บทความแสดงรูปแบบการใช้คำกริยา 3 ช่อง mislearn mislearnt mislearnt เรียนรู้ผิดพลาด กับประโยคในภาษาอังกฤษหรือ Tense ทั้ง 12 แบบ เช่น Present Tense, Past Tense และ Future Tense โดยแต่ละแบบยังมีเท้นส์ย่อยอีก 4 แบบ รวมเป็น 12 แบบ ซึ่งจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจการใช้คำกริยา 3 ช่องนี้ มากยิ่งขึ้น

 

กริยาช่องที่ 1 / กริยาช่องที่ 2 / กริยาช่องที่ 3/ คำแปล

mislearn / mislearnt / mislearnt / เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง

mislearn / mislearned / mislearned / เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง

 

ตัวอย่างการใช้คำกริยานี้

ประโยค He mislearns language from internet.
คำอ่าน ฮี มิสสะเลินสะ แลงกะเหวด ฟรอม อินเทอเร็ต
คำแปล เขาเรียนรู้แบบผิดๆ หรือได้รับความรู้ที่ไม่ถูกต้อง/He mislearns กับการเรียนภาษา /language จากอินเตอร์เน็ต from internet อาจจะเป็นเว็บไซต์ หรือ ยูทูป ฯลฯ

 

ตัวอย่างการใช้คำกริยานี้กับประโยคหรือ Tense 12 แบบ ในภาษาอังกฤษ

การนำคำกริยา 3 ช่อง ไปใช้สร้างประโยค เพื่อสื่อสาร สนทนา หรือการเขียน แต่ละคำอาจจะใช้ในบางสถานการณ์เท่านั้น ไม่ได้ใช้ครบทุก Tense ไม่นิยมพูดกัน หรือ นำไปแต่งประโยคภาษาอังกฤษ ตัวอย่างต่อไปนี้จึงเป็นเพียงรูปแบบการใช้คำกริยา 3 ช่อง กับ เท้นส์ ต่างๆ เท่านั้น

 

Tense 1 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Present Simple

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 โดยจะกล่าวถึง เรื่องที่เป็นข้อเท็จจริง เรื่องจริงในขีวิตประจำวัน หรือเรื่องราวที่เกิดวันนี้

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- วันนี้ ฉัน กินข้าวผัด * บอกเรื่องราวที่เกิดในวันนี้
- ฉันมีพี่ชาย 2 คน * บอกความจริง
- เธอร้องเพลงเก่งมาก
- ดวงอาทิตย์ ขึ้นทาง ทิศตะวันออก * ความจริง ข้อเท็จจริง
- สุนัขตัวผู้ คลอดลูกไม่ได้ * ความจริง ข้อเท็จจริง
- ทุเรียนมีกลิ่นเหม็นสำหรับบางคน หรือ ทุเรียนมีหนาม * เป็นเรื่องจริง ความจริง
- ฉันแปรงฟันทุกวัน
- ไปอาบน้ำได้แล้ว * ประโยคคำสั่ง หรือ ประโยคขอร้อง
- พวกเขาเล่นฟุตบอล
- ฉันทำการบ้าน

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + กริยาช่องที่ 1 + เติม s ออกเสียง สึ ท้ายคำด้วย ตัวอย่าง mislearn เป็น He mislearns. / เขา เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง
1. He mislearns. (He เขาคนเดียว)
2. She mislearns. (She เธอคนเดียว)
3. It mislearns. (It มันตัวเดียว)
4. The boy mislearns. (The boy จะหมายถึง เด็กชายหนึ่งคน หรือ คนเดียว)
5. A boy mislearns. (A boy จะหมายถึง เด็กชายคนเดียว หรือ หนึ่งคน)
6. This boy mislearns. (This boy จะหมายถึง เด็กชายคนนี้คนเดียว)
7. That dog mislearns. (That dog จะหมายถึง สุนัขตัวนั้นตัวเดียว มีแค่ 1 ตัว)
8. Somchai mislearns. (Somchai สมชายเพียงคนเดียว เท่านั้น)

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + กริยาช่องที่ 1 + ไม่เติม s ตัวอย่างเช่น mislearn เป็น We mislearn. / พวกเรา เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง
1. You mislearn. (You คุณ หรือพวกคุณ มีหลายคน)
2. We mislearn. (We พวกเรา มีหลายคน)
3. They mislearn. (They พวกเขามีหลายคน)
4. These boys mislearn. (These boys คำว่า boy เติม s จะหมายถึง เด็กชายเหล่านี้ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป)
5. Those boys mislearn. (Those boys คำว่า boy เติม s จะหมายถึง เด็กชายเหล่านั้นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป)
6. The boys mislearn. (The boys คำว่า boy เติม s จะหมายถึง เด็กชายตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป)
7. Somchai and Somsak mislearn. (Somchai and Somsak สมชายและสมศักดิ์รวมกันเป็น 2 คน)
8. I mislearn. ** I เป็นข้อยกเว้น กริยาไม่ต้องเติม s แม้ว่า I จะเป็นเอกพจน์

 

Tense 2 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Present Continuous

  ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ ขณะนี้ ของวันนี้ กำลังทำอะไรอยู่ในขณะนี้ จะมีคำว่า กำลัง ในประโยคด้วย

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- ขณะนี้พวกเรากำลังเล่นฟุตบอล
- ตอนนี้ฉันกำลังทำการบ้าน
- วันนี้ ตอนที่คุณโทรศัพท์มา ฉันกำลังอาบน้ำอยู่

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + is + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น mislearn เป็น He is mislearning. / เขากำลัง เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง อยู่ในตอนนี้ ขณะนี้
1. He is mislearning.
2. She is mislearning.
3. It is mislearning.
4. The boy is mislearning.
5. A boy is mislearning.
6. This boy is mislearning.
7. That dog is mislearning.
8. Somchai is mislearning.
9. I am mislearning. * ยกเว้น I จะใช้ I am

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + are + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น mislearn เป็น We are mislearning. / พวกเรากำลัง เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง อยู่ในตอนนี้ ขณะนี้
1. you are mislearning.
2. We are mislearning.
3. They are mislearning.
4. The boys are mislearning.
5. These boys are mislearning.
6. Those boys are mislearning.
7. Somchai and Somsak are mislearning.

Tense 3 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Present Perfect Simple

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 3 โดยจะล่าวถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นในวันนั้นหรือขณะที่ได้พูดถึง เหตุการณ์นั้นได้จบลงแล้ว เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำสิ่งนั้น ทำสิ่งนี้เสร็จแล้ว ประโยคเหล่านี้จะมีคำว่า ได้ทำแล้ว หรือ เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว แล้ว

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- วันนี้ ตอนที่คุณโทรศัพท์มา ฉันได้อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว
- วันนี้ ฉันได้ทำการบ้านเสร็จแล้ว
- เวลานี้ พวกเขาได้หยุดเล่นฟุตบอลแล้ว
- พวกเขาได้ประชุมเสร็จแล้ว
- ฉันทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + has + กริยาช่องที่ 3 เช่น mislearn เป็น He has mislearnt. / เขาได้ เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง แล้ว หรือ เรียบร้อยแล้ว หรือ เสร็จแล้ว
1. He has mislearnt.
2. She has mislearnt.
3. It has mislearnt.
4. The boy has mislearnt.
5. A boy has mislearnt.
6. This boy has mislearnt.
7. That boy has mislearnt.
8. Somchai has mislearnt.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + have + กริยาช่องที่ 3 เช่น mislearn เป็น We have mislearnt. / พวกเราได้ เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง แล้ว หรือ เรียบร้อยแล้ว หรือ เสร็จแล้ว
1. You have mislearnt.
2. We have mislearnt.
3. They have mislearnt.
4. These boys have mislearnt.
5. Those boys have mislearnt.
6. The boys have mislearnt.
7. Somchai and Somsak have mislearnt.
8. I have mislearnt. ** I เป็นข้อยกเว้น ใช้กับ have แม้ว่า I จะเป็นเอกพจน์

 

Tense 4 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Present Perfect Continuous

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยไม่ได้หยุดพักเลย ในช่วงเวลาหนึ่งของวันนั้น วันนี้ ตัวอย่างเช่น

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- วันนี้ ตั้งแต่เวลา 8:00 จนถึงขณะนี้ ฉันได้ประชุมมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พูดถึง ก็ยังไม่เลิกประชุม หรือ เขาได้เข้าประชุมมาตั้งแต่ 8 โมงเช้าแล้ว (ขณะนี้ก็ยังประชุมอยู่)
- เขาได้ทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้ว ยังไม่หยุดเลย ขณะที่พูดถึงนี้ เขาก็ยังไม่หยุด
- พวกเขาขับรถมา 6 ชั่วโมงกว่าแล้ว (ขณะที่พูดถึงนี้ พวกเขาก็ยังขับรถอยู่ ยังไม่หยุดพักรถ พักคน)
- เขานั่งทำการบ้านมาตั้งแต่เช้า (ขณะที่พูดถึงเขา เขาก็ยังทำอยู่ ยังทำไม่เสร็จ )
- พวกเขาเล่นฟุตบอลมา 2 ชั่วโมงแล้ว (ขณะที่พูดถึง พวกเขาก็ยังเล่นอยู่ ยังไม่เลิกเล่น)

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + has + been + กริยาช่องที่ 1 เติม ing เช่น mislearn เป็น He has been mislearning. / เขาได้ เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง มาตั้งแต่เวลา (เช้า, 8 โมงเช้า, เที่ยง) แล้ว ขณะนี้ก็ยังทำอยู่
1. He has heen mislearning.
2. She has been mislearning.
3. It has been mislearning.
4. The boy has been mislearning.
5. A boy has been mislearning.
6. This boy has been mislearning.
7. That boy has been mislearning.
8. Somchai has been mislearning.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + have + been + กริยาช่องที่ 1 เติม ing เช่น mislearn เป็น We have been mislearning. / พวกเราได้ เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง มาตั้งแต่เวลา (เช้า, 8 โมงเช้า, เที่ยง) แล้ว ขณะนี้ก็ยังทำอยู่
1. You have been mislearning.
2. We have been mislearning.
3. They have been mislearning.
4. These boys have been mislearning.
5. Those boys have been mislearning.
6. The boys have been mislearning.
7. Somchai and Somsak have been mislearning.
8. I have been mislearning. ** I เป็นข้อยกเว้น ต้องใช้กับ have แม้ว่า I จะเป็นเอกพจน์

 

Tense 5 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Past Simple

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 2 โดยจะกล่าวถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว อาจจะมีคำที่สื่อความหมายให้รู้ อย่างคำว่า เมื่อวานนี้ เมื่ออาทิตย์ ที่แล้ว

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เมื่อวานนี้ ฉัน กินข้าวผัด
- เมื่อวาน เขาอาบน้ำครั้งเดียว
- พวกเขาเล่นฟุตบอล สัปดาห์ที่แล้ว
- เมื่อวานนี้ฉันทำการบ้าน
- เมื่อวานนี้พวกเรามีประชุม หรือได้เข้าร่วมประชุม

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + กริยาช่องที่ 2 เช่น mislearn เป็น He mislearnt. / เขา เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง แล้ว เมื่อวานนี้
1. He mislearnt.
2. She mislearnt.
3. It mislearnt.
4. The boy mislearnt.
5. A boy mislearnt.
6. This boy mislearnt.
7. That boy mislearnt.
8. Somchai mislearnt.
9. I mislearnt.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + กริยาช่องที่ 2 เช่น mislearn เป็น We mislearnt. / พวกเรา เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง แล้ว เมื่อวานนี้
1. You mislearnt.
2. We mislearnt.
3. They mislearnt.
4. These boys mislearnt.
5. Those boys mislearnt.
6. The boys mislearnt.
7. Somchai and Somsak mislearnt.

 

Tense 6 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Past Continuous

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกลาวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต โดยมีลักษณะเป็นการกระทำที่มีความต่อเนื่อง

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เมื่อวานนี้ ตอนที่เธอโทรศัพท์มา ฉันกำลังทำการบ้านอยู่
- เมื่อวานเวลานี้ พวกเรากำลังเล่นฟุตบอล
- อาทิตย์ที่แล้ว วันนี้ ฉันกำลังทำการบ้าน
- เมื่อวานนี้เวลา 8 โมงเช้า ฉันกำลังกินข้าวผัดอยู่

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + was + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น mislearn เป็น He was mislearning. / เขากำลัง เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง เมื่อวานนี้ หรือสัปดาห์ที่แล้ว ปีที่แล้ว ในอดีตที่ผ่านมาแล้ว
1. He was mislearning.
2. She was mislearning.
3. It was mislearning.
4. The boy was mislearning.
5. A boy was mislearning.
6. This boy was mislearning.
7. That boy was mislearning.
8. Somchai was mislearning.
9. I was mislearning.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + were + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น mislearn เป็น We were mislearning. / พวกเรากำลัง เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง เมื่อวานนี้ หรือสัปดาห์ที่แล้ว ปีที่แล้ว ในอดีตที่ผ่านมาแล้ว
1. You were mislearning.
2. We were mislearning.
3. They were mislearning.
4. The boys were mislearning.
5. These boys were mislearning.
6. Those boys were mislearning.
7. Somchai and Somsak were mislearning.

 

Tense 7 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Past Perfect Simple

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 3 โดยจะกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต ในช่วงเวลาหนึ่ง ที่ได้จบลงไปแล้ว มักจะใช้พูดถึง 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือเกี่ยวข้องกับการ กระทำใดๆ โดยมักจะมีคำว่า เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว หรือ แล้ว ในประโยคนั้นๆ ที่บอกให้รู้ว่าเป็น Past Perfect Simple

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- ตอนที่คุณโทรศัพท์มา ฉันได้อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว (การกระทำ อาบน้ำ ได้เกิดขึ้นก่อน คุณจะโทรศัพท์เข้ามา และฉัน ก็ได้อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว )
- เมื่อวานนี้ตอนที่พ่อแม่มาถึงบ้าน ฉันก็ได้กินอาหารเที่ยงเรียบร้อยแล้ว (ฉันได้กินอาหารเที่ยง เกิดขึ้นก่อน พ่อแม่จะมาถึง และก็จบลงแล้ว กินข้าวเสร็จแล้ว )
- ก่อนฝนจะตกเมื่อวานนี้ พวกเขาก็ได้หยุดเล่นฟุตบอลแล้ว เลิกเล่นก่อนฝนจะตกลงมา
- เมื่อคืนนี้ ตอนที่คุณมาถึง ฉันก็ได้ทานอาหารค่ำเรียบร้อยแล้ว

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + had + กริยาช่องที่ 3 เช่น mislearn เป็น He had mislearnt. / เขาได้ เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง แล้ว หรือ เสร็จแล้ว หรือ เรียบร้อยแล้ว
1. He had mislearnt.
2. She had mislearnt.
3. It had mislearnt.
4. The had mislearnt.
5. A boy had mislearnt.
6. This boy had mislearnt.
7. That boy had mislearnt.
8. Somchai had mislearnt.
9. I had mislearnt.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + had + กริยาช่องที่ 3 เช่น mislearn เป็น We had mislearnt. / พวกเราได้ เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง แล้ว หรือ เสร็จแล้ว หรือ เรียบร้อยแล้ว
1. You had mislearnt.
2. We had mislearnt.
3. They had mislearnt.
4. These boys had mislearnt.
5. Those boys had mislearnt.
6. The boys had mislearnt.
7. Somchai and Somsak had mislearnt.

 

Tense 8 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Past Perfect Continuous

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต โดยเหตุการณ์นั้นมีลักษณะต่อเนื่อง มักจะใช้พูดถึงเหตุการณ์ หรือสิ่งที่เกิดขึ้น 2 เหตุการณ์ ในเวลาเดียวกัน

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เมื่อวานนี้ ตอนที่ลูกค้ามาถึงบริษัท พวกเขาก็ได้ประชุมกันมาตั้งแต่เวลา 8:00 เช้าแล้ว (การประชุมมีความต่อเนื่อง และขณะที่ลูกค้ามาถึง ก็ยังประชุมอยู่)
- เขาได้ทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้ว ก่อนที่คุณจะมาถึง (การทำงานมีความต่อเนื่อง แม้ว่าคุณจะมาถึงแล้ว แต่เขาก็ยังทำงานต่อ ยังไม่หยุด)
- เมื่อวาน พวกเขาได้ขับรถมา 6 ชั่วโมงกว่าแล้ว ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ (การขับรถเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องในอดีต)
- เขาได้นั่งทำการบ้านมาตั้งแต่เช้าแล้ว ก่อนพ่อแม่มาถึง (ทำการบ้าน เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง)
- พวกเขาได้เล่นฟุตบอลมา 2 ชั่วโมงแล้ว ก่อนฝนตก (เล่นฟุตบอลเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง)

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + had + been + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น mislearn เป็น He had heen mislearning. / เขาก็ได้ เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง มาแล้วตั้งแต่เวลา
1. He had heen mislearning.
2. She had heen mislearning.
3. It had heen mislearning.
4. The boy had heen mislearning.
5. A boy had heen mislearning.
6. This boy had heen mislearning.
7. That boy had heen mislearning.
8. Somchai had been mislearning.
9. I had been mislearning.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + had + been + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น mislearn เป็น We had heen mislearning. / พวกเราก็ได้ เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง มาแล้วตั้งแต่เวลา
1. You had heen mislearning.
2. We had heen mislearning.
3. They had heen mislearning.
4. These boys had heen mislearning.
5. Those boys had heen mislearning.
6. The boys had heen mislearning.
7. Somchai and Somsak had heen mislearning.

 

Tense 9 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Future Simple

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 โดยจะกล่าวถึงเรื่องที่จะเกิดในอนาคต พรุ่งนี้ หรือ อีกหลายวันข้างหน้า หรือในอนาคต มีคำว่า จะ (ทำอะไร) ในประโยค
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- วันพรุ่งนี้ ฉันจะกินข้าวผัด
- พร่งนี้ฉันจะไปอาบน้ำอุ่น
- พวกเขาจะเล่นฟุตบอลพรุ่งนี้
- ฉันจะทำการบ้านพรุ่งนี้
- พวกเขาจะประชุมวันศุกร์นี้

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + กริยาช่องที่ 1 เช่น mislearn เป็น He will mislearn. / เขาจะ เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง
1. He will mislearn.
2. She will mislearn.
3. It will mislearn.
4. The boy will mislearn.
5. A boy will mislearn.
6. This boy will mislearn.
7. That boy will mislearn.
8. Somchai will mislearn.
9. I will mislearn.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + กริยาช่องที่ 1 เช่น mislearn เป็น We will mislearn. / พวกเราจะ เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง
1. You will mislearn.
2. We will mislearn.
3. They will mislearn.
4. These boys will mislearn.
5. Those boys will mislearn.
6. The boys will mislearn.
7. Somchai and Somsak will mislearn.

Tense 10 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Future Continuous

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีความหมายว่า กำลังอยู่ระหว่างทำเหตุการณ์นั้นในอนาคต
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เวลา 10 โมงเช้าพรุ่งนี้ ฉัน จะกำลัง อาบน้ำ
- พรุ่งนี้แปดโมงเช้า ฉัน จะกำลัง ประชุมอยู่
- พรุ่งนี้เที่ยงตรง เรา จะกำลังกินข้าว เที่ยงกันอยู่ที่โรงแรม

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + be + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น mislearn เป็น He will be mislearning. / เขาจะกำลัง เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง
1. He will be mislearning.
2. She will be mislearning.
3. It has will be mislearning.
4. The boy will be mislearning.
5. A boy will be mislearning.
6. This boy will be mislearning.
7. That bog will be mislearning.
8. Somchai will be mislearning.
9. I will be mislearning.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + be + กริยาช่องที่ 1 + เติม ing เช่น mislearn เป็น We will be mislearning. / พวกเราจะกำลัง เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง
1. You will be mislearning.
2. We will be mislearning.
3. They will be mislearning.
4. These boys will be mislearning.
5. Those boys will be mislearning.
6. The boys will be mislearning.
7. Somchai and Somsak will be mislearning.

 

Tense 11 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Future Perfect Simple

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 3 โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่จะจบลงในเวลาที่กำหนด มักจะมีคำว่า แล้ว เรียบร้อยแล้ว เสร็จแล้ว ในประโยค
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- เวลา 10 โมงเช้าพรุ่งนี้ ฉันจะได้ประชุมสร็จแล้ว
- เวลาบ่ายโมงพรุ่งนี้ พวกเราจะหยุดเล่นฟุตบอลแล้ว
- พรุ่งนี้ 5 โมงเย็น ฉันจะเรียนดนตรีเสร็จแล้ว
- เมื่อคุณมาถึงโรงแรม พวกเราจะกินข้าวเที่ยงเสร็จแล้ว

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + have + กริยาช่องที่ 3 เช่น mislearn เป็น He will have mislearnt. / เขาจะได้ เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว
1. He will have mislearnt.
2. She will have mislearnt.
3. It will have mislearnt.
4. The boy will have mislearnt.
5. A boy will have mislearnt.
6. This boy will have mislearnt.
7. That boy will have mislearnt.
8. Somchai will have mislearnt.
9. I will have mislearnt.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + have + กริยาช่องที่ 3 เช่น mislearn เป็น We will have mislearnt. / พวกเราจะได้ เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว
1. You will have mislearnt.
2. We will have mislearnt.
3. They will have mislearnt.
4. These boys will have mislearnt.
5. Those boys will have mislearnt.
6. The boys will have mislearnt.
7. Somchai and Somsak will have mislearnt.

 

Tense 12 : วิธีใช้คำกริยานี้ในประโยคแบบ Future Perfect Continuous

  ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เติม ing โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่มีลักษณะเป็นการกระทำอย่างต่อเนื่อง จะได้กำลังทำอะไรบางอย่าง ในช่วงเวลาที่ กำหนด ประโยคในลักษณะนี้ไม่ค่อยได้ใช้กันบ่อยนัก ใช้น้อยมากในการแต่งประโยค หรือสนทนา พูดจากัน
ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- ก่อนที่ผมจะไปถึงที่บ้านพรุ่งนี้เวลา 10 โมงเช้า คุณจะได้กำลังเตรียมตัวสัก 2 ชั่วโมง (กำลังเตรียมตัวเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง ต้องทำนู่น นี่ จัดของ ฯลฯ )
- พรุ่งนี้เวลา 8:00-10:00 น. พวกเราจะได้กำลังประชุมกันอยู่ (กำลังประชุม เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง)
- พรุ่งนี้ 10 โมงเช้า คุณจะได้กำลังใช้อินเตอร์เน็ตประมาณ 2 ชั่วโมง
- ฉันจะได้กำลังเรียนกีตาร์ 3 เดือน ในปีหน้า

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + have + been + กริยาช่องที่ 1 เติม ing เช่น mislearn เป็น He will have been mislearning. / เขา จะได้กำลัง เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง
1. He will have been mislearning.
2. She will have been mislearning.
3. It will have been mislearning.
4. The boy will have been mislearning.
5. A boy will have been mislearning.
6. This boy will have been mislearning.
7. That boy will have been mislearning.
8. Somchai will have been mislearning.
9. I will have been mislearning.

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + will + have + been + กริยาช่องที่ 1 เติม ing เช่น mislearn เป็น We will have been mislearning. / พวกเรา จะได้กำลัง เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง
1. You will have been mislearning.
2. We will have been mislearning.
3. They will have been mislearning.
4. These boys will have been mislearning.
5. Those boys will have been mislearning.
6. The boys will have been mislearning.
7. Somchai and Somsak will have been mislearning.

 

การใช้คำกริยานี้กับ Going to

'

ประโยคแบบนี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 โดยจะกล่าวถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีความหมายว่า กำลังจะ ไปทำ ..อะไร..บางอย่าง ความหมายจะคล้ายกับ เท้นส์ Present Continuous Tense ประธาน + will + กริยาช่องที่ 1

ตัวอย่างประโยคที่สื่อความหมายแบบนี้
- ฉัน กำลังจะ ไปกิน ผลไม้
- ฉัน กำลังจะ ไปประชุม
- ฉัน กำลังจะไป ทำการบ้าน

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานเอกพจน์

ประธานเอกพจน์จะมีเพียงหนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งเดียว อย่างเดียว ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + is + going to + กริยาช่องที่ 1 เช่น mislearn เป็น He is going to mislearn. / เขา กำลังจะไป เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง
1. He is going to mislearn.
2. She is going to mislearn.
3. It is going to mislearn.
4. The boy is going to mislearn.
5. A boy is going to mislearn.
6. This boy is going to mislearn.
7. That boy is going to mislearn.
8. Somchai is going to mislearn.
9. I am going to mislearn. ** I จะใช้ am

 

การใช้คำกริยานี้กับประธานพหูพจน์

ประธานพหูพจน์จะมีตั้งแต่ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง 2 ตัว 2 รายการ ขึ้นไป ประโยคแบบนี้ จะมีโครงสร้าง ประธาน + are + going to + กริยาช่องที่ 1 เช่น mislearn เป็น We are going to mislearn. / พวกเรา กำลังจะไป เรียนรู้ผิดพลาด, ได้รับความรู้ไม่ถูกต้อง, เรียนรู้อย่างไม่ถูกต้อง
1. You are going to mislearn.
2. We are going to mislearn.
3. They are going to mislearn.
4. These boys are going to mislearn.
5. Those boys are going to mislearn.
6. The boys are going to mislearn.
7. Somchai and Somsak are going to mislearn.

 

สรุป

คำกริยา 3 ช่อง แต่ละคำจะมีรูปแบบการใช้กับเท้นส์ (Tense) ทั้ง 12 แบบ เป็นรูปแบบมาตรฐาน แต่โอกาสจะได้ใช้หรือนำไปแต่งประโยค เพื่อใช้สื่อสารในชีวิตจริงมาก น้อยต่างกันไป กริยาบางคำอาจจะใช้กับเท้นส์เพียงไม่กี่เท้นส์เท่านั้น และในเท้นส์นั้นๆ ก็อาจจะใช้บางประธานของประโยคเท่านั้น ส่วนผู้ที่จะได้ใช้ทั้งหมดทุกเทนส์ก็จะมี เพียงผู้ที่ศึกษาภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำรายงานส่งอาจารย์