ความหมาย : สำนวนนี้จะใช้แทนบุคคลหรือผู้ที่ทำงานในบางอาชีพอย่างเกษตรกร ชาวนา ชาวสวน ต้อง ทำงาน หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน ก้มๆ เงยๆ อย่างการ ดำนา เกี่ยวข้าว การขุดดิน เพื่อเพราะปลูกซึ่งจะต้องใช้จอบเสียม ไม่ได้ใช้รถไถ หรือเครื่องจักรเหมือนทุกวันนี้

ตัวอย่าง :

ปัจจุบันการทำการเกษตร ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ไม่ได้ทำงานหนัก หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน มีความเหนื่อยยากลำบากแบบเมื่อ ก่อนแล้ว อย่างการเกี่ยวข้าว ดำนา เพราะปลูกต้องขุดดิน ถางหญ้า แต่ทุกวันนี้มีเครื่องมือการเกษตร มีอุปกรณืทุ่นแรงให้เลือก ใช้มากมาย การทำการเกษตรง่ายกว่าสมัยก่อนมาก

เกษตรกร สมัยก่อน ทำงานหนัก หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน เพราะไม่มีเครื่องมือช่วยทุ่นแรงเหมือนทุกวันนี้ แต่วิธีทำการเกษตร แบบคนรุ่นเก่าก็มีข้อดี เพราะช่วยประหยัดต้นทุนได้มากกว่า เช่น
- การไถนา จะใช้ควาย แม้จะเสียเวลา ใช้เวลาทำงานมากกว่า แต่ประหยัดเงินในการจ้างรถไถ เน้นใช้แรงงานควาย ไม่มีค่าใช้จ่าย มากเหมือนรถไถ
- การเกี่ยวข้าวก็จะใช้รถเกี่ยวข้าวเช่นกัน ประหยัดเวลา แต่ก็มีค่าใช้จ่ายมากกว่าการเกี่ยวด้วยมือในสมัยก่อน แต่จะไม่เหมาะ สำหรับผู้ที่ทำนาจำนวนมาก
รายจ่ายต่างๆ ยังมีอีกมาก ความสะดวก ก็ย่อมจะต้องแลกมาด้วยรายจ่ายที่มากขึ้น สบายขึ้นแต่ก็ได้เงินน้อยลง

งานทุกประเภทที่ต้องใช้แรงกาย โดยเฉพาะงานหนัก หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน อย่างเกษตรกร จำเป็นจะต้องคิดหาวิธีพัฒนา เทคนิคการทำงาน เพื่อประหยัดแรงงาน และเพิ่มผลผลิต ในขณะที่ต้นทุนต่ำลง ทำงานสบายขึ้น อย่างการสูบน้ำ แทนที่จะใช้ เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันก็ใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ เปลี่ยนแสดงแดดเป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อปั่นเครื่องสูบน้ำ เป็นต้น การ ออกแบบ หรือประดิษเครื่องมือเครื่องใช้จะช่วยลดการทำงานลงได้ ไม่เช่นนั้นก็จะต้องทำงานเหนื่อยมากเหมือนคนในสมัยโบราณ แก่ตัวไปก็คงจะไม่ไหวอย่างแน่นอน เพราะการทำงานหนักในวัยทำงานจะส่งผลทำให้เจ็บป่วยเมื่อเข้าสู่วัยชรา

หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน