ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดถึงคนที่อยู่ในสภานการณ์แย่สุด ไม่มีทางไป ไม่มีที่ไป แล้ว เหมือน สุนัขจนตรอก ก็จะหันหลังกลับมาสู้สุดชีวิต ก็ต้องตายกันไปข้าง หากไปยุ่งกับคนที่อยู่ในสภาพแบบนี้

ตัวอย่าง :

สุนัขที่ถูกไล่ให้จนมุม กลายเป็น สุนัขจนตรอก ก็ย่อมจะหันหลังกลับมาสู้ ไม่ยอมแพ้ แม้จะรู้ว่าสู้ไม่ได้ก็ตามที คนจนตรอกก็เช่นกัน แม้จะอยู่ในสภาพที่แย่ ชีวิตไม่มีทางไปแล้ว แต่หากถูกเบียดเบียน ถูกกดขี่ ข่มเหง ได้รับความเจ็บปวดทางใจอย่างที่สุด ก็ย่อมจะสู้จนตายกันไปข้าง เป็นเรื่องธรรมดา

การต่อสู้กันทางการเมือง หรือเพื่อแย่งชิงผลประโยชน์กัน จะค่อนข้างโหดร้าย แม้คู่แข่งจะมีสภาพเหมือน สุนัขจนตรอก หมดทางสู้แล้วก็ตาม อีกฝ่ายก็มักจะไม่หยุด ส่วนใหญ่ก็จะกำจัดให้สูญพันธ์ หรือหายไปจากโลกอย่างถาวรกันเลยทีเดียว

การไล่ต้อนคนให้จนไม่มีที่ยืน ไม่มีทางไป เมหือน สุนัขจนตรอก ไม่ใช่เรื่องดี เพราะแม้จะสามารถเอาชนะได้ แต่ก็มักจะเกิดความโกรธแค้น อาฆาต แม้จะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม แต่วิญญาณ ก็อาจยังตามหลอกหลอน เพราะเกิดความโกรธแค้นอย่างมาก

การทำให้ชีวิตตกต่ำ จนหมดทางไป เหมือน สุนัขจนตรอก ไม่มีที่ให้ไป ไม่มีทางแล้ว บางทีก็เป็นเรื่องดี เพราะยามที่คนเราอยู่ในสภาพนี้ ต่อมเอาตัวรอดจะเริ่มทำงาน ซึ่งบางคนก็สามารถสร้างผลงาน หรือสร้างตัวได้อย่างรวดเร็ว ประสบความสำเร็จ เพราะในช่วงเวลาย่ำแย่แบบนี้ กลับทำให้เกิดความคิดดีๆ หรือกลายเป็นคนฉลาดขึ้นมา ดังนั้นอย่าไปกลัวความลำบาก เพราะมีสิ่งดีๆ หลายอย่างซ่อนอยู่เสมอ