดีกว่า หากมีงบประมาณมากพอสมควร การพิจารณารุ่นที่ สูงกว่า แพงกว่าย่อมจะให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่า แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง ราคามือถือแอนดรอยด์ตกเร็วมาก มือถือราคาประมาณ หนึ่งหมื่นบาท ผ่านไป ครึ่งปีอาจจะตกมาเหลือไม่ถึงครึ่งสำหรับการขายเป็นมือถือมือสองและราคาไม่เหลือ 1 ใน 3 เมื่อผ่านไป ไม่ถึงปี ดัง นั้นจึงต้องทำใจ ซื้อเครื่องมาในราคา 2-4 พันบาท อาจจะพังในหนึ่งปี ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว เพราะส่วนใหญ่เหมือนทำให้พังเร็ว เหมือนกำหนด อายุขัยไว้แล้ว การศึกษาคุณสมบัติและเลือกซื้อมาใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป น่าจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นก็ไปใช้มือถือธรรมดาจะดีกว่า ทนกว่ามาก

ตั้งค่าอีเมล์ในมือถือ Android เมื่อซื้อเครื่องใหม่

หากได้ตัดสินใจซื้อมือถือเครื่องใหม่ ไม่ว่ารุ่นใดก็ตาม สิ่งที่จะต้องทำหลังจากได้จ่ายเงินซื้อเครื่องแล้วก็คือ การตั้งค่าอีเมล์ในมือถือ Android เครื่องใหม่ อาจจะให้ทางร้านตั้งค่าให้เรา หรืออาจจะตั้งค่าเองก็ตาม สิ่งสำคัญก็คือต้องจำอีเมล์และรหัสผ่านของตัวเองให้ได้ หากเคยใช้มือถือ Android มาก่อน ไม่ว่ารุ่นใดก็ตาม ก็สามารถนำอีเมล์และรหัสผ่านไปลงทะเบียนกับมือถือใหม่ได้เลย ไม่ต้องสร้างใหม่

 

บทความเนื้อหาใกล้เคียงกัน :