ความหมาย : สำนวนนี้ใช้พูดถึงคนที่เริ่มมีความจำไม่ค่อยดี ได้หน้าลืมหลัง จำได้บ้างไม่ได้บ้าง สมองเริ่มแย่ คนแก่หรือคนที่มีปัญหาทางสมอง หรือแม้แต่คนปกติก็ตาม บางครั้งก็มีอาการได้อย่างลืมอีกอย่าง เพราะไม่มีสมาธิ มีเรื่องในหัวให้คิดมากเกินไป

ตัวอย่าง :

อาการหลงๆ ลืมๆ ได้หน้าลืมหลัง มักจะพบในคนสูงวัย หรือคนที่ไม่ได้ใช้สมอง ไม่ค่อยได้ใช้ความคิด ก็จะคิดอะไรไม่ค่อยออก จำอะไรไม่ค่อยได้ สมองของคนเรานั้น ยังสามารถฝึกได้ ด้วยการฝึกคิด วิเคราะห์ ฝึกความจำ สักพักใหญ่ก็จะเริ่มกลับมาใกล้เคียงปกติ หากยังไม่แก่ชรามากนัก บางคนคิดว่า แก่แล้ว อย่าใช้สมอง ต้องถนอม เอาไว้ จึงไม่ใช้ความคิด สมองก็จะไม่ได้รับการออกกำลังกาย ก็จะเริ่มเสื่อมเร็ว จำอะไรไม่ค่อยได้ ดังนั้นอย่ากลัวการใช้ความคิด ยิ่งคิดสมองก็ยิ่งดี แต่ต้องคิดสิ่งดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองหรือผู้อื่น อย่าคิดในเรื่องที่ไม่ดี

คนยังไม่แก่ ยังหนุ่ม ยังสาว ก็มีโอกาสกลายเป็นคน หลงๆ ลืมๆ ได้เช่นกัน หากไม่มีสมาธิในการใช้ชีวิต หรือมีเรื่องราวให้เก็บมาคิดมากเกินไป ก็จะทำให้ขาดความใส่ใจกับบางสิ่งบางอย่าง กลายเป็นคนที่จำอะไรไม่ค่อยได้ จำได้อีกอย่าง ก็ลืมอีกอย่าง ดังนั้น เวลาจะทำอะไร ก็ต้องพยายามทำอย่างเดียว อย่าทำหลายอย่างพร้อมกัน เช่น ดูหนังไปด้วย แชทไปด้วย ทำงานไปด้วย ฟังเพลงไปด้วย แบบนี้ แย่แน่นอน อนาคตจะเป็นคนสมาธิสั้น หลงๆ ลืมๆ

เมื่อมีการการหลงๆ ลืมๆ ได้หนัาลืมหลัง ก็ยังพอมีทางแก้ไขได้ เช่น การทำอะไรอย่างเดียวในเวลานั้น อย่าทำหลายอย่างพร้อมกัน การฝึกสมาธิ การคิดเรื่องต่างๆ เพียงเรื่องเดียว อย่าคิดหลายเรื่องพร้อมกัน การพยายามคิดวิเคราะห์ และฝึกบวกลบคูณหาร จะช่วยให้สมองเริ่มดีขึ้น ความจำเริ่มดีขึ้น นอกจากนี้ก็มีพืชสมุนไพรไทยที่สามารถช่วยได้ เช่น ใบเตย