ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดถึงบรรยากาศของสถานการณ์หรือสถานที่ที่มีความเงียบมาก เงียบเป็นเป่า สาก เช่น การไปอยู่ในโรงเรียนร้าง การเฝ้ารอใครหรือดักรอใครสักคน

ตัวอย่าง :

การอยู่ในป่า ในบางสถานการณ์ บางเวลานั้นเงียบมาก เงียบสงัด เงียบเหมือนเป่าสาก โบราณว่า ต้องระวัง เพราะอาจจะมีสัตว์ร้าย โดยเฉพาะสัตร์ประเภทกินเนื้อกำลังเข้ามาใกล้ เพราะสัตว์น้อยใหญ่ต้องพากันเงียบ เมื่อต้องเจอกับสัตว์ป่านักล่า การเที่ยวป่า กางเต็นท์ จึงต้องหมั่นสังเกตุบรรยากาศรอบตัว เพื่อความปลอดภัย

ในความเงียบ เงียบเป็นป่าสาก ไม่มีเสียงอะไรเลย หากทำใจให้ชิน จะเริ่มรู้สึกเป็นสุขกับบรรยากาศแบบนั้น ในความเงียบสงบนั้นมี ความสุขซ่อนอยู่ เป็นความสุขแบบเงียบๆ ยากที่จะคนส่วนใหญ่จะค้นพบ เพราะเราชอบเสียง เสียงเพลง เสียงพูด ฯลฯ แต่ไม่ชอบ ความเงียบ

การฝึกสมาธิสามารถช่วยฝึกฟังเสียงต่างๆ ในความเงียบได้ดี เมื่อต้องการฟังเสียงอะไร ก็หลับตา แล้วตั้งใจฟังเสียงนั้นอย่างเดียว ยิ่งบรรยากาศที่ เงียบเป็นเป่าสาก ก็จะได้ยินเสียงชัดเจนขึ้น การฝึกการฟังแบบนี้ดีกว่า การใช้หู เพราะไม่ต้องหันไปดู ฝึกบ่อยๆ รู้เลยว่า เสียงดังมาจากทิศทางใด