ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้สอนเรื่องการคบคน อย่าไว้ใจคน อย่าไว้ใจผู้อื่นเชื่อใจผู้อื่นมากจนเกินไปนัก เพราะอาจสร้างปัญหาใหญ่หลวงตามมา จนหาทางออกไม่ได้ อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคนจะจนใจเอง ซึ่งเรื่องแบบนี้ ก็อาจเกิดกับบางคนโดยเฉพาะในเรื่องของทรัพย์สินเงินทอง การหยิบยืมทรัพย์สินเงินทองหรือผลประโยชน์ แล้วไม่ยอมคืน ซึ่งมักจะกลายเป็นปัญหาที่สร้างความปวดหัวมากที่สุด

ตัวอย่าง :

ความไว้ใจ ความเชื่อใจคนใกล้ตัวมักจะนำมาซึ่งปัญหา อย่างเรื่องการยืมเงิน แล้วไม่คืน น่าจะเป็นปัญหายอดนิยม ที่เกิดจากความไว้ใจกัน ให้ยืมเงินแล้วก็ไม่คืน เรื่องนี้ก็จะเข้าทำนอง อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง เรื่องเงินอย่าไว้ใจใคร เพราะเวลาที่ตัวเองมีปัญหาต้องใช้เงินนั้น บางทีอีกฝ่ายก็ไม่ยอมคืนตามกำหนดนัดหมาย ก็จะสร้างปัญหาตามมาเพราะเงินนั้นเมื่อไปอยู่กับใครนานๆ แม้คนนั้นจะสามารถคืนได้ แต่ก็อาจจะไม่คืนเพราะเกิดความรู้สึกเสียดายและคิดว่าเงินนั้นเป็นของตนเองแล้ว จึงเกิดปัญหาตามมา นอกจากเงินแล้วผลประโยชน์ใดๆ ก็มีลักษณะที่คล้ายกัน

หากมีคนรอบข้างที่จะต้องรับผิดชอบชีวิต ต้องดูแลอาจเป็นคนในครอบครัว ลูกเมียที่ต้องดูแล แชมเปญ จะต้องมีความรอบคอบ ระมัดระวัง ก่อนที่จะหลงเชื่อและไว้ใจผู้หนึ่งผู้ใดโดยเฉพาะในเรื่องการเงิน การค้ำประกันกู้เงิน การผ่อนรถ ผ่อนสินค้า บางคนนั้นมีความเชื่อใจเพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้องจึงตกลงค้ำประกันในการกู้ยืมต่างๆ และต้องมารับผิดชอบแทนคนเหล่านั้น ซึ่งก็จะทำให้ครอบครัวของตนเองลูกเมียต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย ทั้งๆ ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วย

กรณีเป็นหนี้ก้อนใหญ่ ก็อาจจะต้องใช้เวลานับ 10 ปี จึงจะสามารถจ่ายหนี้ได้ทั้งหมด ดังนั้นอย่าไว้ใจใครง่ายๆ อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน จะจนใจเอง ไว้ใจมากเกินไป ชีวิตก็อาจเจอปัญหาจนไม่มีทางออก ซึ่งเรื่องที่ร้ายแรงที่สุดก็คงไม่พ้น เรื่องการค้ำประกันเพราะเป็นภาระผูกพันต้องใช้จ่ายหลายปี

เรื่องแบบนี้หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องวางแผน ในเรื่องทรัพย์สมบัติของตนให้ดี โดยเฉพาะคนที่มีฐานะตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีก็มักจะมีคนมาขอให้ช่วยค้ำประกันหรือมาหยิบยืมเงิน คนเหล่านั้นบางคนก็สร้างปัญหา ทำให้ตัวเองซึ่งในฐานะผู้ค้ำประกันต้องมาร่วมรับผิดชอบ เรื่องแบบนี้ต้องมีโอกาสเกิดขึ้นเป็นธรรมดา เพราะคนที่เอ่ยปากขอยืมเงินคนอื่นได้ง่ายๆ นั้น มีไม่น้อยที่เป็นคนไม่มีวินัยการเงินและยังเป็นคนที่ยังติดหลงในวัตถุหรืออยากมีอยากได้ เกินฐานะของตนเอง ซึ่งก็ต้องอาศัยการผ่อน การกู้ และคนรอบตัวที่คนเหล่านี้สามารถพึ่งพาได้ ก็ย่อมจะถูกเรียกใช้บริการ

การเบียดเบียนกัน สร้างความทุกข์กายทุกข์ใจให้ผู้หนึ่งผู้ใด มักจะมาจากคนใกล้ตัวเสียเป็นส่วนใหญ่ ความไว้ใจเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของปัญหา ไว้ใจให้ทำเรื่องสำคัญโดยเฉพาะเกี่ยวกับทรัพย์สินเงินทอง ซึ่งมักจะสร้างปัญหาตามมาเสมอ คนโบราณจึงมีคำเตือนว่า อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง อย่าไว้ใจใครเรื่องเงินทองหรือผลประโยชน์อื่นๆ แม้แต่คนในครอบครัวญาติพี่น้องหรือลูกหลานของตนเองก็ตาม ลูกโกงเงินพ่อแม่ พ่อแม่เป็นฝ่ายโกงเงินลูกหลาน ก็เป็นเรื่องที่มีบทเรียน เกิดขึ้นให้ได้เห็น กันเป็นประจำอยู่แล้ว

ที่ไหนมีผลประโยชน์ มีทรัพย์สินเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้องก็ย่อมจะมีเรื่องของการทุจริต คดโกงเป็นธรรมดา ดังนั้นอย่าไว้ใจใครในเรื่องนี้ ควรหาวิธีป้องกัน ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อย่าคิดว่าคนเรานั้นเป็นลูกหลานเป็นคนใกล้ตัว เป็นคนใกล้ชิด เป็นคนที่สามารถไว้ใจได้เชื่อใจได้ แต่เวลาเปลี่ยน คนเราก็มีวันเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

แม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้า นักบวช ผู้ประพฤติดีปฏิบัติดีก็ยังมีวันเปลี่ยนแปลง คงจะมีเพียง ติ๊กชีโร่ เท่านั้นที่ไม่รักเปลี่ยนแปลงดังนั้นอะไรก็อาจจะเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะในเรื่องเงินทองหรือผลประโยชน์ต่างๆ การถูกโกงเงินจนหมดตัว หรือการต้องรับผิดชอบแทนในฐานะผู้ค้ำประกัน ก็ล้วนแต่สร้างความเจ็บปวดทางใจ ทุกข์กาย ทุกข์ใจ อย่างหนักและอาจจะใช้เวลาหลายปีกว่าจะสามารถจัดการกับปัญหาให้จบลงได้ ดังนั้น อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง อย่างอาจารย์บางคนเซ็นค้ำประกันให้ลูกศิษย์เพื่อกู้ยืมเงินมาเรียนหนังสือ และเมื่อลูกศิษย์เรียนจบและทำงานแล้ว แต่กลับเบี้ยวไม่ยอมจ่ายหนี้เงินที่กู้มาเรียน ทำให้ครูต้องมารับผิดชอบแทน หากเจอกรณีอย่างนี้ก็จะสร้างความทุกข์กายทุกข์ใจไม่น้อยเลยทีเดียว