รถยนต์รุ่นใหม่ใช้หม้อน้ำที่เป็นอลูมิเนียมโดยมีฝาบนล่างเป็นพลาสติก หากดูแลไม่ถูกวิธี อายุการใช้งานก็จะสั้นลง สำหรับมือใหม่เพิ่งจะมีรถเป็นของตนเอง หรือ อาจจะได้รถยนต์มาไว้ในครอบครอง โดยที่ตัวเองไม่มีความรู้เกี่ยวกับรถมากนัก ก็มีคำแนะนำเบื้องต้นง่ายๆ ตามบทความนี้

 

หม้อน้ำเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญในระบบระบายความร้อนของรถยนต์ สำหรับผู้ใช้มือใหม่ หรือ เพิ่งจะได้รถมาไว้ใช้ อาจจะเป็นรถที่ทางพ่อแม่ให้มาไว้ใช้ระหว่างเรียน หรือบางคนก็ซื้อรถให้พ่อแม่ พี่น้องไว้ใช้งาน หรือบางคนก็หาซื้อรถยนต์มาไว้ใช้เอง เพราะมีความจำเป็นจะต้องใช้ แต่ไม่ว่าจะได้รถมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม นี่คือเรื่องสำคัญที่ต้องรู้เกี่ยวกับหม้อน้ำ

 

ทำความรู้จักหม้อน้ำฝาครอบพลาสติก + อลูมิเนียม

ในรถยนต์รุ่นใหม่จะใช้หม้อน้ำแบบนี้ ซึ่งช่วยระบายความร้อนได้ดีกว่า หม้อน้ำแบบเก่า โดยมีชิ้นส่วนสำคัญก็คือ
1. ฝาครอบบนล่าง เป็นพลาสติก
2. มีโอริง หรือ ยางรอง ใต้ฝาครอบพลาสติกกับอลูมิเนียม ชิ้นส่วนนี้จะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หม้อน้ำรั่ว หรือเสื่อมสภาพ ตามอายุการใช้งาน หรือเกิดจากเจ้าของรถเองที่ดูแลไม่เป็น


3. เหตุที่จะทำให้ยางโอริงใต้ฝาครอบพลาสติก เสื่อมสภาพเร็ว จะเกิดจาก น้ำยาหม้อน้ำ หรือ น้ำยาหล่อเย็น ที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับหม้อน้ำอลูมิเนียม น้ำยาเหล่านี้อาจจะกลายเป็นกรดไปทำให้ยางโอริงเสื่อมสภาพ
4. อีกสาเหตุหนึ่ง ก็เป็นไปตามอายุการใช้งาน เพราะยางโอริงใต้ฝาครอบด้านบน จะรับน้ำร้อนจากเครื่องยนต์ ก็ย่อมจะต้องเสื่อมสภาพเป็นธรรมดา หม้อน้ำดี ใช้วัสดุที่ดี ก็จะมีความทนทานมากกว่า เป็นต้น ทุกครั้งที่เปลี่ยนหม้อน้ำใหม่ ให้จดบันทึกเลขไมล์ และ วันที่เปลี่ยนเอาไว้ จะได้รู้ว่า เมื่อใดควรเปลี่ยน หรือ น่าจะพังเมื่อไร วันไหน


5. หม้อน้ำฝาครอบเป็นพลาสติก และ ส่วนระบายความร้อนเป็นอลูมิเนียมแบบนี้ ไม่นิยมซ่อม ไม่คุ้มค่าซ่อม และ ช่างก็ไม่น่าจะรับซ่อม เสียเวลา อีกทั้งอะไหล่ที่เป็นฝาครอบด้านบน มักจะต้องสั่งทำเป็นพิเศษ จากนั้นจึงนำมาเชื่อมติดกัน หากเชื่อมไม่ดี ก็มีโอกาสเกิดปัญหาตามมาในอนาคตได้

 

วิธีเปิดฝาหม้อน้ำ เพื่อดูระดับน้ำ

มือใหม่บางคน เปิดฝาหม้อน้ำยังไม่เป็นเลย เรื่องนี้สำคัญ จะต้องทำให้เป็น เพื่อจะได้ตรวจสอบน้ำในหม้อน้ำทุกครั้งก่อนเดินทาง
1. ต้องแน่ใจว่า เครื่องยนต์เย็นลงแล้ว ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำขณะเครื่องร้อน หรือ หลังจากดับเครื่อง ต้องรอให้เครื่องเย็นก่อน
2. วางฝามือทาบลงไปบนฝาหม้อน้ำ กดลงเล็กน้อย แล้วหมุนไปทางซ้ายหรือขวา เพื่อปลดล็อก แล้วดึงฝาออกมา


3. อย่าจับฝาหม้อน้ำแบบขยุ้มแล้วหมุน อาจจะไปโดนชิ้นส่วนที่เป็นโลหะ และทำให้นิ้วเป็นแผลได้

 

ควรเปิดดูน้ำในหม้อน้ำ เมื่อใด

การดูระดับน้ำในหม้อน้ำ มีความสำคัญ เพื่อป้องกันก่อนจะพารถไปพังกลางทาง รถยนต์เวลามีปัญหา จะเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้น ควรเปิดดูระดับน้ำทุกครั้ง เมื่อ....
1. ทุกครั้งที่จะออกจากบ้าน ขับรถออกจากบ้านในแต่ละวัน ไปทำธุระต่างๆ เปิดดูน้ำในหม้อน้ำ ถ้าระดับน้ำลด ก็เติม แต่หากน้ำลดทุกวัน ก็แสดงว่า ระบบน้ำน่าจะมีปัญหาแล้ว ให้ดูสีของน้ำด้วย ใสหรือขุ่น หรือแดง ถ้าเริ่มขุ่น แดง แสดงว่ามีสนิมข้างใน ก็ควรถ่ายน้ำออกจากระบบบ ขับรถไปร้านหม้อน้ำ แล้วทางร้านถ่ายน้ำให้ก็ได้ ถ้าทำเองไม่เป็น


2. ดูชิ้นส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น หม้อน้ำ ท่อน้ำ อย่างคันนี้ มีคราบสนิมออกมาแบบนี้ แสดงว่า หม้อน้ำมีการรั่วตามรอยตะเข็บ กรณีอย่างนี้ จะต้องทำการซ่อมทันที บางคันอาการหนัก น้ำหยุดตลอดเวลา เมื่อน้ำหมด เครื่องยนต์จะเกิดความร้อนสูงมาก และเกิดความเสียหายตามมาได้


3. การเติมน้ำที่หม้อพักน้ำสำรอง ปกติจะเป็นหม้อสีขาว อย่าเติมน้ำเกินขีด MAX ให้ระดับน้ำ อยู่ระหว่าง MAX กับ MIN

 

 

การใช้น้ำยาหม้อกับหม้อน้ำอลูมิเนียม

น้ำยาหม้อน้ำเมื่อเสื่อมสภาพ จะกลายเป็นกรดที่จะไปทำให้ยางโอริงใต้ฝาครอบพลาสติก บริเวณตะเข็ม เสื่อมสภาพเร็วมากขึ้น และทำให้เกิดการรั่วของน้ำในหม้อน้ำตามมา
1. อู่ซ่อมหม้อน้ำ บางอู่นั้นแนะนำตรงๆ เลยว่า อย่าไปเติมน้ำยาหม้อน้ำ ใช้น้ำเปล่าดีที่สุด แต่ควรมีการถ่ายน้ำออกบ้าง และตรวจสอบชิ้นส่วนที่อาจจะขึ้นสนิม เพราะแช่น้ำตลอดเวลา เช่น ฝาหม้อน้ำ วาล์วน้ำ ปั๊มน้ำ เมื่อมีปัญหา ก็เปลี่ยน
2. อย่างคันนี้ ฝาหม้อน้ำ ขึ้นสนิม สปริงเสื่อมสภาพแล้ว ก็เปลี่ยนไปใช้อันใหม่


3. กรณีเติมน้ำยาหม้อน้ำกับหม้อน้ำอลูมิเนียม จะต้องเลือกชนิดน้ำยาที่เข้ากัน และ มีการถ่ายน้ำยาหม้อน้ำออกทั้งระบบ เมื่อถึงเวลาที่กำหนด หรือ น้ำยาหม้อน้ำนั้นเสื่อมสภาพ ตรงจุดนี้ หากใครที่ไม่อยากจะเสียเวลาดูแล และ เสียเงินเพิ่มกับค่าใช้จ่ายของน้ำยา และ การถ่ายน้ำออกจากระบบ ก็ต้องเลือกใช้น้ำเปล่า แทน
4. รถยนต์บางรุ่นจะมีฝาหม้อน้ำของแท้ เป็นอลูมิเนียม ไม่เป็นสนิม แต่ราคาก็สูงหน่อย เช่น ของ NISSAN ราคา 250 บาท ในขณะที่ฝาหม้อน้ำธรรมดา ราคา 100 บาท หรือถูกกว่านี้

 

นำน้ำเปล่าติดรถอย่าให้ขาด

ในรถยนต์ควรจะนำน้ำเปล่าติดรถไว้ด้วย เผื่อรถมีปัญหากับระบบหม้อน้ำ ซึ่งอาจจะเกิดจากเหตุไม่คาดคิด เช่น
1. ระบบหม้อน้ำ อุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานระหว่างเดินทาง ทำให้น้ำรั่ว
2. เกิดจากเหตุไม่คาดคิด เช่น ขับตามรถใหญ่ แล้วโดนดีดก้อนหินเข้าหม้อน้ำ ทำให้หม้อน้ำทะลุ

 

การซ่อมหม้อน้ำ กรณีรั่ว

ในกรณีที่หม้อน้ำมีปัญหา รั่ว โดยเฉพาะหม้อน้ำอลูมิเนียม ฝาครอบพลาสติก มักจะเกิดจากโอริงเสื่อมสภาพ ตรงตะเข็บฝาบนรั่ว การนำรถไปซ่อม มีแนวทางต่างๆ ดังนี้
1. หาซื้ออะไหล่เอง โดยต้องตรวจสอบรุ่นของรถ ปีรถ ดูได้จากคู่มือหรือเล่มทะเบียนรถ การซื้อหากต้องการความมั่นใจ แนะนำให้ขับรถไปซื้อกับร้านอะไหล่ เพราะหากไม่ตรงกันจะสามารถเปลี่ยนได้ไม่ยาก ร้านส่วนใหญ่ยอมให้เปลี่ยน ส่วนการซื้อจากเน็ต เช่น Lazada , Shopee ก็ควรสอบถาม แชทไปคุยกันก่อน เพื่อป้องกันความผิดพลาด ทำให้เสียเวลา
2. สอบถามอู่ใกล้บ้าน มีใครรับมาซ่อมที่บ้านหรือไม่ บางอู่รับมาซ่อมที่บ้าน อาจจะคิดเงินเพิ่ม ค่าน้ำมัน เช่น 500 บาท ก็ยังดีกว่า ขับรถที่หม้อน้ำรั่วไปอู่ เพราะมีความเสี่ยงสำหรับคนที่ไม่มีความรู้
3. หาโอกาสขับรถไปสอบถามอู่ หรือ ศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆ สอบถามราคา การซ่อมนอกสถานที่ พร้อมนัดวันเวลานำรถเข้าไปซ่อม
4. ควรเปลี่ยนใหม่ แทนการซ่อม เช่น เปลี่ยนจากฝาครอบพลาสติกเป็นฝาโลหะ อาจจะมีปัญหาเรื่องการรั่วในอนาคต จะเสียเวลานำไปซ่อมอีก มือใหม่ไม่มีความรู้ ควรเปลี่ยนใหม่จะดีกว่า
5. และหลังจากเปลี่ยนหม้อน้ำใหม่แล้ว โดยเฉพาะเปลี่ยนไปใช้หม้ออลูมิเนียม ฝาพลาสติกเหมือนเดิม ก็ควรเติมแค่น้ำเปล่า และหมั่นถ่ายเปลี่ยนบ่อยๆ ไม่ต้องเติมน้ำยาหม้อน้ำ หากขี้เกียจดูแล เปลี่ยนถ่ายน้ำยาหม้อน้ำตามกำหนด แต่ต้องหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์อื่นๆ ด้วยเช่น วาล์วน้ำ ปั๊มน้ำ
6. หากต้องการของแท้ ก็ไปเปลี่ยนที่ศูนย์ ส่วนอู่นอกอาจจะใช้อะไหล่เทียบ คุณภาพด้วยกว่า แต่คิดราคาแพง แต่อาจจะไม่ได้ของดี

 

การขับรถที่หม้อน้ำมีปัญหา รั่ว

สำหรับรถที่มีปัญหา หม้อน้ำรั่ว ก็ยังสามารถขับได้ แต่ต้องขับด้วยความระมัดระวัง
1. ประสบการณ์ตรงของผู้เขียน หม้อน้ำมีปัญหา วาล์วน้ำไม่ทำงาน หากจำเป็นจะต้องเดินทาง เช่น ผู้เขียนจำเป็นจะต้องกลับเข้าบ้าน เพราะวันหยุด อู่ปิดทุกที่ การขับรถต้องหมั่นดูเข็มความร้อน เมื่อเข็มขึ้นใกล้ตัว H ก็จอดข้างทาง พักให้เครื่องเย็น แล้วก็ขับต่อ ทำแบบนี้ 20 กว่าครั้ง กว่าจะขับถึงบ้าน


2. ส่วนกรณีของรถที่หม้อน้ำรั่วตรงตะเข็บ แต่ระบบอื่นๆ ยังทำงานตามปกติ ก็ยังสามารถขับรถไปที่อู่ได้สบาย แต่ห้ามขับเร็ว ขับช้าๆ แรงดันน้ำจะไม่แรง อย่างไรเสีย น้ำจะไม่รั่วออกจนเกลี้่ยงหม้อน้ำ
3. แตะขณะขับรถก็ต้องหมั่นดูเข็มวัดความร้อน หากเกินครึ่ง ต้องรีบหยุด รอให้เครื่องเย็น เติมน้ำ แล้วขับต่อไปจนกว่าจะถึงอู่หรือร้านซ่อมหม้อน้ำ หรือศูนย์ เพื่อทำการซ่อม

 

สรุป

ข้อคิดที่อยากจะแนะนำสำหรับมือใหม่ หรือ ผู้เริ่มต้นใช้รถยนต์ มีรถยนต์ไว้ใช้งาน อย่าสักแต่ขับอย่างเดียว จำเป็นต้องศึกษา อย่างน้อยก็ต้องรู้ว่ารถตัวเอง ยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร รหัสประจำตัวรถรุ่นนั้นๆ รหัสอะไร อย่าง Nissan Sunny ก็จะมี B13, B14, N16 เป็นต้น เพื่อความง่ายในการสั่งอะไหล่ โดยจะสามารถค้นหาอะไหล่ได้ง่าย เช่น หม้อน้ำ Nissan Sunny Neo N16 ราคา แค่นี้ก็จะหาข้อมูลได้ไม่ยาก หรือกรณีไปติดต่อซื้ออะไหล่เอง ก็ถามร้านอะไหล่ตามนั้นได้เลย