ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดถึงคนที่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นในเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือในเรื่องที่ได้เกิดขึ้น เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ อาจจะไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเพราะกลัวจะนำความเดือดร้อนมาให้ตนเองหรือเพราะเห็นว่าเป็นพวกเดียวกันจึงแกล้งปล่อยให้ผ่านไปโดยไม่สนใจ ทำอย่างแนบเนียนคนอื่นก็ตำหนิตนเองไม่ได้

ตัวอย่าง :

คนร้ายวางแผนการปล้นมาอย่างดีอาศัยคนในบ้านเป็นผู้ช่วยเปิดทางสะดวกโดยให้แกล้ง เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่เห็น ปล่อยให้คนร้ายเข้าบ้านได้โดยสะดวก

การทุจริตคดโกงในหน่วยงานต่างๆ ย่อมจะมีคนรู้เพียงแต่หากสมประโยชน์กันแล้ว ผู้มีอำนาจก็อาจแกล้ง เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่เห็น ในเรื่องที่เกิดขึ้นทำตัวเหนือปัญหา ตัวเองนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นเรื่องของคนระดับล่างและสุดท้ายก็มักจะจับคนผิดมาลงโทษไม่ได้เลย การทุจริตในหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานเอกชนมักจะมีรูปแบบเดียวกันในลักษณะนี้

สำหรับคนที่เรารักใคร่ชอบพอหรือสนิทสนมกันมาก หากคนผู้นั้นกำลังจะทำความผิดบางคนก็ยินยอมให้ทำไม่ขัดขวางเพราะเห็นว่าเป็นพวกเดียวกันแกล้ง เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็น ในเรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติ การมีพรรคมีพวกก็เป็นเรื่องธรรมดา จะทำอะไรก็มักจะเห็นแก่พรรคพวกของตนเอง ถึงแม้จะกระทำในสิ่งที่ผิดก็ตาม ก็แกล้งไม่รู้ไม่เห็น ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย ถึงแม้คนอื่นจะรู้ แต่หากไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าตัวเองนั้นมีส่วนรู้เห็นก็ย่อมจะเอาผิดไม่ได้