การใช้บริการมือถือแบบรายเดือนจะมีรายจ่ายแฝงตามมาและรายจ่ายที่เกิดจากการใช้งานของเราเอง ซึ่งมีหลายรูปแบบที่บางครั้งเราไม่สามารถ ควบคุมได้เลย หรือไม่รู้ว่ามาได้อย่างไร หากไม่ใส่ใจ หรือเป็นคนไม่มีวินัย รายจ่ายตรงนี้อาจจะสร้างความเดือดร้อนให้เราได้

การใช้บริการมือถือแบบรายเดือน เมื่อมีรายจ่ายเกิดขึ้นแล้วยากจะหลีกเลี่ยง ต้องจ่ายสถานเดียว ซึ่งบางครั้งรายจ่ายก็ไม่ได้มาจากเรา แต่มาจาก ระบบของผู้ให้บริการมือถือเอง แม้จะจ่ายเงินทุกเดือนก็ตาม แต่บางครั้งอยู่ดีๆ ผ่านไปหลายเดือนก็มีรายจ่ายเข้ามา โดยทางผู้ให้บริการแจ้งว่าเป็นค่า ค้างชำระ

 

ตัวอย่างรายจ่ายที่อาจจะมากับการใช้งานมือหรือ SIM แบบรายเดือน

ค่าบริการการใช้ SMS MMS

การใช้งาน SMS เมื่อก่อนนั้น หากเราส่ง SMS หรือส่งข้อความให้ผู้รับ เราก็จะเสียค่าบริการตามปกติ แต่ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไป การรับ SMS ที่ใคร ส่งมาก็ก็ไม่รู้ เราจะเสียค่าบริการ หนึ่งในนั้นก็คือ บริการส่งข่าวจากสำนักข่าวรายหนึ่ง ซึ่งจะมีการโทรศัพท์มาแจ้งก่อนว่า ขอเสนอบริการ SMS รับข่าว สารให้ลองฟรี ในระยะเวลาหนึ่ง นั่นคือเราต้องเสียค่าบริการแล้ว ส่วนใหญ่เราจะดีใจว่า มีคนส่ง SMS แจ้งข่าวสารมาให้แบบฟรีๆ ที่ไหนได้ เสียเงินค่า บริการเป็นเดือน จนกว่าจะแจ้งยกเลิก

ค่าบริการ MMS หรือ SMS ก็ตาม สุดแสนจะแพงเหลือเกิน จึงควรใช้บริการอื่นที่ประหยัดกว่านั้น อย่างการรับส่งข้อความผ่าน Line หรือ eMai หากใช้ บริการซิมเน็ตอยู่แล้ว ก็ควรศึกษาการใช้งานเพื่อจะได้ลดรายจ่าย

 

ค่าบริการเชื่อมต่อเน็ต ใช้งานดาต้า

ในมือถือสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะ Android จะเชื่อมต่อเน็ตค่อนข้างสะดวก เพียงแค่แตะหน้าจอไม่กี่ครั้ง ก็จะสามารถเชื่อมต่อเน็ตได้ทันที บางครั้งอาจ จะพลาดเผลอไปโดน หรือแตะเชื่อมต่อเน็ตแล้ว ลืมตัดการเชื่อมต่อ ทำให้เสียเงินค่าใช้งานอินเตอร์เน็ต หรือใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้น จึงต้องระวังและควรตั้ง ค่ารายจ่ายเอาไว้ ห้ามเกินงบ หากเกินก็ให้ระบบบล็อกการใช้งาน ไม่เช่นนั้นกระเป๋าฉีกแน่นอน

 

ค่าบริการค้างชำระที่ไม่รู้ว่ามาได้อย่างไร

นี่คือเรื่องที่คนใช้มือถือรายเดือนต้องเจอกันถ้วนหน้ากับ ค่าบริการค้างชำระที่อยู่ๆ ก็โผล่มา ตัวอย่างที่เจอกับตัวเอง ปกติจะจ่ายทุกเดือนแต่ไม่เคย เก็บใบเสร็จไว้เลย เพราะไม่คิดว่าจะมามุกนี้ ก่อนจะจ่ายค่าโทรศัพท์ทุกครั้ง ก็จะตรวจสอบด้วยการกด *121# ซึ่งก็ไม่มีค่าบริการค้างชำระ

แต่ผ่านมา เดือนที่ 4 ปรากฏว่า มียอดค้างชำระ ซึ่งทางผู้ให้บริการแจ้งว่า เป็นยอดเดือนตุลาคม แต่ล่าสุดบอกว่าเป็นยอดเดือน กันยายน เอากับมัน การชำระค่าบริการแต่ละเดือนนั้น สำคัญมาก ต้องเก็บใบเสร็จให้ดี ไว้ตรวจสอบ ไม่เช่นนั้น ก็ไม่มีหลักฐานไปโต้แย้ง

ลองนึกภาพเล่นๆ ว่า การปล่อยให้ยอดค้างชำระอยู่นานขนาดนี้โดยไม่แจ้งเดือน มันเป็นไปได้อย่างไร เพราะหาก หากมียอดค้างชำระเป็นแสนคน ยอดเงินจะมากขนาดไหน

 

แนวทางการป้องกันรายจ่ายแผงจากการใช้มือถือแบบรายเดือน

เพื่อป้องกันเงินถูกดูดออกจากกระเป๋า การใช้มือถือหรือ SIM แบบรายเดือน จึงต้องระวัง รอบคอบและมีวินัย เช่น

 

ต้องรู้ว่าแพ็คเกจการใช้งานของเรามีค่าบริการเท่าไร

ค่าบริการในที่นี้หายรวมถึง VAT 7% ด้วย เช่น ค่าบริการ 59 บาทต่อ 7 วัน รวม VAT จะเท่ากัน 63.13 หรือบวกเพิ่มอีก 4.13 บาท ต้องรู้เกี่ยวกับค่าโทรศัพท์ นาทีละเท่าไหร่ รวมๆ แล้วต้องรู้ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นทั้งหมดนั่นเอง เวลามีการใช้โทรศัพท์จะได้รู้ว่า เสียเงินไปเท่าไหร่แล้ว

 

ใบเสร็จ หลักฐานการชำระเงินเก็บรักษาให้ดี

เมื่อชำระเงินค่าบริการแล้ว ให้เก็บหลักฐานการชำระเงินไว้ให้ดี ไว้ตรวจสอบ เพราะบางทีจะมีการคิดค่าค้างชำระ ที่เจอมากับตัวก็คือ ผ่านไปตั้ง 4 เดือนจึงมียอดมา ทั้งที่ชำระทุกเดือน แต่ยังงัยก็ไม่รอด มันเอาจนได้ ไม่มีทางหลีกเลี่ยง

 

การใช้งานอินเตอร์เน็ต ต้องมีแพ็คเกจรองรับ

การใช้งานอินเตอร์เน็ต หากไม่มีโปรโมชันก็ต้องสมัครทุกครั้ง ไม่เช่นนั้น ค่าบริการแพงมาก บางรายคิดเป็นนาทีๆ ละ 1.50-2 บาท หรือคิดเป็น ปริมาณข้อมูลที่รับส่ง ในการใช้มือถือสมาร์ทโฟนจะเชื่อมต่อเน็ตค่อนข้างง่าย ต้องระวังต่อแล้วอย่าลืมปิดการเชื่อมต่อ ไม่เช่นนั้น รายจ่ายบานแน่นอน จนกว่าจะปิดการเชื่อมต่อ

 

หมั่นตรวจสอบ SMS แปลกๆ ที่เข้ามา

เมื่อใดที่มี SMS ส่งเข้ามา ให้กด *137 เพื่อตรวจสอบว่า SMS ที่ส่งเข้ามานั้น มีการคิดเงินเพิ่มหรือมี เพราะมีสำนักข่าวรายหนึ่ง จะคิดค่าบริการ เมื่อมีการส่ง SMS เข้ามา

ก่อนสมัครใช้มือถือหรือ SIM รายเดือนต้องสอบถามเรื่องการปิดบริการด้วย

การสมัครใช้งานมือถือแบบรายเดือนค่อนข้างง่าย แต่การหยุดใช้บริการ บางรายจะต้องไปยังศูนย์บางแห่งเท่านั้น เช่น dtac จะต้องไปที่ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต คนอยู่ปราจีน นครนายก หากทำงานประจำ ไม่มีเวลาเข้าเมือง จะสร้างความยุ่งยาก กว่าจะปิดได้ ก็จะเสียเงินเพิ่ม เพราะไม่มีเวลา

 

หมั่นตรวจสอบค่าใช้บริการ

หมั่นตรวจสอบค่าโทรศัพท์และอื่นๆ จะได้รู้ว่าได้ใช้ไปเท่าไหร่แล้ว และควรตั้งยอดการใช้งานเช่นห้ามเกิน 1000 บาท เป็นต้น

การใช้มือถือแบบรายเดือนค่อนข้างต้องระวัง มีระเบียบวินัยในการใช้งาน และหมั่นตรวจสอบการใช้งาน ไม่เช่นนั้นอาจจะมีรายจ่ายแฝงเข้ามา โดย เฉพาะการใช้งานสมาร์ทโฟน ซึ่งจะมีเหตุให้เสียเงินมากกว่ามือถือธรรมดา แลกกับความสะดวกสะบาย หากคิดว่าตัวเองไม่ค่อยจะมีวินัยในการใช้งาน ควรหลีกเลี่ยงไปใช้แบบเติมเงินจะดีกว่า เพราะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า

 

ศึกษาการใช้งานทางอื่นที่ช่วยประหยัดเงิน

การยอมลงทุนซื้อมือถือสมาร์ทโฟนจะช่วยประหยัดเงินที่จะต้องใช้ไปกับการใช้งานโทรศัพท์ได้ เพราะมีแอพหลายตัวที่ช่วยในการสื่อสาร ประหยัดค่าโทรศัพท์ โดยเลือกการใช้งานแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตแบบไม่จำกัด เพื่อความสบายใจ คราวนี้ก็จะใช้แอพ Line, Facebook, eMail ฯลฯ เพื่อการติดต่อ สื่อสาร ได้โดยไม่เสียเงินเพิ่ม 

 

บทความเนื้อหาใกล้เคียงกัน :