ในรถยนต์มือสองที่เบาะขาดหรือชำรุด การซ่อมเบาะอาจจะต้องจ่ายในราคาแพงแต่มีความทนทานมากกว่า ส่วนชุดหุ้มเบาะแบบสวมทับเป็นทางเลือกราคาประหยัด แต่การเลือกซื้อก็ต้องพิจารณาหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่องความทนทาน ความสบายในการใช้งาน ประโยชน์ใช้สอยและราคา

 

ในรถยนต์เก่าที่เบาะขาด การซ่อมเบาะจะมีค่าใช้จ่ายหลักพันบาท แพงกว่าชุดหุ้มเบาะ และต้องใช้เวลา ผู้เขียนมีรถหลายคันจึงถอดเบาะไปทิ้งไว้ที่ร้านได้ แต่หากมีรถคันเดียวอาจจะไม่สะดวก อย่างเบาะแบบนี้ เดิมเป็นหนังทั้งหมด ได้เปลี่ยนเป็นครึ่งหนัง ครึ่งผ้า ด้านบนเป็นผ้าจึงไม่ร้อน สำหรับรถที่ไม่ได้ติดฟิล์ม หรือ แอร์ไม่ค่อยเย็น

 

การซ่อมด้วยการเย็บเบาะรถยนต์ หากมีงบมากพอ ก็ดีกว่าการซื้อชุดหุ้มเบาะ เพราะสามารถออกแบบลายได้ตามที่ชอบ

 

เมื่อการซ่อมเบาะ ต้องจ่ายแพงกว่า และต้องนำเบาะไปทิ้งที่ไว้ร้าน การซื้อชุดหุ้ม เบาะจึงเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่า และประหยัดเงินมากกว่า เพียงแต่ส่วนใหญ่เบาะจะเป็นหนังเทียม หากแอร์ไม่เย็น จะร้อนมากกว่าเบาะผ้า เพราะเหงื่อไม่สามารถระบายออกไปได้ เหมือนเบาะผ้า

 

คุณสมบัติเด่นของชุดหุ้มเบาะที่ควรใส่ใจ

เบาะไม่สวย ชุดหุ้มเบาะจึงเป็นทางเลือกได้ แต่ควรพิจารณาด้านต่างๆ เช่น
1. ไม่ควรเลือกลายที่มีหลายชิ้น มีการเย็บมาก เพราะจะมีโอกาสฉีกขาดมากเช่นกัน ควรเลือกลายแบบเรียบๆ ธรรมดาจะดีกว่า
2. การเย็บและใส่ฟองน้ำเป็นปุ่มๆ ก็เช่นเดียวกัน การนั่งช่วงแรกอาจจะรู้สึกดี แต่นั่งนานๆ อาจจะไม่สบายอย่างที่คิดเพราะพื้นไม่เรียบ ฟองน้ำไปรวมตัวกันอยู่จุดใดจุดหนึ่ง และมีโอกาสฉีกขาดได้มากกว่าเบาะเรียบๆ เป็นแผ่นเดียวกันทั้งหมด
3. สำหรับรถยนต์เก่า เบาะแบบเก่าไม่มีช่องใส่ของ ก็ควรเลือกชุดหุ้มเบาะแบบมีที่เก็บของด้านหลัง มีช่องใส่แก้ว ใส่ขวดน้ำ หรือที่เก็บสิ่งของในรถ
4. ศึกษาหาข้อมูลหลายๆ แบบ เพื่อจะได้เลือกรุ่นที่มีประโยชน์ใช้สอย เรียบง่ายและคุ้มค่าเงินมากที่สุดเช่นกัน

 

สรุป

ชุดหุ้มเบาะอาจจะเป็นตัวเลือกที่ประหยัดในระยะเวลาสั้นๆ แต่หากเบาะขาด ชำรุดมาก การเย็บเบาะจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า หากงบไม่มาก ก็เย็บเฉพาะด้านบนและพนักพิงแบบนี้ก็พอ ค่าใช้จ่ายจะน้อยลง และทนทานมากกว่าในระยะยาว