รูปแบบการเล่นกีตาร์โซโล่อาจจะเป็นการเล่นตามตัวโน้ตของแต่ละสายบนเฟร็ดกีตาร์หรืออาจจะเล่นในท่อนอินโทรก่อนขึ้นเพลง หรือท่อนโซโล่ หรือโซโล่ไปตามเนื้อร้อง เพลงส่วนใหญ่จะมีรูปแบบการโซโล่ที่เหมือนๆ กัน คนที่เล่นกีตาร์แบบนี้ได้ จะมีความเทห์มากกก โดยเฉพาะถ้าเป็นนักร้องนำด้วยแล้ว จะยิ่งเพิ่มความปัง! อย่างเช่น พี่เสก

 

การเล่นกีตาร์แบบโซโล่จำเป็นต้องฝึกฝนมากกว่าปกติ ยากกว่าการตีคอร์ด แต่สำหรับนักกีตาร์แล้ว ก็จำเป็นจะต้องเล่นให้ได้ทุกแบบ แต่ส่วนใหญ่จะเน้นแค่ตีคอร์ดมากกว่า

การเล่นกีตาร์แบบโซโล่ในแต่ละเพลงอาจจะมีรูปแบบที่ต่างกันไป เช่น
1. การเล่นกีตาร์โซโล่ในช่องท่อนอินโทรก่อนเข้าเนื้อร้องของเพลงนั้นๆ
2. การเล่นโซโล่สั้นๆ เมื่อจบเนื้อร้องแต่ละท่อน ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงแนวเพื่อชีวิต เป็นการโซโล่สั้นๆ
3. การโซโล่หลังท่อนฮุก
4. การโซโล่เมื่อจบเพลง
5. การเล่นเพลงบรรเลง โซโล่ตามเนื้อร้องของเพลงนั้นๆ อาจจะมีการปรับแต่งตามแต่ผู้เล่น
6. การนำกีตาร์ไปเล่นแทนพิณ

การฝึกเล่นกีตาร์แนวนี้จะต้องแม่นในเรื่องตัวโน้ตในแต่ละช่องหรือแต่ละเฟร็ดบนคอกีตาร์ ซึ่งแต่ละสายจะมีโน้ตต่างๆ ดังนี้ 1. ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับตัวโน้ตกีตาร์กันก่อน จะมีดังนี้ - C ซี หรือ โด / ด
- D ดี หรือ เร / ร
- E อี หรือ มี / ม
- F เอฟ หรือ ฟา / ฟ
- G จี หรือ ซอล / ซ
- A เอ หรือ ลา / ล
- B บี หรือ ที / ท
- C ซี หรือ โดสูง ด /


2. สาย 6 สายเปล่าไม่มีการกดที่ช่องใดๆ จะเป็นเสียง E หรือ มี จากนั้นก็ไล่ตัวโน้ตไปตามลำดับ เป็น E, F, G, A, B, C, D, E ...
3. สาย 5 สายเปล่าจะเป็นเสียง A จากนั้นก็ไล่ตัวโน้ตไปตามลำดับ เป็น A, B, C, D, E, F, G, A ...
4. สาย 4 จะเป็นเสียง D จากนั้นก็ไล่ตัวโน้ตไปตามลำดับ เป็น D, E, F, G, A ...
5. สาย 3 จะเป็นเสียง G จากนั้นก็ไล่ตัวโน้ตไปตามลำดับ เป็น G, A, B, C, D, E ...
6. สาย 2 จะเป็นเสียง B จากนั้นก็ไล่ตัวโน้ตไปตามลำดับ เป็น B, C, D, E, F, G, A
7. สาย 1 จะเป็นเสียง E จากนั้นก็ไล่ตัวโน้ตไปตามลำดับ เป็น E, F, G, A, B, C, D, E ...

 

การฝึกการไล่โน้ตไปตามเนื้อร้องของเพลง

การฝึกไล่โน้ตอาจจะหาโน้ตเป่าขลุ่ยมากฝึกดีดไปตามนั้น ก็จะสามารถดีดไปตามเนื้อร้องได้ดี เป็นพื้นฐานการโซโล่ และศึกษาวิธี การเกาสายกีตาร์แบบต่างๆ จากนั้นก็นำมาเล่นแบบผสมเข้าด้วยกัน โดยให้เริ่มจากการโซโล่ไปตามเนื้อร้องของเพลงนั้นๆ หยุดที่ช่องใด ก็ดูว่า ช่องนั้น เป็นโน้ตอะไร เช่น C ก็จับคอร์ด C ไปเลย
1. ค้นหาได้จาก Google พิมพ์คำว่า โน้ตขลุ่ย
2. เลือกคำสั่ง ค้นรูป
3. ตัวอย่างโน้ตขลุ่ย โน้ตเพลงแบบต่างๆ มีเยอะมาก ทุกเพลง


4. แต่โน้ตจะต่างกัน โดยโน้ตกีตาร์จะมีทางชาร์ป (b) ลดเสียงลงครึ่งเสียง และ ทางแฟลต (#) เพิ่มเสียงขึ้นอีกครึ่งเสียง ตัวอย่างตัวโน้ต ทb หรือ Bb ต้องลดลงครึ่งเสียง ก็จะต้องกดตำแหน่งบนเฟร็ตกีต้าร์ตามภาพ
5. ส่วนตัวโน้ต ร# หรือ D# จะต้องเพิ่มเสียง เร อีกครึ่งเสียง ก็จะต้องกดตำแหน่งบนเฟร็ตกีต้าร์ตามภาพ

 

 

การใช้นิ้วดีดสายกีตาร์เพื่อเล่นกีตาร์โซโล่

การเล่นแบบนี้นิยมเล่นกับกีตาร์คลาสสิก อาจจะเรียกว่าการเกาก็ได้ โดยจะใช้นิ้วในลักษณะนี้
1. นิ้วหัวแม่มือ จะดีดสายเบส สาย 4, 5 และ 6 เช่น ดีดตัวโน้ต E, F, G, A, B, C, D, E, F ของสายที่ 6-4 นิ้วหัวแม่มือจะทำงานหนัก กว่านิ้วอื่น ไม่เช่นนั้น ก็คงจะไม่เรียกว่า นิ้วแม่ ต้องเก่งกว่า สำคัญกว่านิ้วอื่น
2. นิ้วชี้จะดีดสาย 3
3. นิ้วกลางดีดสาย 2
4. นิ้วนางดีดสาย 1

 

การโซโล่โดยใช้นิ้วแบบนี้ต้องฝึกหนักพอสมควร เพื่อฝึกนิ้วในการดีดสาย เหมาะสำหรับการเล่นกีตาร์คลาสิก การเล่นเพลงแนวเพื่อ ชีวิต จำเป็นต้องใช้น้ำยาทาเล็บ เพื่อให้เล็บแข็ง

การดีดสายโดยใช้ปิ๊ก

การเล่นกีตาร์แบบโซโล่จำเป็นต้องใช้ปิ๊ก จึงจะได้อารมณ์ การใช้นิ้ว ถ้าเล็กกุด ก็จบกัน ไม่มีเสียง เสียงไม่ออก
1. การดีดด้วยปิ๊กให้ใช้การดีดลง ดีดสายใดๆ ดีดผ่านสายลงล่าง
2. การดีดด้วยปิ๊กอีกแบบหนึ่งจะใช้การงัดขึ้น หรือดีดขึ้น เพลงเร็วๆ การโซโล่เร็วๆ จะต้องใช้การดีดลงสลับดีดขึ้นที่สายนั้นๆ

 

การฝึกพื้นฐานสำหรับเล่นกีตาร์แบบโซโล่

การเล่นกีตาร์แบบโซโล่จะต้องฝึกการดีดพื้นฐานดังนี้
1. ก่อนอื่นจะต้องรู้จักตัวโน้ตต่างๆ บนเฟร็ตกีตาร์ทั้งหมดเสียก่อน


2. การฝึกไล่นิ้วให้จับทีละ 4 เฟร็ด แล้วดีดสายไล่นิ้วจากบนลงล่างหรือล่างขึ้นบน เช่น สายบนสุด สาย 6 เห็นเสียง E ไม่ต้องกดสายใดๆ
3. สาย 6 ช่องที่ 1 เป็นเสียง F ให้กดด้วยนิ้วชี้
4. สาย 6 ช่องที่ 3 เป็นเสียง G ให้กดด้วยนิ้วนาง
5. สายที่ 4 ช่องที่ 4 เสียง B ให้กดด้วยนิ้วก้อย แยกแต่ละนิ้วๆ ละช่อง


6. ส่วนวิธีการดีดสายด้วยปิ๊กนั้น ให้ฝึกทั้งการดีดลงอย่างเดียวและดีดลงสลับดีดขึ้น เช่น ดีดลงเสียง F สลับดีดขึ้นเสียง G ต้องฝึกให้ คล่อง ดีดวนกลับไปกลับมาจนคล่อง จากบนลงล่าง ล่างขึ้นบน


7. ขยับนิ้วไปเฟร็ดที่ 5 ถึง 8 แล้วก็ฝึกดีดสายด้วยวิธีการคล้ายกัน ดีดไปตามตัวโน้ตหลัก เริ่มตั้งแต่ A, B, C ... จากสาย 6 ไปหาสาย 1


8. ขยับนิ้วไปเพร็ดที่ 9 ถึง 12 แล้วก็ฝึกดีดสายด้วยวิธีการคล้ายกัน แต่ต้องดีดเฉพาะตัวโน้ตหลักหรือเมเจอร์เท่านั้น

ทุกเฟร็ตบนคอกีตาร์จะต้องรู้ว่าลงด้วยโน้ตตัวใดบ้าง การดีดจนคล่องก็จะโซโล่ได้ดี การฝึกในลักษณะนี้เป็นพื้นฐานสำคัญในการ เล่นกีตาร์ อยากเก่งก็ต้องฝึกให้คล่อง ความเร็วในการดีดมีผลต่อการแกะเพลงเร็วๆ เช่นกัน

ศึกษาจากวิดีโอเพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

เพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ให้ศึกษาได้จากวิดีโอด้านล่าง