ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดถึงผู้ที่มีอำนาจมากกว่า แข็งแรงกว่า เก่งกว่า เอาเปรียบคนที่อ่อนแอกว่าด้อยกว่า เหมือนปลาใหญ่กินปลาเล็กซึ่งไม่มีหนทางต่อสู้ นิยมใช้สำนวนนี้ พูดในเรื่องที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ที่มีการแข่งขันกัน

ตัวอย่าง :

ในการทำธุรกิจที่ต้องมีการผลิตสินค้าหรือบริการเพื่อแข่งขันกันบริษัทขนาดใหญ่ที่มีทุนมาก มีสาขามาก บริษัทใหญ่ย่อมจะได้เปรียบบริษัทขนาดเล็กหรือเพิ่งจะเริ่มต้นทำธุรกิจ เพราะยากจะต่อสู้แข่งขันทางธุรกิจ เหมือน ปลาใหญ่กินปลาเล็ก หากผลิตสินค้าแบบเดียวกัน ยากจะแข่งขัน ยากจะเอาชนะได้

เมื่อจะต้องผลิตสินค้าประเภทเดียวกัน เพื่อแข่งขันกับบริษัทขนาดใหญ่ โอกาสชนะค่อนข้างยากและมักจะเสียเปรียบ สู้ไม่ได้ เหมือนปลาใหญ่กินปลาเล็ก ทุนน้อย กำลังน้อยมีโอกาสแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

แต่เรื่องนี้ก็ใช่ว่าจะหมดหนทางต่อสู้เพราะทุกวันนี้มีช่องทางค้าขายที่สามารถเข้าถึงและกระจายสินค้าได้มาก ต่างจากการทำธุรกิจแบบเก่า เช่น กระจายสินค้าผ่านเว็บไซต์ตัวเอง ผ่าน facebook หรือเว็บไซต์ที่เป็นตัวแทนขายสินค้า ซึ่งเว็บไซต์เหล่านี้ มีคนเข้าชมเป็นแสนเป็นล้านต่อเดือน บริษัทเล็กๆ เพิ่งจะเริ่มต้นทำธุรกิจ จึงมีโอกาสทำยอดขายแข่งขันกับบริษัทขนาดใหญ่ได้

บางคนเน้นให้ตัวเองเป็น พรีเซ็นเตอร์อย่าง คุณตัน ชาเขียวเน้นให้ผู้คนรู้จักตัวเจ้าของบริษัท เพื่อให้ลูกค้าติดตาม กรณีนี้ลูกค้าก็อยากจะอุดหนุน เพราะอยากติดตามเจ้าของ ซึ่งแม้บริษัทขนาดใหญ่จะผลิตสินค้าประเภทเดียวกันออกมาแข่งขัน แต่ก็อาจจะสู้ไม่ได้ เพราะลูกค้าติดเจ้าของสินค้า ซึ่งเรื่องแบบนี้บริษัทขนาดใหญ่อาจไม่สามารถลงมาทำการตลาดในลักษณะเดียวกันได้เนื่องจากมีงานต้องรับผิดชอบเยอะมาก