ความหมาย : สำนวนนี้ใช้กล่าวเพื่อเตือนสติให้ระวัง ในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ไม่ดีหรือทำเรื่องที่ไม่เหมาะ ไม่ควรในเวลานั้น ไม่ถูกกาละเทศะ เหมือนการ ปลุกผีกลางคลอง อย่างการพูดท้าทายสิ่งที่มองไม่เห็น หรือสัตว์ร้ายที่อยู่ในน้ำ อาจจะรู้ว่ากำลังมีคนเดินทางผ่าน และเข้ามาทำร้าย ขณะกำลังเดินทางทางเรือในสมัยโบราณจึงไม่ควรพูดในลักษณะนี้

ตัวอย่าง :

การทำเรื่องที่ไม่ควรทำหรือการพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดไม่เหมาะกับกาลเทศะหรือโอกาสหรือสถานการณ์ในขณะนั้น อาจจะเป็นการ ปลุกผีกลางคลอง อาจมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นก็ได้ เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดี จะทำอะไรจึงต้องคิดให้รอบคอบมีสติก่อนจะพูดก่อนจะทำ เพราะบางที ก็มีสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น หรืออันตรายที่อยู่ใกล้ๆ อย่างการเดินทาง หากเดินทางเงียบๆ ก็อาจจะไม่มีใครรู้ แต่หากทำเสียงดัง อาจจะมีคนดักซุ่มทำร้าย ปล้นจี้ เป็นต้น

การพูดหรือการกระทำหรือแม้แต่การคิดในเรื่องที่ไม่ดีก็ตาม ขณะเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นทางรถทางเรือหรือการเข้าไปในสถานที่ที่อันตรายอย่างการไปเที่ยวกางเต็นท์ในอุทยานเขาใหญ่ ห้ามพูดถึงช้าง เรื่องนี้ก็แปลกนะ

ผู้เขียนเคยไปกางเต็นท์ ได้เจอเพื่อนที่มาจากจังหวัดอื่น ซึ่งเคยเป็นเจ้าหน้าที่อาสาช่วยรักษาช้างที่บาดเจ็บ เมื่อมาถึงเขาใหญ่ เจ้าตัวก็เอาแต่พูดไม่หยุดว่าอยากเจอช้างอยากเห็นช้าง อยากเจอช้างที่ตัวเองได้ช่วย พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็ได้ยินเสียงช้างร้องดังลั่นป่า จนต้องบอกว่าหยุดพูดได้แล้ว เดี๋ยวมันมาจะพากันเดือดร้อน อยู่ในสถานที่แบบนี้ อย่าไป ปลุกผีกลางคลอง จะพากันลำบาก บางคนไปแกล้งช้าง ดึกๆ ช้างก็มาเอาคืนกระทีบรถ ทุบรถ เละ