ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดถึงการ เลิกคบกัน ของบางคน บางกลุ่มหรือบางประเทศ อาจเป็นคนใน ครอบครัว ลูกหลาน เพื่อนฝูง ก็ตามที บอกศาลา เลิกคบหา จาก นี้ไปจะไม่คบกันแล้ว ซึ่งมักจะมีปัญหาทะเลาะกันจนยากจะกลับ มาคืนดีกันได้

ตัวอย่าง :

แม้จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันก็ตาม แต่บางคนก็ไม่ลังเล ที่จะตัดความสัมพันธ์ บอกศาลา เลิกคบ ตัดขาดทุกอย่าง เพราะ คนใกล้ชิดกันนั้น มักจะเป็นฝ่ายทำร้ายกันเอง ทั้งร่ายกาย ทรัพย์สิน หรือจิตใจ ให้ได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัด บาง คนโกงสมบัติ โกงทรัพย์สิน บางคนถึงขั้นทำร้ายจนเสียชีวิตเพื่อ ชิงทรัพย์ก็มี

 

คนเป็นสามีภรรยากัน บางคู่นั้นเหมือนสร้างเวรกรรมกันมา แต่ชาติปางก่อน มาคบกันเพื่อทะเลาะกัน จนต้องบอกเลิก แยกทาง บอกศาลากัน ไม่คบหา ไม่เผาผีกันแล้ว เพราะช่วงเวลาที่คบกันนั้น ต่างก็สร้างรอยแผลให้เจ็บช้ำทั้งกาย ทั้งใจ จนยากจะรับไหว เรื่อง นี้ก็เป็นเรื่องปกติ ของคนที่คบกัน การพยายามเรียกร้องความรัก จากอีกฝ่าย พยายามควบคุมชีวิตอีกฝ่ายมากเกินไป หรือเอา เปรียบอีกฝ่ายมากเกินไป เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอสำหรับชีวิตคู่

 

การเลิกคบหาสมาคมของคนเรานั้น เป็นเรื่องปกติ บางคนเป็น เพื่อนกันคบกันแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เมื่อพ้นช่วงเวลานั้นไปแล้ว ก็อาจจะต้องแยกทางกันไป บางคนอาจจะกันด้วยดี แต่บางคนมี ความสัมพันธ์ค่อนข้างเลวร้าย ต้อง บอกศาลา เลิกคบกันไม่เผาผี ชาตินี้ ไม่ต้องรู้จักกันต่อไปแล้ว

 

อย่าทำให้ใครโกรธแค้น จนอีกฝ่ายต้อง บอกศาลา เลิกคบ เพราะบางคนนั้นจะเกิดความโกรธแค้น อาฆาต พยาบาท อย่าง แรงกล้า แม้เวลาจะผ่านเป็น 10 ปี ความอาฆาตพยาบาทก็ยังไม่ ลดลง ยังคงสาปแช่งให้ชีวิตล่มจม ทุกครั้งที่นึกถึง หากคิดว่าไปกัน ไม่ได้ ก็ควรถอยห่างหรือปรับความเข้าใจและจากกันด้วยดีย่อมจะ ดีกว่าการจากกันด้วยความโกรธแค้น ซึ่งจะกลายเป็นบาดแผลใน ใจทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะคนที่เคยรักกันเป็นคู่ครองกัน การจากกัน ด้วยรอยแค้น มักจะเป็นบาดแผลในใจ ที่ยากจะลบเลือน