ผลตอบแทนสำหรับนักเขียนแทบไม่ต่างกันหากขายดี แต่ความเสี่ยงในการผลิตหนังสือจะมีมากกว่าอีบุ๊ค หากหนังสือไม่โดนใจ ขายไม่ออก ก็ต้องชั่งกิโลขายอย่างเดียว กิโลไม่กี่บาทเท่านั้นเอง

 

รายได้จากการขายหนังสือต้องแบ่งกี่ส่วน

รายได้จากการขายหนังสือหนึ่งเล่มจะถูกแบ่งเป็นหลายส่วน ทำให้นักเขียนได้รับเงินน้อยมาก แม้หนังสือจะมีราคาหลายร้อย
ตัวอย่างหนังสือราคา 100 บาท จะต้องแบ่งรายรับเป็นส่วนๆ ดังนี้
ร้านค้าที่รับหนังสือไปขายได้ส่วนแบ่ง 20-25 บาท
สำนักพิมพ์ ได้ส่วนแบ่งประมาณ 45-50 บาท โดยมีรายจ่ายค่าพิมพ์จ่ายให้โรงพิมพ์อีกประมาณ 25-30 บาท
นักเขียนได้ประมาณ 10-15 บาท


จะเห็นว่า พ่อค้าคนกลาง ก็คือร้านค้าที่รับหนังสือไปขายได้ส่วนแบ่งมากที่สุด ในขณะที่นักเขียนได้เพียง 10-15 บาทต่อหนังสือราคา 100 บาท เท่านั้นเอง ในขณะที่คนซื้อต้องจ่ายมากถึง 100 บาท เพราะราคาที่ ผ่านกระบวนการขายหลายขั้นตอน นอกเสียจากนักเขียนจะลงทุนพิมพ์เอง และหนังสือตั้งราคาไว้เกิน 200 บาท หักค่าใช้จ่ายแล้วจะเหลือประมาณ 60 บาทต่อเล่ม หากขายได้หลักหมื่นเล่ม ก็จะทำกำไรหลักแสนทันที

รายได้จากการขายอีบุ๊คต้องแบ่งกี่ส่วน

เมื่อเทียบกับการขายอีบุ๊ค ผลตอบแทนนักเขียนจะขายได้มากกว่า เพราะสามารถตั้งราคาได้มากกว่า และคนซื้อก็จะจ่ายเงินให้เฉพาะนักเขียนเท่านั้น ช่วยให้ประหยัดเงินมากกว่าซื้อหนังสือหรือหากจะมีตัวแทนขายก็ ส่วนแบ่งเพียงรายเดียวเท่านั้น ก็คือเว็บไซต์ที่รับฝากขายอีบุ๊ค ประมาณ 30% เมื่อหนังสือราคาถูกลง คนซื้อก็ตัดสินใจซื้อได้ง่ายกว่า เช่น ตั้งราคาไว้ 30 บาท ก็ตัดสินใจซื้อไม่ยาก

สำหรับอีบุ๊คที่ขายดี ส่วนใหญ่จะเป็นนวนิยายมากกว่าหรือหนังสือแนวที่อ่านแล้วไม่ต้องจับใจความมากนัก อ่านเพื่อความบันเทิง ธรรมะ ปรัชญา เพราะการอ่านจากแท็บเล็ตจอสีสันสวยๆ นานๆ ปวดตาแน่นอน