การใช้งานรถสำหรับบางคนค่อนข้างหนัก ขับทุกวัน ขับทางไกล ใช้รถมากกว่าคนทั่วไป บางคนวันละ 200 กว่ากิโลเมตร การใช้รถในลักษณะนี้จำเป็นต้องเลือกรถให้เหมาะสม หรือดูแลรถเป็นกรณีพิเศษ จึงจะช่วยประหยัดเงิน ซึ่งมีหลายวิธีที่จะช่วยประหยัดเงินหลักแสนบาท หากรู้จักเลือกและใช้รถให้เหมาะสม

 

 

กรณีที่ 1 ใช้รถเล็ก ประหยัดน้ำมัน ไม่เปลี่ยนรถบ่อย

กรณีแรกก่อน การชับรถทางไกล ขับทุกวัน หากใช้รถเล็กๆ ประหยัดน้ำมัน แถมติดแก๊สด้วย รถคันนี้จึงมีค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันต่ำมาก ติดแก๊ส NGV ระยะทาง 1 กิโลเมตร ประมาณ 50-60 สตางค์เท่านั้น ประหยัดมาก และไม่เปลี่ยนรถบ่อย เน้นดูแลรถอย่างดี ถ่ายน้ำมันเครื่องให้เร็วกว่ากำหนด ทางศูนย์อาจระบุให้ถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตร แต่เลื่อนมาให้เร็วกว่านั้นประมาณ 6,000-7,000 กิโลเมตร ก็พอแล้ว เครื่องยนต์จะมีความทนทานมากกว่า แม้จะติดแก๊ส แต่ใช้รถเกินสี่แสนกิโลเมตรเลยทีเดียว ก่อนจะขายและเปลี่ยนรถ

 

หากที่ทำงานอยู่ไกลมาก ต้องขับรถบ่อย การใช้รถเล็กจะประหยัดเงินมากกว่า ใช้รถให้เกิน 10 ปี ดูแลให้ดี อย่าเปลี่ยนรถบ่อย ส่วนการติดแก๊สจะช่วยประหยัดเงินมากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องระวังปัญหาที่จะเกิดตามมาเพราะระบบแก๊ส การใช้รถในลักษณะนี้ค่อนข้างคุ้มค่ามาก ประหยัดเงินมาก กรณีติดแก๊สควรมีรถสำรอง

 

กรณีที่ 2 ใช้รถใหญ่ ติดแก๊ส ไม่เปลี่ยนรถบ่อย

กรณีที่สอง รายนี้ขับรถไปทำงานในแต่ละวัน เกิน 200 กิโลเมตร รวมระยะทางไปกลับ ทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ การใช้รถใหญ่เครื่องยนต์ใหญ่ แม้จะติดแก๊ส แต่ระยะทางไกลขนาดนี้ ก็มีค่าน้ำมันและค่าแก๊ส LPG ในแต่ละเดือนเกิน 10,000 บาท ขึ้นไป ใช้รถใหญ่ เครื่องยนต์ใหญ่ ขับทางไกล สบาย แต่ก็มีรายจ่ายมาก สุดท้ายก็ไม่ไหว ต้องเปลี่ยนงาน

 

หากที่ทำงานอยู่ไกลมาก จำเป็นต้องเลือกรถเครื่องยนต์เล็กๆ เพื่อความประหยัด หากติดแก๊สได้จะยิ่งดี จะยิ่งประหยัด แต่ต้องมีรถสำรอง เพราะรถติดแก๊สอาจจะมีปัญหาเมื่อใดก็ได้

 

กรณีที่ 3 ใช้รถมาก เปลี่ยนรถบ่อย

กรณีที่สาม รายนี้ขับรถมาก ประมาณ 100-150 กิโลเมตรต่อวัน และเปลี่ยนรถบ่อย ทุก 2-3 ปี ก็จะเปลี่ยนรถ รวมทั้งหมดตอนนี้ ก็เกือบ 10 คัน เข้าไปแล้ว การเปลี่ยนรถบ่อยๆ ทำให้เสียเงินเพราะราคารถที่ตกลงมา อย่างน้อยก็คันละเกิน 50,000 บาท หมดเงินไปเกิน 500,000 บาท เป็นส่วนต่างเมื่อมีการเปลี่ยนรถแต่ละครั้ง แต่มีข้อดีที่ได้รถใหม่ไว้ใช้งานตลอดเวลา

 

การเปลี่ยนรถบ่อยแม้จะมีข้อดี แต่ก็เสียเงินมาก รวมเงินทั้งหมดซื้อรถใหม่ป้ายแดงได้เลยทีเดียว ทางเลือกก็คือ ควรมีรถสำรองอีกคัน รถที่ใช้งานเป็นประจำอาจจะใช้งานค่อนข้างหนัก แต่การดูแลให้ดี เปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้เร็วกว่าปกติ อาจจะเปลี่ยนทุก 6,000 กิโลเมตร แทนที่จะเปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตร เปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอให้เร็วกว่าปกติ หรือแม้แต่การยกเครื่องใหม่ ฟิตเครื่องใหม่ ก็ยังประหยัดกว่าการเปลี่ยนรถบ่อยๆ แน่นอน 


บทสรุป

การขับรถ ใช้รถมาก ขับทางไกล จำเป็นต้องวางแผนให้ดี ผู้เขียนแนะนำให้เลือกรถตลาด ยี่ห้อยอดนิยม เครื่องยนต์ทนทานไว้ก่อน เลือกเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ประหยัดน้ำมัน ปรับแต่งช่วงล่างและภายในให้ดี เพื่อสร้างความสะดวกสะบายในการใช้งาน การใช้รถเล็ก ประหยัด ดูแลมากกว่ารถใหญ๋ เน้นใช้รถระยะยาว อย่าเปลี่ยนรถบ่อย ใช้ได้ได้เกิน 15 ปี ไม่เช่นนั้นจะเสียเงินหลักแสนเพราะเปลี่ยนรถบ่อย

 

กรณีที่ 1 กับกรณีที่ 3 จะพบว่า ในกรณีที่ 3 นั้น หากไม่เปลี่ยนรถบ่อย ก็จะไม่เสียเงินมากขนาดนั้น เลือกรถยนต์ที่ทนไม้ทนมืออย่างรถกระบะเครื่องยนต์ดีเซล ใช้งานได้นานเกิน 600,000 กิโลเมตรสบายๆ แต่การเปลี่ยนรถบ่อยๆ ทำให้เสียเงินมาก หากยังไม่เปลี่ยนงาน และเปลี่ยนรถบ่อยๆ อย่างนี้ น่าจะเสียเงินหลักล้านบาทแน่นอน